เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2567 พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย.ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวชายขอบ”ถึงปฏิบัติการระเบิดสะพานโจรตัดสัญญาณโทรคมนาคมช่องทางการติดต่อสื่อสารของกลุ่มจีนเทาและขบวนการต้มตุ๋นทางออนไลน์ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ประเทศลาวและริมน้ำเมยฝั่งเมืองเมียววดี ประเทศพม่า ว่ามาตรการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีนี้เป็นวิธีการมองปัญหาไปยังจุดที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างคนร้ายกับประชาชน ดำเนินการเรื่องโทรศัพท์, ธนาคาร, โซเชียลแพลตฟอร์ม และข้อมูลของประชาชน
“ตอนนี้ที่เรามุ่งเน้นก็คือในส่วนของโทรศัพท์ผู้ให้บริการ เน้นที่เสาสายซิมบริเวณชายแดน ผลที่ตามมาตอนนี้คือลาว หลังวันที่ 25 สิงหาคม 2567 เขายืนยันกับเราว่าจะไม่มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้ว จากการตัดสัญญาณได้ส่งผลกระทบ เราเริ่มควบคุมคนไทยที่เข้าออกไปทำงานฝั่งนู้น ในส่วนฝั่งพม่ากับกัมพูชา ผมเพิ่งเข้าไปคุยเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว เราจะเน้นที่การโอเปอเรชั่นร่วมกัน ในกัมพูชาเรื่องเสาสายซิมก็ดำเนินการได้ในระดับหนึ่ง แต่ผมคิดว่าสิ่งที่ต้องทำตามมาคือการโอเปอเรชั่นเอาตัวคนจีนและคนไทยที่ร่วมกัน มาดำเนินคดี เราได้ส่งข้อมูลให้ทางกัมพูชาไปแล้ว ตรงนี้ขอให้รอนิดนึงเพราะกัมพูชาต้องออกหมายจับฝั่งของเขาด้วย ในส่วนของพม่าเมื่อวานคุยกับ ผบ.พม่า เขาก็เห็นด้วยในเรื่องการปราบปราม เดี๋ยวคงมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน”ผู้ช่วย.ผบ.ตร. กล่าว
พล.ต.ท.ธัชชัยกล่าวว่า เชื่อว่าการแลกเปลี่ยนข้อมูลจะทำให้การเคลื่อนไหวของคนร้ายที่เป็นคนจีนซึ่งเป็นตัวการที่เคลื่อนไหวไปมาจะเริ่มลำบากเพราะถูกจำกัดเป็นที่แล้ว ปกติเวลาเขาข้ามไปฝั่งนู้นเราก็จะบอก หรืออยู่ฝั่งนู้นข้ามมาฝั่งนี้ก็จะบอก ถ้าแชร์ข้อมูลกันก็พอจะรู้ว่าจุดที่คนจีนเทาไปอยู่คือตรงไหน ส่วนของคนไทยก็เช่นกัน ถ้าไม่มีคนไทยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ไม่เกิด เพราะมีคนไทยไปรับใช้มาเฟียจีน ก็จะให้ทางพม่าและกัมพูชาส่งตัวคนไทยมาให้เราด้วย จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน
ผช. ผบ.ตร.กล่าวถึงการดำเนินคดีกับกลุ่มจีนเทาที่หนีการปราบปรามมาจากคิงส์โรมัน ว่า จีนเทาเริ่มเคลื่อนย้าย โดยก่อนหน้านี้ก็มีการเคลื่อนย้ายมาตลอด
“เราเริ่มเห็นการเคลื่อนย้ายจากคิงส์โรมันมาอยู่ฝั่งกัมพูชา และฝั่งพม่ามีอยู่บ้าง แต่หลักๆอยู่ที่กัมพูชา ก็มีการจับกุมอยู่เรื่อยๆ มันไม่ได้มีรายเดียว ล่าสุดเราก็จับ และศาลก็ลงโทษไปยึดทรัพย์ มันก็ต้องจับกุมอีก ขยายผลอีก” พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงการดำเนินคดีกับคนไทยที่ไปรับจ้างในแหล่งอาชญากรรมคิงส์โรมันได้สั่งการจับกุมอย่างไรบ้าง ผู้ช่วย ผบ.ตร กล่าวว่า ประเด็นนี้ถ้ามีหมายจับตำรวจจะต้องดำเนินคดี แต่บางคนไม่มีหมายจับทางการไทยก็ต้องประสานงานขอให้เจ้าหน้าที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านไปจับกุมแล้วส่งตัวกลับมา
“เราก็จะดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฉ้อโกง หรืออาชญากรรมข้ามชาติ เรื่องที่กล่าวว่ามีคนไทยถูกหลอกไปทำงานในส่วนของผมเอง เมื่อบอกว่าถูกหลอก พอเอาเข้าจริงๆมันไม่ใช่ถูกหลอกในข้อเท็จจริง ผมว่าคนไทยเดี๋ยวนี้มีข้อมูลเพียงพอในการตัดสินใจเพราะคนไทยเล่นอินเตอร์เน็ตติดอันดับต้นๆของโลก การข้ามไปอย่างนั้นโดยเฉพาะการข้ามช่องทางธรรมชาติ ผมว่ามันไม่ชัดเจนเรื่องค้ามนุษย์ แต่ประเทศอื่นเราเห็น ประเทศไกลๆ 19 ประเทศที่ทางการจีนทำเรื่องมาขอตัว หรือประเทศอื่นมาขอตัวที่ อ.แม่สอด จ.ตาก อย่างนั้นก็เป็นไปได้เพราะไกล แต่อย่างคนไทยข้ามไปมา เขาก็กลับไปทำงานอีก ผมคิดว่าคนต่างชาติพวกนี้มันเลว 10 เปอร์เซ็นต์ของเงินที่ได้มาเป็นหมื่นๆแสนๆล้านบาทไปอยู่ที่คนต่างชาติหมด” ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าว
พล.ต.ท.ธัชชัยกล่าวว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ได้หลอกเฉพาะคนอาเซียนแต่มีเครือข่ายทั่วโลก อาศัยช่องว่างกฎหมายตั้งแหล่งอาชญากรรมในประเทศหนึ่งโดยไม่หลอกคนประเทศนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่ากลุ่มจีนเทาหนีการปราบปรามจากรัฐบาลลาวข้ามเข้ามากบดานในไทย พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าวว่า ถ้าเป็นจริงตามข่าวก็จะเป็นเรื่องที่ดีกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“ผมอยากให้พวกเขาเข้ามาอยู่ในประเทศไทยมาก เพราะจะง่ายสำหรับเรา พออยู่ไปในต่างประเทศแล้วเราไม่มีอำนาจเต็มและต้องใช้ความร่วมมือ แต่มันไม่ได้อยู่เฉพาะที่ไทย ผมคุยกับตำรวจดูไบเขาก็บอกว่ามันอยู่ดูไบเป็นแก๊งเดียวกัน มันมีเครือข่ายที่ใหญ่คล้ายๆเครือข่ายค้ายาเสพติด” พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าว
ในวันเดียวกันทหารหน่วยเฉพาะกิจ(ผก.ฉก.) ราชมนู ได้มีการช่วยเหลือชาวอินเดีย 21 คนจากแหล่งอาชญากรรมเคเคปาร์ค ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก โดยข้ามมาฝั่งไทย ซึ่งทั้งหมดถูกนำตัวส่งไปยังตำรวจตรวจคนเข้าเมือง อ.แม่สอด จ.ตาก โดยบางส่วนมีหนังสือเดินทาง แต่ส่วนใหญ่ไม่มีซึ่งทั้งหมดจะถูกส่งตัวกลับประเทศทันทีหลังจากส่งฟ้องศาลแล้วโดยไม่ผ่านกลไกการส่งต่อระดับชาติเพื่อการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหาย (National Referral Mechanism หรือ NRM)
พอ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ(ผก.ฉก.) ราชมนู อ.แม่สอด จ.ตาก เปิดเผยถึงกรณีที่ทางการจีนและลาวทลายแหล่งอาชญากรรมในเขตคิงส์โรมัน บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ สปป.ลาว ทำให้กลุ่มจีนเทาย้ายหนีมายัง อ.แม่สอดเพื่อข้ามไปทำธุรกิจในแหล่งอาชญากรรมฝั่งเมียวดี ว่ามีความเป็นไปได้ว่าคนกลุ่มนี้จะย้ายลงไปทางใต้บริเวณตรงข้ามกับด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี เนื่องจากบริเวณริมแม่น้ำเมยฝั่งเมียวดีมีความพยายามที่จะเคลียร์ไม่ให้มีธุรกิจผิดกฏหมาย ทำให้คนเหล่านี้ย้ายฐานลงไปทางใต้
“เท่าที่ทราบทางเมียวดีพยายามทำทุกอย่างให้ถูกกฎหมายมากขึ้นเพื่อให้เขาอยู่ได้ เพราะเป็นพื้นที่ที่เฝ้ามองและถูกจับตาอยู่ เขาจึงอยากทำให้สังคมยอมรับมากขึ้น เขาขีดเส้นว่าเดือนตุลาคมนี้จะต้องไม่มีธุรกิจผิดกฏหมายเหล่านี้อีกต่อไป ตอนนี้พวกเขาจึงขยับกันไปแล้วพอสมควร”พ.อ.ณัฐกร กล่าว
ผก.ฉก. ราชมนู กล่าวว่าบริเวณที่กลุ่มจีนเทาย้ายฐานไปอยู่นั้น อยู่ในเขตอิทธิพลของกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย(Democratic Karen Buddhist Army-DKBA) และกองกำลังสหภาพกะเหรี่ยง (Karen National Union-KNU ) กองพล 6 ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างซับซ้อนเพราะไม่มีเส้นทางจากฝั่งไทยไปถึงและอยู่ในหุบเขาซึ่งห่างจากชายแดนไทยราว 20 กม.เพราะเขาต้องการพื้นที่ที่คิดว่าหลบหูหลบตาได้
“บริเวณที่พวกเขาย้ายไปนั้น ในฝั่งโน้นมีเส้นทางไปถึง และตอนนี้เขาใช้สตาร์ลิ้งค์เชื่อมต่อสื่อสาร เขาแค่เปิดสัญญาณจากประเทศอื่นก็สามารถเชื่อมต่อไปได้ทั่วโลก พื้นที่โซนนี้เป็นป่าเขา ฝั่งเราไม่มีถนนเพราะเป็นป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เป็นเขตรอยต่อระหว่าง จ.ตากและ จ.กาญจนบุรี เขาจึงคิดว่าสามารถทำธุรกิจที่เราตรวจสอบได้ยาก”พ.อ.ณัฐกร กล่าว
ผก.ฉก.ราชมนู กล่าวว่าที่ผ่านมาพยายามสื่อสารไปยังฝั่งเมียวดีเพื่อให้ทำธุรกิจที่ถูกกฏหมายและสังคมโลกยอมรับได้ เราไม่ต้องการให้มีเรื่องของการค้ามนุษย์หรือการทำร้ายร่างกาย และหากมีเหยื่อที่ไม่ประสงค์ที่จะทำงานก็พร้อมช่วยเหลือรับตัวมา
ผู้สื่อข่าวถามถึงคนไทยที่ข้ามไปทำงานในแหล่งอาชญากรรมฝั่งเมียวดีโดยสมัครใจและเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการต้มตุ๋นทางออนไลน์จนสร้างความเดือดร้อนให้คนไทย จะต้องดำเนินการอย่างไร พ.อ.รัฐกรกล่าวว่า คนไทยบางกลุ่มได้ใช้วิธีผ่านด่านโดยหนังสือผ่านแดนซึ่งอนุญาตให้อยู่ได้ 14 วันซึ่งเป็นเรื่องที่แก้ไขยากพอสมควร แต่เข้าใจว่าตำรวจไซเบอร์เฝ้าติดตามอยู่ ขณะที่เราเองก็ได้ปราบปรามจับกุมด้วยเช่นกัน โดยครั้งก่อนจับอุปกรณ์ได้เยอะพอสมควร ยึดโทรศัพท์ได้นับพันเครื่อง
