เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านดู่ จังหวัดเชียงราย ได้รับแจ้งว่าแม่บ้านประจำห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ใกล้แยกท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ว่าพบโทรศัพท์มือถือจำนวน 19 เครื่อง ซุกซ่อนอยู่ในถังขยะภายในห้องน้ำชายของห้างดังกล่าว
แม่บ้านรายนี้เล่าว่า ขณะทำความสะอาดห้องน้ำได้พบกระเป๋าต้องสงสัยในถังขยะ เมื่อเปิดดูพบโทรศัพท์มือถือจำนวนมากถูกซ่อนอยู่ในกระเป๋า ซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นสีดำ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ห้างและตำรวจทราบทันที
จากการตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบว่าเมื่อเปิดโทรศัพท์แต่ละเครื่อง ระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์ทั้งหมดแสดงผลเป็นภาษาจีน สร้างความสงสัยเกี่ยวกับการใช้งานและที่มาของอุปกรณ์ดังกล่าว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าโทรศัพท์เหล่านี้เกี่ยวข้องกับขบวนการ Call Center หรือแก๊งสแกมเมอร์ที่เข้ามาปฏิบัติการในประเทศไทยหรือไม่
ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบหมายเลขเครื่อง การลงทะเบียน และข้อมูลภายในโทรศัพท์แต่ละเครื่องเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในห้างสรรพสินค้า และจะติดตามเบาะแสผู้ที่นำโทรศัพท์มาทิ้ง เพื่อตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรรมหรือไม่ โดยตำรวจขอความร่วมมือจากประชาชน หากมีเบาะแสเพิ่มเติมหรือพบพฤติกรรมที่น่าสงสัยในบริเวณดังกล่าว ให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ทันที เพื่อช่วยป้องกันการกระทำผิดกฎหมายและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากอุปกรณ์เหล่านี้
อนึ่งก่อนหน้านี้เมื่อสิงหาคมที่ผ่านมา ทางการลาว จีนและเวียดนามได้ร่วมกันปราบปรามขบวนการคอลเซ็นเตอร์ครั้งใหญ่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำโดยเฉพาะพื้นที่คิงส์โรมันซึ่งเป็นบ่อนคาสิโนโดยระหว่างวันที้ 9-25 สิงหาคมได้ยื่นคำขาดให้ธุรกิจผิดกฏหมายออกจากพื้นที่และวันที่ 26-27 สิงหาคมได้มีการปฎิบัติการปราบปราม ทำให้ขบวนการคอบเซ็นเตอร์จำนวนมากต้องหนีออกนอกพื้นที่มายังฝั่งไทย และบางส่วนเดินทางต่อไปยังเมืองเมียวดี ประเทศพม่าตรงข้ามกับ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยในช่วงนี้ตำรวจไทยสามารถจับกุมชาวจีนลักลอบเข้าเมืองผืดกฏหมายพร้อมอุปกรณ์สื่อสารโดยเฉพาะมือถือได้บ่อยครั้ง