มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ (The Shan Human Rights Foundation – SHRF) ได้ออกรายงานเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า กองทัพพม่ายังคงใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในหลายเมืองทางเหนือของรัฐฉาน ประเทศพม่าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมืองสี่ป้อ เมืองจ๊อกเม เมืองหนองเขียว เมืองไหย เมืองน้ำคำ เมืองน้ำตู้ และเมืองล่าเสี้ยว ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองในรัฐฉาน โดยระยะเวลาระหว่างวันที่ 26 สิงหาคม- 6 ตุลาคม 2567 มีพลเรือนผู้บริสุทธิ์ต้องเสียชีวิตจากเหตุโจมตีทางอากาศถึง 55 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 139 คน และบ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 450 หลัง รวมถึงวัด โรงแรม โรงเรียน โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย
ในรายงานของ SHRF ระบุว่า กองทัพพม่ายังคงเดินหน้าทิ้งระเบิดทางอากาศในเมืองที่กลุ่มติดอาวุธฝ่ายต่อต้านยึดได้ และถึงแม้เมืองเหล่านี้จะไม่มีเหตุสู้รบก็ตาม แต่ประชาชนกลับยังต้องสูญเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งบ้านเรือนได้รับความสียหาย โดยการโจมตีทางอากาศของกองทัพพม่ายังคงเป็นสาเหตุหลักต่อความสูญเสียเหล่านั้น เช่นที่เมืองสี่ป้อและบริเวณหมู่บ้านใกล้เคียง โดยในรอบ 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ประชาชนในเมืองสี่ป้อต้องเสียชีวิต 18 ราย และบาดเจ็บ 33 ราย จากการทิ้งระเบิดและการโจมตีด้วยปืนใหญ่ของกองทัพพม่า บ้านเรือนจำนวน 120 หลังได้รับความเสียหายย่อยยับ ซึ่งมีทั้งวัด 3 แห่ง โรงพยาบาล 1 แห่ง โรงแรมอีก 1 แห่งรวมอยู่ด้วย
ในรายงานของมูลนิธิ SHRD ยังระบุด้วยว่า กองทัพพม่าเลือกที่จะโจมตีหมู่บ้านที่อยู่ใกล้กับท่อส่งก๊าซและน้ำมันของจีน รวมถึงการเลือกโจมตีในยามวิกาล เหมือนตัวอย่างเช่นที่เกิดขึ้นในเมืองจ๊อกเม ระหว่างวันที่ 27 – 29 เดือนสิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา เหตุการณ์ในครั้งนั้น มีประชาชนเสียชีวิตจำนวน 1 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย และตึกอาคารเสียหาย 7 หลัง ซึ่งรวมถึงโรงเรียนชั้นมัธยมปลายรวมอยู่ด้วย และในพื้นที่นี้ ทางกองทัพปะหล่อง TNLA และกองทัพเพื่อประชาชน PDF สามารถยึดมาได้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้ กองทัพพม่า ยังเลือกที่จะโจมตีในเขตชุมชนที่ไม่มีศึกสงคราม เหมือนเช่นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2567 ที่กองทัพพม่าใช้เครื่องบินรบโจมตีในหมู่บ้านม่านลี่และหมู่บ้านป่างโหลง ในเมืองน้ำตู้ ซึ่งเป็นเขตควบคุมของกองทัพปะหล่อง TNLA โดยในพื้นที่นี้ไม่มีศึกสงครามมาตั้งแต่ปีที่แล้ว อีกพื้นที่หนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุโจมตีทางอากาศคือเมืองน้ำคำ เช่นเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 ในช่วงกลางดึกขณะที่ประชาชนกำลังหลับใหลอยู่นั้น กองทัพพม่าทิ้งระเบิด น้ำหนัก 226.8 กิโลกรัม ที่ตลาดใหญ่ในเมืองน้ำคำ เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้มีบ้านเรือนเสียหาย 70 หลัง ประชาชนเสียชีวิต 13 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 13 คน ในจำนวนผู้เสียชีวิตมีทั้งเด็กอายุ 7 ขวบ และ 12 ขวบ รวมถึงหญิงตั้งครรภ์รวมอยู่ด้วย หลังเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ประชาชนในเมืองน้ำคำไม่กล้านอนที่บ้านของตัวเองในตอนกลางคืน ชาวบ้านบางส่วนเลือกที่จะไปนอนตามวัดหรือริมฝั่งแม่น้ำมาว
ขณะที่ในเมืองล่าเสี้ยวนั้น ซึ่งถูกกองทัพโกก้าง MNDAA ยึดได้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และกองทัพพม่าพ่ายในภาคพื้นที่ดิน กองทัพพม่าจึงตอบโต้ด้วยการทิ้งระเบิดในเมืองล่าเสี้ยวอย่างต่อเนื่อง มีประชาชนเสียชีวิตจากเหตุโจมตีทางอากาศแล้ว 10 คน บาดเจ็บอีก 56 คน บ้านเรือนเสียหาย 180 หลัง รวมถึงโรงแรม 7 แห่ง และมหาวิทยาลัยในพื้นที่อีก 2 แห่ง วิทยาลัยช่างอีก 1 แห่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม เหตุทิ้งระเบิดในภาคเหนือของรัฐฉาน ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเมื่อเวลา 02.00 ของวันนี้ (10 ตุลาคม 2567) กองทัพพม่าได้ทิ้งระเบิดโจมตีเมืองแสนหวี เบื้องต้น มีรายงานบ้านเรือนหลายหลังได้รับความเสียหายอย่างหนัก
————
ภาพจาก Shan Human Rights Foundation (SHRF)