สำนักข่าวชายขอบ
Transborder News

Search

ผบ.สส.เจรจาทางการพม่าจัดระเบียบแม่น้ำสาย “ภูมิธรรม” ส่งมอบพื้นที่หลังฟื้นฟูจากน้ำท่วม ให้ อปท. เดินหน้าเฟส 2 ฟื้นท่องเที่ยว-เศรษฐกิจ คู่ขนานการแก้ปัญหาระยะยาวก่อนฝนหน้า

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 ณ ด่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนม่า แห่งที่ 1 อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เป็นประธานพิธีส่งมอบพื้นที่ประสบอุทุกภัย พร้อมด้วย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธาน ศปช.ส่วนหน้า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะที่ปรึกษา ศปช.ส่วนหน้า พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ กำลังพล ภาครัฐ ภาคเอกชน จิตอาสา และประชาชน

นายโชตินรินทร์ เกิดสม รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวรายงานสถานการณ์อุทกภัย จ.เชียงราย การบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน หน่วยงานภาคีเครือข่ายและภาคประชาชนจำนวนทั้งสิ้น 135 หน่วยงาน มีทรัพยากรและเครื่องจักรกลเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจ 1,724หน่วย และกำลังพล 8,826 นาย โดยมีการยกระดับปฏิบัติภารกิจฟื้นฟูและกู้พื้นที่อย่างเร่งด่วนภายใต้แผนปฏิบัติการ(Quick win) ในจังหวัดเชียงราย ระยะเวลา 21 วัน (ระหว่างวันที่ 1 – 21 ตุลาคม 2567) จากนี้ไปจะเป็นการฟื้นฟูในระยะที่ 2 ที่จะดำเนินการเร่งซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ฟื้นฟูกิจการช่วยเหลือผู้ประกอบการ มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาประชาชนผู้ประสบอุทกภัยจากหน่วยงาน ระเบียบที่เกี่ยวข้อง และเงินบริจาค จังหวัดเชียงรายดำเนินการช่วยเหลือแล้วเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 504 ล้านบาท ดำเนินการช่วยเหลือสำเร็จ 28,659 ครัวเรือน เป็นเงินกว่า 257 ล้านบาท

นายภูมิธรรม กล่าวว่า กว่า 40 วัน ที่ชาว อ.แม่สาย ได้ฝ่าวิกฤตการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่ม ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวแม่สาย จากนี้ไปจะเป็นการฟื้นฟูระยะที่ 2 ซึ่งจะเน้นด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้มีความแข็งแรงเพื่อป้องกันภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

รองนายกฯ กล่าวว่า ส่งมอบพื้นที่เฟส 1 เข้าสู่เฟส 2 ฟื้นเศรษฐกิจ และฝนหน้าต้องลดความเสียหายให้ได้มากที่สุด จะต้องขุดลอกแม่น้ำสายตามแนวพื้นที่เศรษฐกิจแม่สายทั้งหมด อาจจะต้องมีการรื้อถอนในสิ่งที่จะกีดขวางทางน้ำ และทำแก้มลิงเพื่อรับน้ำ มีการน้ำเครื่องมือระบายน้ำออกไปข้างนอก จะทำให้ทางน้ำกว้างขวางขึ้น จริงๆแม่น้ำสายลึกถึง 5 เมตร แต่ขณะนี้ลึกเพียง 1.5 เมตร โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยโดยสำนักงานป้องกันสาธารณะภัย และกระทรวงกลาโหม กองทัพไทย โดยกรมทหารช่าง ทหารพัฒนา กองทัพบก และกรมโยธาฯ ของมหาดไทย กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบทของกระทรวงคมนาคม และสำนักงานเจ้าท่า ไปดูกันว่าจะทำอะไรบ้าง ขั้นต้นเราได้คุยกันคงต้องเอารายละเอียดมาคุยกันเพิ่มเติม เพื่อมาแก้ไขระยะยาว

“ผบ.ทบ. ได้คุยกับทางการเมียนมาว่าจะทำงานร่วมกันจะทำงานร่วมกันเพราะเป็นแม่น้ำระหว่างประเทศ ต้องตกลงกันในการขุดดินโคลนจากแม่น้ำสาย ต้องหาพื้นที่ทำแก้มลิงเพื่อระบายน้ำ เส้นทาง 2 กม.กว่า เราต้องพิจารณาทำพนังให้มั่นคงแข็งแรงมากขึ้น และขุดลอกลำน้ำสาย ต้องขอบคุณกองทัพไทยที่ได้ประสานงานกับทางรัฐบาลเมียนมา”รองนายกกล่าว

นายภูมิธรรมกล่าวว่า ถ้างบประมาณไม่มากเกินไป นายกรัฐมนตรีสามารถใช้งบกลางในเรื่องเกี่ยวกับภัยพิบัติได้อยู่แล้ว ในเรื่องการแก้ไขปัญหาระยะยาว ผมคิดว่าถ้าเราสามารถคุยกันได้เร็วและสามารถอนุมัติได้ ภายใน 2 เดือน ไม่เกิน 3 เดือน เราน่าจะเริ่มต้นได้ เพราะเราต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อไม่ให้ปีหน้าเราไม่ต้องเผชิญเหตุการณ์ซ้ำอีก

“สำหรับทางฝั่งเมียนมาต้องเห็นใจว่า ขณะนี้เขาอยู่ในภาวะสงครามภายใน บางทีก็อาจจะไม่มีเวลาเพียงพอที่จะมาแก้ปัญหา เรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจร่วมกัน หลายเรื่องเพื่อป้องกันตัวเอง เราก็ต้องใช้ส่วนของเราเป็นหลัก แต่ว่าแค่เขาเริ่มต้นด้วยการยินยอมอนุมัติให้เราไปทำงานในแม่น้ำสายนานาชาติเป็นสิ่งที่ดีแล้ว”นายภูมิธรรมกล่าว และว่า ส่วนเรื่องย้ายเมืองเป็นเรื่องหลังสุด ถ้าไม่มีวิธีอื่น

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า สำหรับระบบการแจ้งเตือนภัยนั้น ทาง ผบ.สูงสุดได้คุยกับทางเมียนมา ไม่น่ามีปัญหาอะไร บางส่วนได้ข้อตกลงไปติดตั้งบ้างแล้ว ถ้าติดตั้งได้หลายจุดมากขึ้นสามารถทำให้เราได้รับรู้ล่วงหน้า ส่วนกรณีที่มีข้อสังเกตว่า ดินโคลนที่มาจากเหมืองที่มาจากดินแดนเมียนมา รองนายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องเจรจากับเมียนมา เพราะเป็นสิทธิในอาณาเขตของเขา อย่างไรก็ตามธรรมชาติทางนั้นไหลลงมา เราก็ต้องป้องกันฝ่ายเรา

รายงานข่าวแจ้งว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงทราบว่ามีการทำเหมืองแร่ตอนบนของแม่น้ำสาย และส่งผลกระทบต่อการปนเปื้อนของสารต่างๆลงแม่น้ำสาย อย่างไรก็ตามขณะนี้ ผบ.สส.กำลังเจรจาอยู่กับทางการพม่า ขณะเดียวกันได้มีการนำตะกอนดินที่มากับน้ำท่วมครั้งนี้ส่งไปตรวจพิสูจน์ยังห้องแลบ ซึ่งหลังจากทราบผลแล้วจะมีการนำไปเจรจากับทางการพม่าอีกครั้ง

On Key

Related Posts

“ครูแดง”ชี้มติ ครม.ลดขั้นตอนให้สัญชาติ 4.8 แสนคนถือว่าปฎิรูประบบพัฒนาสถานะบุคคล จี้สมช.-มท.ออกกม.เร่งช่วยคนเฒ่าไร้สัญชาตินับแสนคนที่กำลังเปราะบาง พ่อเฒ่าแม่เฒ่ากลุ่มชาติพันธุ์คึกคักสอบสัมภาษณ์ขอสัญชาติไทย เผยอยู่ไทยร่วม 50 ปีแต่ไม่มีบัตรประชาชน

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ที่ห้องประชุมธรรมลังกRead More →

เหยื่อทวงคืนผืนป่า “ป้าวันเสาร์” ห่วงชาวบ้านหนองหญ้าปล้องถูกจับบุกรุกป่า ด้าน กมธ.ที่ดินฯ ชี้ควรเร่งสำรวจที่ดินร่วมกับชุมชนรอบป่าแก่งกระจาน

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า Read More →

“กัณวีร์”จี้รัฐบาลเร่งช่วยเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ 110 คนจากแหล่งอาชญากรรมริมน้ำเมย แฉฟรีวีซ่าจีนกลายเป็นช่องทางข้ามไปคาสิโน ระบุรัฐบาลไทยตกหล่มรัฐบาลทหารพม่า เหยื่อชาวบังคลาเทศวอนรัฐบาลช่วยเหลือด่วน เผยจีนเทาสุดโหด

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรRead More →