กองทัพปลดปล่อยประชาชนพม่า หรือ BPLA (Bamar People’s Liberation Army) ซึ่งนำโดย’หม่อง ส่องคา’ นักกวีต่อต้านสงคราม ได้ประกาศ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2567 ซึ่งครบรอบ 1 ปี ปฏิบัติการ 1027 ว่า ขณะนี้ทางกลุ่มพร้อมที่จะย้ายฐานทัพและเข้าไปเคลื่อนไหวทางตอนกลางของประเทศ หลังจากที่เคลื่อนไหวต่อต้านกองทัพพม่าร่วมกับพันธมิตรทั้งในรัฐกะเหรี่ยงและรัฐฉาน

 กลุ่ม BPLA ก่อตั้งขึ้นมา หลังจากที่มีการยึดอำนาจเพียง 2 เดือนในปี 2564 โดยมีกำลังพลอยู่ราว 1,200 คน ซึ่ง โก่ ลิน ลิน โฆษก BPLAให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Irrawaddy ว่า ทางกลุ่มจะปฏิบัติการทางทหารมากขึ้นในเขตสะกาย เขตมะโกยและในเขตมัณฑะเลย์ ในฐานะกองทัพซึ่งเป็นตัวแทนของชนชาติพม่า และจะเข้าไปเคลื่อนไหวในพื้นที่ที่มีชาวพม่าอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่

“เราได้มีการเตรียมพร้อมมานานเป็นเวลากว่า 3 ปี เพื่อตั้งฐานที่มั่นทางตอนกลางของประเทศ” โฆษก BPLA กล่าว โดยก่อนหน้านี้ทางผู้นำของกลุ่มคือหม่อง ส่องคา ระบุว่า พวกเขาจะทำงานร่วมกับกองทัพเพื่อประชาชน PDF ภายใต้รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติพม่า (NUG)

“ในปฏิบัติการทางทหารภาคกลางของประเทศ  BPLA จะให้ความสำคัญกับการสร้างความสามัคคีระหว่างกลุ่มต่อต้านเป็นอันดับแรก ขณะนี้ เรากำลังระดมกลุ่มเล็กๆที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของ NUG จากนั้นจะให้การฝึกอบรมที่เหมาะสมแก่พวกเขา จึงจะดำเนินการปฏิบัติการทางทหารต่อไป เราจึงขอเชิญชวนเยาวชนในภาคกลางที่ต้องการต่อสู้กับระบอบการปกครองทหาร เข้าร่วมกับเรา’ โก่ ลิน ลิน กล่าว

นอกจากกลุ่ม BPLA แล้ว ขณะนี้ ยังมีกองกำลังติดอาวุธอีกกลุ่มหนึ่ง คือ กองทัพปลดปล่อยประชาชน (People’s Liberation Army -PLA) กำลังเตรียมรุกโจมตีกองทัพพม่าเพิ่มขึ้นในพื้นที่ทางตอนกลาง หลังจากกลุ่มนี้ได้ต่อสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมกับกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ในตอนเหนือของรัฐฉานและเขตมัณฑะเลย์ในปฏิบัติการ 1027 ซึ่งปฏิบัติการ 1027 ในเฟส 2 นั้น ทางกลุ่ม PLA ยังเข้าปฏิบัติการทางทหารทั้งในเมืองมัตตะหย่า เมืองตะเบ้กขิ่น และเมืองกุด ในเขตมัณฑะเลย์ด้วย ขณะนี้แผนขั้นต่อไปของกลุ่ม PLA จะปฏิบัติการทางทหารมากขึ้นในเขตสะกายร่วมกับพันธมิตรกลุ่มใหม่ๆในพื้นที่ดังกล่าว

“นอกจากกระทรวงกลาโหมของ NUG แล้ว ยังมีกลุ่มอาวุธท้องถิ่นอื่นๆ อีกหลายกลุ่มในภูมิภาคสะกาย เราจะร่วมรบไปพร้อมกับพวกเขา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการกำจัดศัตรูร่วม นั่นคือกองทัพพม่า เราจะร่วมรบกับพวกเขาด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและความเคารพซึ่งกันและกัน” โฆษกของ PLA กล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าส่วนใหญ่จะยินดีกับแผนปฏิบัติการย้ายฐานที่มั่นเข้าไปทางตอนกลางของพม่า แต่ประชาชนบางส่วนก็กังวลว่า แผนการดังกล่าวจะก่อให้เกิดความขัดแย้งกับกลุ่มต่อต้านกองทัพพม่ากลุ่มอื่นๆที่อยู่ในพื้นที่แล้วหรือไม่ โดยนายโก่ โซ วิน ส่วย เจ้าหน้าที่จากองค์กร Sagaing Forum ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่สนับสนุนประชาธิปไตยระดับรากหญ้ากล่าวว่า เราต่อสู้กับระบอบทหารพม่า แม้ว่าจะมีเพียงปืนไรเฟิลล่าสัตว์และระเบิดทำเองก็ตาม การปฏิวัติจะแข็งแกร่งขึ้นหากมีกลุ่มปฏิวัติจากภูมิภาคอื่นเข้ามาร่วมต่อสู้ในภูมิภาคของเราด้วย แต่หากพวกเขามีวาระทางการเมืองนอกเหนือจากการต่อสู้กับระบอบการปกครองทหารพม่า จะต้องมีการเจรจาและหารือกันเบื้องต้น มิฉะนั้น สิ่งต่างๆ อาจซับซ้อนขึ้นได้” เขากล่าวเตือน

ผู้สังเกตการณ์ทางทหารรายหนึ่งคาดการณ์ว่าจะมีการสู้รบเพื่อควบคุมเมืองต่างๆมากขึ้นหลังฤดูฝน หากทหารที่จงรักภักดีต่อรัฐบาล NUG ถอนกำลังกลับไปที่ตอนกลางของประเทศ การสู้รบจะรุนแรงขึ้นในฤดูแล้งที่จะมาถึง โดยกลุ่มติดอาวุธและมีอาวุธครบมือจะเดินทางกลับมายังภาคกลางของพม่า ขณะที่กองทหารภาคที่ 1 ของกระทรวงกลาโหมภายใต้ NUG กำลังระดมกำลังทหาร หลังจากยึดเมืองปิ่นเลบู ในเขตสะกาย ดังนั้นจึงคาดหวังได้ว่า จะมีการสู้รบเพื่อควบคุมเมือง” เขากล่าว

—————

แปลและเรียบเรียงจาก Irrawaddy
ภาพโดย Maung Saungkha Facebook

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.