สำนักข่าว Eleven Media Group รายงานเมื่อวันที่ 3 พ.ย.2567 ว่า เจ้าหน้าที่ปราบปรามการค้ามนุษย์ของทางการพม่าสามารถจับกุมนาย GAO FENGYING ชาวจีน และหญิงชาวพม่าอีก 3 คน ที่กำลังจะเดินทางมุ่งหน้าไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ซึ่งมีจุดหมายปลายทางคือประเทศจีน โดยเจ้าหน้าที่ของทางการพม่าพบเห็นมีท่าทางพิรุธจึงเรียกสอบปากคำ ก่อนที่จะพบว่า ชายจีนกำลังพาหญิงชาวพม่าทั้ง 3 ราย เดินทางเพื่อไปเป็นภรรยาของชาวจีน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติมัณฑะเลย์ เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่เพิ่งได้รับการเปิดเผยเมื่อเร็วๆนี้

สื่อพม่ารายงานว่า แก๊งค้ามนุษย์เหล่านี้ได้ล่อลวงหญิงสาวจากพม่าด้วยสื่อสังคมออนไลน์ผ่าน Facebook และ Tik Tok โดยหลังจากจับกุมนาย GAO FENGYING  ชาวจีนได้แล้ว ทางการพม่ายังสามารถช่วยเหลือหญิงสาวได้ 11 คน ที่ถูกกุมขังไว้ที่อาคารแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บนถนน 64 (D) ในเมืองปยีจีตะกุ่น ในเขตเมืองมัณฑะเลย์ โดยหญิงสาวทั้งหมดที่ถูกกักขังไว้นั้น กำลังเตรียมถูกส่งไปขายเป็นภรรยาของชาวจีนด้วย

นอกจากนาย GAO FENGYING  แล้ว ทางการพม่ายังขยายผลจับกุมนางมาร์ มาร์ ที่เป็นผู้ดำเนินการจัดส่งหญิงสาวให้ชายจีนอีกด้วย และยังมีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคนที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ในครั้งนี้ด้วย โดยแก๊งค้ามนุษย์เหล่านี้ได้เช่าตึกไว้ และนำหญิงสาวที่จะถูกไปยังให้ชายจีนมาอยู่ที่ตึกแห่งนี้ และมีการคัดเลือกหญิงสาวผ่านทางออนไลน์ หลังจากหญิงสาวที่ได้รับการคัดเลือกแล้วก็จะถูกนำมายังอาคารที่แก๊งค้ามนุษย์ได้เช่าไว้ และในเวลาต่อมามีการดำเนินการเรื่องหนังสือเดินทาง รวมไปถึงวีซ่าแต่งงานให้กับหญิงสาวเหล่านี้

จากการสอบสวนของทางการพม่าพบว่า หญิงสาวกลุ่มดังกล่าวที่ถูกล่อลวงให้เป็นภรรยาชาวจีน ได้ค้นหางานผ่าน Facebook และ TikTok ขณะที่การส่งหญิงจากพม่าไปขายให้เป็นภรรยาชาวจีน ในอดีตนั้นมักส่งผ่านบริเวณชายแดน แต่ในปัจจุบันกลับพบว่า พวกเธอเหล่านี้ถูกส่งไปยังประเทศจีนผ่านประเทศไทย ในอดีต องค์กรผู้หญิงคะฉิ่นแห่งประเทศไทย (KWAT) เคยออกมารายงานว่า ปัจจัยที่ทำให้ผู้หญิงตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์มาจากนโยบายการปกครองประเทศของรัฐบาลทหารพม่าที่ล้มเหลว และนำมาสู่ปัญหาต่างๆตามอย่างเช่น ปัญหาความยากจน ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งผลักดันให้เกิดการค้ามนุษย์มากขึ้น

ทั้งนี้รัฐคะฉิ่น ทางเหนือประเทศพม่าและมีพรมแดนติดกับประเทศจีนนั้น ก็เป็นแหล่งการค้ามนุษย์ มีทั้งการนำเด็กและผู้หญิงไปยังประเทศจีน เพื่อทำงานในแหล่งบริการ สถานบันเทิงที่เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีรวมอยู่ด้วย อีกทั้งมีการขายหญิงสาวชาวคะฉิ่นไปเป็นภรรยาของชายชาวจีน ซึ่งหญิงสาวบางส่วนต้องสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยไม่รู้ะตากรรม

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.