เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 นายซายิด อาลัม ประธานชมรมโรฮิงญาประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ถึงขบวนการค้ามนุษย์ที่ใช้ประเทศไทยลักลอบขนชาวโรฮิงญาจากชายแดนด้าย อ.แม่สอด จ.ตาก โดยผ่านพื้นที่ กทม.และภาคใต้ก่อนส่งไปยังประเทศมาเลเซียว่า ได้มีการลักลอบนำโรฮิงญาอพยพมาพักในพื้นที่จังหวัดต่างๆหลายจุด ขบวนการค้าชาวโรฮิงญาฝั่งเมียวดีซึ่งขณะนี้มีนับพันคนที่กำลังรอรับเข้ากรุงเทพ โดยเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ชาวโรฮิงญาถูกจับระหว่างลักลอบเดิยทางก่อนถึง จ.กำแพงเพชร กว่า 30 คน

นายซายิดกำล่าวว่า มีการส่งตัวชาวโรฮิงญาที่ถูกจับไปที่ จ.กาญจนบุรี เพื่อส่งกลับพม่า แต่เมื่อส่งไปแล้วชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ก็ถูกรับตัวกลับมาอีกโดยเสียค่าหัวคนละ 7 หมื่น- 1.5 แสนบาท จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์กลุ่มนี้ด้วย ดูแล้วน่าเป็นห่วง

“ผมเพิ่งได้รับเรื่องขอให้ช่วยเหลือกรณีที่ผู้หญิงชาวโรฮิงญาถูกข่มขืน 3 คน อยู่ จ.ปัตตานี 1 คน และ จ.นราธิวาส 1 คน เขาโดนจับที่ จ.สุราษฎร์ธานีแล้วถูกส่งไปชายแดนอีก” นายซายิด กล่าว

ประธานชมรมโรฮิงญาประเทศไทย กล่าวว่า ขบวนการค้าโรฮิงญาจากฝั่งเมียวดีมีผู้เกี่ยวข้อง 3 ส่วน คือ เจ้าหน้าที่ ชาวโรฮิงญา และนายหน้าคนไทย โดยชาวโรฮิงญาถูกขายในราคา 1.5 -1.6 แสนบาท ทำให้รู้สึกกังวลใจว่าสุดท้ายประเทศไทยจะเสียชื่อ ซึ่งตนก็ไม่รู้จะบอกใครว่าอยากให้ปราบปรามพวกค้ามนุษย์ได้หรือไม่ เพราะดูแล้วน่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง พูดแล้วพวกตนก็จะลำบากไปด้วย เพราะเวลาถูกจับพวกค้ามนุษย์จ่ายค่าปรับแล้วก็ได้รับการปล่อยตัว

นายซายิด ยังกล่าวอีกว่า สาเหตุที่ชาวโรฮิงยาอพยพเข้ามาในไทยจำนวนมากเนื่องจากที่รัฐยะไข่มีการสู้รบกันระหว่างกลุ่มกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์กับรัฐบาลพม่าอย่างหนัก

“มันไม่มีอะไรจะกิน ไม่มีอะไรจะทำ หาเงินไม่ได้ เลยเข้ามาเยอะ ขบวนการค้ามนุษย์ก็หลอกมาเยอะเพราะได้เงินเยอะ” ประธานชมรมโรฮิงญาประเทศไทย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การอพยพหนีสงครามของชาวโรฮิงญาผ่านประเทศไทยมีจุดหมายที่ไหนหรือไม่ นายซายิด กล่าวว่า ไม่ได้มีจุดหมายที่อยากจะไป แค่อยากให้ชีวิตปลอดภัยมากกว่าเพราะรัฐยะไข่รบกันหนักมาก บางทีทหารจับชาวบ้านไปทรมาน ข่มขืนผู้หญิง เผาหมู่บ้าน พวกเขาอยู่กันไม่ได้เลยต้องอพยพมาแล้วยังต้องตกมาอยู่ในมือของขบวนการค้ามนุษย์อีก ถูกไถเงิน ถูกทรมาน บางทีไม่มีก็ถูกข่มขืนแล้วขายให้กับธุรกิจประมงต่อ ปัญหาหนักมากขึ้น

“อยากให้ตั้งค่ายอพยพ หรือมีค่ายพักพิงชั่วคราวที่ชายแดนก็ได้ เมื่อประเทศเขาสงบแล้วพวกเขาก็จะกลับเอง อาจตั้งรอบๆชายแดน จะที่ อ.แม่สอด ก็ได้ เป็นค่ายอพยพอะไรก็ได้กักไว้ตรงนั้นไม่ต้องให้เข้ามาในประเทศไทย มาวุ่นวาย มาลำบาก ไม่ให้อยู่ในมือพวกค้ามนุษย์ ซึ่งรัฐบาลน่าจะผลักดันได้” นายซายิด กล่าว

ทั้งนี้เมื่อ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทหารหน่วยบเฉพาะกิจราชมนู จัดกำลังลาดตระเวน และเฝ้าตรวจ บริเวณ บ้านพบพระทรายงาม ต.พบพระ อ.พบพระ จว.ตาก และพบกลุ่มบุคคล เดินเท้าเข้ามาในบริเวณภูมิประเทศ จึงได้ทำการแสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบ จากการซักถาม พบว่าเป็นกลุ่มแรงงาน ชาวโรฮิงญาลักลอบเข้าเมือง เพื่อต้องการไปทำงานในประเทศมาเลเซีย จำนวน 18 ราย โดยเป็นชาย 12 ราย หญิง 4 ราย และ เด็ก 2 ราย จึงได้ควบคุมตัวส่งมอบให้ตำรวจ สภ.พบพระ เพื่อดำเนินการตามกฏหมาย

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.