สำนักข่าว CamboJA ของกัมพูชา รายงานเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567ว่า นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม 6 คนที่ถูกจับกุมในจังหวัดสตึงแตรงเมื่อเช้าววันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะกำลังสืบสวนการตัดไม้ผิดกฎหมายใกล้กับสัมปทานที่ดินทางเศรษฐกิจ ได้รับการปล่อยตัวภายหลังการสอบสวนของตำรวจทหารเป็นเวลา 2 วัน

ผู้ถูกคุมขังรวมถึง อูท เล็ง (Ouch Leng) ซึ่งได้รับ รางวัล Goldman Environmental Prize ได้ถูกจับกุมและได้รับการปล่อยตัวในปี 2021 ในระหว่างการสืบสวนด้านสิ่งแวดล้อมที่คล้ายกัน รวมถึงเพื่อนร่วมงานที่ทำงานร่วมกันมายาวนานอย่าง เฮง สรอ (Heng Sros) และ เมน แม็ต (Men Mat) ซึ่งถูกคุมขังร่วมกับเขาในปีนั้น

นอกจากนี้ยังมีนักข่าวอิสระและนักรณรงค์ ทัด อุดม (Tat Oudom) และ อูต ลาทิน ผู้ประสานงานโครงการ Cambodian Youth Network และนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม พูม เมา Prum Mao ซึ่งไม่ทราบชื่อในตอนแรกที่ถูกจับกุม

เซง โสเพียบ ผู้บังคับการตำรวจทหารจังหวัดสตึงเตร็ง ยืนยันการปล่อยตัวกลุ่มดังกล่าว เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 25 พฤศจิกายน

“พวกเขาได้รับอนุญาตให้กลับบ้านตามคำสั่งของอัยการ” เขากล่าว และส่งต่อคำถามต่อไปยังอัยการที่รับผิดชอบคดี

เชีย โซเพียบ โฆษกประจำสำนักงานอัยการศาลจังหวัดสตรึงเตร็งปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นหรือซักถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงื่อนไขการปล่อยตัว และไม่ตอบรับสายโทรศัพท์หลายสาย

อม แซม อัธ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการกลุ่มสิทธิมนุษยชน Licadho ในกัมพูชา แสดงความชื่นชมต่อการตัดสินใจปล่อยตัวนักเคลื่อนไหว “ผมคิดว่าพวกเขาเป็นนักปกป้องสิ่งแวดล้อมและนักเคลื่อนไหวที่ไม่ควรถูกจับเพราะการกระทำของพวกเขาเพื่อปกป้องป่าและทรัพยากรธรรมชาติ แม้ว่าพวกเขาจะเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม แต่ก็เป็นไปเพื่อจุดประสงค์ในการปกป้องป่า”

อม แซม อัธ กล่าวว่า ทีมของ Licadho ได้พูดคุยสั้นๆ กับกลุ่มนักเคลื่อนไหวหลังจากที่พวกเขาได้รับการปล่อยตัว แต่ไม่ได้รับรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับเงื่อนไขที่แนบมา

เมน กุง โฆษกประจำจังหวัดสตึงเตร็ง กล่าวว่า บุคคลทั้ง 6 คนได้รับการปล่อยตัวภายหลังหารือกับทนายความของพวกเขา และหลังจากยอมรับผิดในการเข้าไปในพื้นที่ที่หวงห้าม โดย เจ้าหน้าที่ได้ตักเตือนพวกเขาไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวอีก

“พวกเขาได้ยอมรับความผิดพลาดและยอมรับว่าการกระทำของพวกเขาละเมิดข้อจำกัด” กุงกล่าว “พวกเขาสัญญาว่าจะไม่ทำผิดซ้ำอีก ปฏิบัติตามกฎ และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่และอัยการ”

ผู้สื่อข่าว CamboJA News ไม่สามารถยืนยันได้ว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการกำหนดเขตห้ามเข้าอย่างชัดเจนหรือไม่ แม้ว่าจะเพื่อการปกป้องสิ่งแวดล้อมหรือเพื่อการสืบสวนก็ตาม คดีในอดีตที่เกี่ยวข้องกับการจับกุมนักเคลื่อนไหว นักข่าว และนักต่อต้านรัฐบาลในกัมพูชาได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากกลุ่มสิทธิมนุษยชน โดยรายงานของสื่อได้บันทึกกรณีที่บุคคลถูกบังคับให้สารภาพหรือให้คำมั่นสัญญาว่าจะจงรักภักดีต่อพรรครัฐบาล ภายใต้ภัยคุกคามของการกล่าวหาโดยมีแรงจูงใจทางการเมืองหรือทำร้ายครอบครัวของพวกเขา

ชูบ ศรีนุธ ภรรยาของเฮง สรอส บอกกับ CamboJA News ว่าเธอไปพบสามีเพื่อขอให้ปล่อยตัว แต่ได้คุยกับเขาเพียงสั้นๆ เธอบอกว่าสามีสั่งให้เธอกลับพนมเปญ แต่ไม่ได้บอกว่าเขาจะไปที่ไหน ยังไม่ชัดเจนว่าสมาชิกกลุ่มที่เคยถูกคุมขังได้กลับบ้านหรือไปที่ใดตั้งแต่ได้รับการปล่อยตัว

ขณะที่ สรัยนัธ แสดงความโล่งใจที่สามีของเธอได้รับการปล่อยตัว เธอยอมรับว่ากังวลเรื่องความปลอดภัยของเขามาโดยตลอดเนื่องจากเขาทำงานเป็นนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม

เฮง กิมฮง ประธานเครือข่ายเยาวชนกัมพูชา (CYN) ยืนยันการปล่อยตัวบุคคลทั้ง 6 คนเช่นกัน แต่ระบุว่า CYN ยังไม่ได้พูดคุยกับพวกเขา โดยกลุ่มได้ให้ลายนิ้วมือของพวกเขาไว้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปล่อยตัว

“ผมเชื่อว่าการทำงานเพื่อการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติไม่ควรถูกจำกัด แต่ควรได้รับการสนับสนุน” เขากล่าวโดยอ้างถึงความมีชีวิตชีวาของงานด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่ม “การปล่อยตัวพวกเขาถือเป็นข่าวดี แต่เราหวังว่าจะไม่มีการจับกุมผู้ที่ทำงานเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมอีกต่อไป” นักข่าวของ CamboJA News ไม่สามารถติดต่อนักเคลื่อนไหวทั้ง 6 คนเพื่อขอความเห็นได้

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.