Search

วงหารือพม่า-ประเทศโดยรอบเห็นพ้องร่วมปราบอาชญากรข้ามชาติ-หลอกลวงออนไลน์-ยาเสพติด ส่วนรัฐบาลทหารหม่องฉวยพ่นแผนเลือกตั้งโชว์ชาวโลก-องค์กรสิทธิฯตอกกลับ ‘เลือกตั้งเก๊’

ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมหารือกับตัวแทนอีก 5 ชาติ ในประเด็นที่เกี่ยวกับเมียนมา ไม่ว่าจะเป็นความมั่นคงชายแดน การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดและการหลอกลวงออนไลน์ รวมถึงการบริหารจัดการน้ำ ขณะที่ รมว.ต่างประเทศเมียนมา ย้ำจัดเลือกตั้งปี 68 แน่นอน พร้อมรับผู้สังเกตการณ์ต่างชาติ โดยเฉพาะจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่องค์กรสิทธิมนุษยชนแนะอาเซียนปฏิเสธการเลือกตั้งของรัฐบาลทหารพม่าเพราะเป็นการจัดเลือกตั้งหลอกๆ เพื่อยื้ออำนาจและสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 กระทรวงการต่างประเทศของไทยได้เป็นเจ้าภาพการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างตัวแทนของ 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย เมียนมา ลาว บังกลาเทศ จีน และอินเดีย โดยมีผู้เข้าร่วมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนระดับสูงของทั้ง 6 ประเทศ ซึ่งรวมถึงนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์รมว.กระทรวงการต่างประเทศของไทย

ในเอกสารแถลงข่าวของกระทรวงฯ ระบุว่าการหารือครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการหารือครั้งแรกระหว่างเมียนมากับประเทศเพื่อนบ้านครบทั้ง 5 ประเทศ และเป็นการต่อยอดมาจากข้อริเริ่มของไทยก่อนหน้านี้ กล่าวคือ การหารืออย่างไม่เป็นทางการ 3 ฝ่ายระหว่างไทย อินเดีย เมียนมา ช่วงการประชุม BIMSTEC FM Retreat ที่กรุงนิวเดลี เมื่อเดือนกรกฎาคม 2024 และการหารืออย่างไม่เป็นทางการ 4 ฝ่ายระหว่างไทย จีน เมียนมา สปป.ลาว ช่วงการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง–ล้านช้าง (MLC) ที่เชียงใหม่ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

“ผู้เข้าร่วมการหารือครั้งนี้ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างตรงไปตรงมาและสร้างสรรค์ ในเรื่องที่เป็นความท้าทายร่วมกัน อาทิ ความมั่นคงชายแดนและการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดและการหลอกลวงออนไลน์ และการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งทุกประเทศต่างเห็นพ้องที่จะยกระดับความร่วมมือให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในการแลกเปลี่ยนข้อมูล และการประสานงานในการบังคับใช้กฎหมาย”

ในเอกสารข่าวระบุว่า บรรยากาศการหารือเป็นไปอย่างดีมาก โดยประเทศต่าง ๆ ชื่นชมข้อริเริ่มของไทยในเรื่องนี้ และมีความเห็นสอดคล้องกันถึงความสำคัญและความจำเป็นที่จะดำรงการหารือกันโดยตรงและสม่ำเสมอระหว่างเมียนมากับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะต่างได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในเมียนมาโดยตรง จึงมีความเข้าใจต่อสถานการณ์ในเมียนมามากกว่าประเทศอื่น โดยจะมีการสานต่อการหารือลักษณะนี้ในโอกาสที่เหมาะสมต่อไป

“นายตาน ส่วย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศเมียนมา ได้ให้ข้อมูลแก่ที่ประชุมเกี่ยวกับแผนงานด้านการเมืองของเมียนมาและความคืบหน้าในการเตรียมการจัดการเลือกตั้งในปีหน้า รวมถึงการจัดทำสำมะโนประชากร การจดทะเบียนพรรคการเมือง และความตั้งใจที่จะเชิญผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งจากต่างประเทศ

“นอกจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบหารือทวิภาคีกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา โดยหารือประเด็นทวิภาคีที่สำคัญต่าง ๆ อาทิ ประเด็นลูกเรือประมงไทย 4คน ที่ถูกจับกุมโดยทางการเมียนมา และได้หารือกับทั้งเมียนมาและอินเดียถึงความสำคัญของเส้นทางการค้าสายเอเชีย หรือ Asian Highway-1 เพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนและความเชื่อมโยง“เอกสารแถลงข่าวของกระทรวงการต่างประเทศแห่งประเทศไทยระบุ

ขณะเดียวกัน สำนักข่าว AP รายงานข่าวการหารือไทย-เมียนมา พร้อมอ้างอิงความเห็นของ แพททริค พงศธร เจ้าหน้าที่อาวุโสรณรงค์สิทธิมนุษยชนเชิงกลยุทธ์ขององค์กรด้านสิทธิมนุษยชน Fortify Rights ระบุว่าอาเซียนควรปฏิเสธแผนการเลือกตั้งเมียนมา เพราะเป็นการเลือกตั้งจอมปลอมเพื่อการยื้ออำนาจและสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐบาลทหารพม่าซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงในช่วงที่ผ่านมา การที่ไทยร่วมออกแถลงการณ์ในนามอาเซียนประณามรัฐบาลทหารพม่า แต่ขณะเดียวกันก็พยายามดึงรัฐบาลทหารพม่ากลับสู่การเจรจาพูดคุยไม่ต่างจากการตีสองหน้า

AP ยังรายงานด้วยว่านับจากรัฐประหารยึดอำนาจอดีตรัฐบาลที่นำโดยอองซาน ซูจี เมื่อปี 2021 รัฐบาลทหารพม่าได้จับกุมและปราบปรามประชาชนที่ชุมนุมประท้วงอย่างสงบ ทั้งยังตอบโต้กลุ่มติดอาวุธฝ่ายต่อต้านด้วยวิธีการโหดร้าย ซึ่งรวมถึงการโจมตีทางอากาศแบบไม่เลือกเป้าหมาย ทำให้จำนวนผู้พลัดถิ่นในประเทศและผู้อพยพหนีภัยสงครามจากเมียนมามีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเป็นประเด็นที่กระทบต่อประเทศเพื่อนบ้าน แต่ที่ผ่านมา อาเซียนซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศของกลุ่มชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลับไม่อาจกดดันให้รัฐบาลทหารพม่ายุติการใช้กำลังอาวุธหรือวิธีการละเมิดสิทธิมนุษยชนจัดการกับผู้เห็นต่างได้

อ้างอิง:

AP, MFA