Search

ทหารว้าใช้โดรน 2 ลำบินลาดตระเวนฝั่งไทย-ยึดฐานเก่าทหารพรานไทยเป็นที่มั่น เผยเหตุเคลื่อนไหวสะดวกหลังปะทะใหญ่ปี 40 เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยเสียชีวิต 3 นาย ผู้บังคับบัญชาจึงสั่งถอนกำลัง

เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2567 แหล่งข่าวด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-พม่า เปิดเผยถึงกรณีที่กองกำลังทหารว้า หรือชื่ออย่างเป็นทางการกองทัพแห่งสหรัฐว้า (United Wa State Army -UWSA) รุกล้ำชายแดนไทยด้าน จ.แม่ฮ่องสอนโดยเฉพาะบริเวณหนองหลวง ในเขตอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่าง อ.ปายและอ.ปางมะผ้า ว่า ล่าสุดผู้บริหารหน่วยงานด้านความมั่นคงได้ตำหนิตำรวจในพื้นที่ อ.ปางมะผ้า ที่ปล่อยให้ข่าวที่มีฐานทหารว้าประจำการอยู่ริมหนองหลวงเผยแพร่สู่สาธารณชน

แหล่งข่าวกล่าวว่า จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่า ทหารว้าได้มาตั้งฐานปฎิบัติการอยู่ริมหนองหลวงในจุดที่เป็นฐานทหารพรานของไทย ซึ่งถอนกำลังเมื่อกว่า 20 ปีก่อน และมีทหารบกมาประจำการที่ฐานลิกิ โดยเดิมที่บริเวณหนองหลวงนี้เดิมทีเป็นจุดเลี้ยงสัตว์ของชาวบ้านทั้ง 2 ฝั่ง แต่นับจากปี 2540 ไม่มีชาวบ้านกล้าไปเลี้ยงสัตว์เนื่องจากเกิดกรณีการบุกทลายโรงงานยาเสพติดของกองกำลังชาติพันธุ์ ขณะที่กองกำลังว้าได้รุกคืบจากแนวสันเขายอดดอยลงมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาตั้งฐานปฎิบัติการจุดที่ทหารพรานเคยตั้งฐาน และได้ห้ามชาวบ้านข้ามแม่น้ำลางซึ่งเป็นแม่น้ำที่ไหลจากยอดดอยเข้าสู่แผ่นดินไทย

“น่าตกใจว่านับจากทหารพรานถอนกำลัง ทหารว้าก็ค่อยๆ รุกคืบเข้ามา แต่บริเวณนี้ไม่มีกองกำลังของทหารไทยเข้าไปตั้งฐานอยู่เลย ทางอุทยานฯ ห้วยน้ำดังก็เข้าไม่ได้ ตำรวจหรืออาสาสมัครก็เข้าไม่ได้เพราะเป็นพื้นที่เปราะบางต้องขออนุญาตทหารก่อน ทุกวันนี้ว้าใช้โดรน 2 ตัวบินลาดตระเวนอยู่ในบริเวณนี้ รวมถึงการเข้าไปสอดส่องฐานทหารไทยที่ดอยลิกิด้วย” แหล่งข่าว กล่าว

แหล่งด้านความมั่นคงกล่าวต่อไปว่า สำหรับเหตุการณ์บุกทลายโรงงานยาเสพติดที่หนองหลวงนั้น เกิดขึ้น 3 ระลอกในปี 2540 แต่ไม่เป็นข่าวเผยแพร่สู่สาธารณะ โดยครั้งแรกเนื่องจากมีสายข่าวของทางการรายงานว่าได้มีกองกำลังชนกลุ่มน้อยตั้งโรงงานผลิตยาเสพติดบริเวณหนองหลวง ทางการไทยจึงได้ใช้เฮลิคอปเตอร์เข้าไปบินสำรวจและถ่ายภาพพิกัดไว้ จากนั้นได้ส่งเจ้าหน้าที่เดินเท้าเข้าไปตรวจค้นบุกยึดได้อุปกรณ์ผลิตยาเสพติดพร้อมน้ำยา โดยบริเวณดังกล่าวมีการสร้างกระท่อมไว้ 4 หลัง แต่ไม่สามารถจับตัวใครได้เพราะหนีไปก่อน

แหล่งข่าวกล่าวว่า ในครั้งที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ 30 นายได้บุกไปยังหนองหลวงอีกครั้งเนื่องจากได้มีการแจ้งว่าได้มีการผลิตยาเสพติดเช่นครั้งแรก แต่ครั้งนี้ได้เกิดการปะทะกันกองกำลังทหารต่างชาติ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเสียชีวิต 1 รายซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นชาวจีนฮ่อหรือว้า และเจ้าหน้าที่ได้แบบศพกลับออกมา แต่ออกมาไม่ถึงเพราะเส้นทางไกลมากจึงได้ฝังเอาไว้ใกล้ดอยผักกูดเพื่อไปตามเจ้าหน้าที่มาตรวจพิสูจน์ แต่เมื่อกลับมาพบว่าศพของชายคนดังกล่าวได้ถูกกองกำลังต่างชาตินำกลับไปทำพิธีแล้ว

“ได้มีการเปิดปฎิบัติการในครั้งที่ 3 อีกในปีเดียวกัน (พ.ศ.2540) เพราะทราบมาว่ายังมีการผลิตยาเสพติดอยู่ ตำรวจ สภ.ปางมะผ้าและ ตชด.ได้สนธิกำลังกันเข้าไป แต่ยังไม่ทันข้ามห้วยน้ำลางก็เกิดปะทะกับกองกำลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อย มีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จึงต้องถอนกำลัง และผู้บังคับบัญชาได้ให้ยุติปฏิบัติการเพราะมีความเสี่ยงเกินไป และนับจากนั้นก็ไม่มีหน่วยงานด้านความมั่นคงเข้าไปจัดการในพื้นที่อีกเลย” แหล่งข่าว กล่าว

แหล่งข่าวกล่าวว่า ปัจจุบันไม่แน่ชัดว่าได้มีโรงงานผลิตยาบ้าของว้าอยู่บริเวณหนองหลวงและชายแดนบริเวณนั้นอยู่อีกหรือไม่ แต่ค่อนข้างมั่นใจว้าพื้นที่ย่านนี้กลายเป็นจุดพักยาบ้า โดยในฝั่งตรงข้ามกับชายแดนไทยมีหลายเมืองที่น่าจับตามอง“เมื่อปี 2557 ฐานทหารใหญ่ของว้าอยู่ที่ดอยคายหลวง ซึ่งอยู่ในฝั่งพม่าเพียงแห่งเดียว แต่เขาได้รุกคืบเข้ามาเรื่อยๆ และเข้ามาตั้งฐานทหาร 2-3 แห่งกระจายตัวอยู่แถวหนองหลวง ชาวบ้านในพื้นที่เองก็อึดอัดเพราะทำอะไรไม่ได้ เมื่อก่อนวัวควายเคยเดินเข้าไปหากินแถวหนองหลวงได้ แต่เดี๋ยวนี้ทหารว้าห้ามชาวบ้านข้ามห้วยน้ำลางทั้งๆ ที่เป็นแผ่นดินไทย ทำให้ชาวบ้านไม่กล้าไปเอาวัวควายซึ่งส่วนใหญ่ก็หายไปเลย ขณะที่วัวควายของชายบ้านฝั่งโน้นก็เข้ามาหากินฝั่งเราบ้าง เราก็ส่งคืน” แหล่งข่าว กล่าว

“เมื่อปี 2557 ฐานทหารใหญ่ของว้าอยู่ที่ดอยคายหลวง ซึ่งอยู่ในฝั่งพม่าเพียงแห่งเดียว แต่เขาได้รุกคืบเข้ามาเรื่อยๆ และเข้ามาตั้งฐานทหาร 2-3 แห่งกระจายตัวอยู่แถวหนองหลวง ชาวบ้านในพื้นที่เองก็อึดอัดเพราะทำอะไรไม่ได้ เมื่อก่อนวัวควายเคยเดินเข้าไปหากินแถวหนองหลวงได้ แต่เดี๋ยวนี้ทหารว้าห้ามชาวบ้านข้ามห้วยน้ำลางทั้งๆ ที่เป็นแผ่นดินไทย ทำให้ชาวบ้านไม่กล้าไปเอาวัวควายซึ่งส่วนใหญ่ก็หายไปเลย ขณะที่วัวควายของชายบ้านฝั่งโน้นก็เข้ามาหากินฝั่งเราบ้าง เราก็ส่งคืน” แหล่งข่าว กล่าว

On Key

Related Posts

มาเฟียจีนกระเจิงหนีจากเมียวดี ระดับหัวหน้าหนีซุก กทม. บางส่วนหลบไปพะอัน-มัณฑะเลย์ ทางการแดนมังกรส่งรายชื่อไล่ล่า 5 ระดับบิ๊ก BGF ส่ง 200 คนให้แล้ว-รัฐบาลทหารพม่าขอเอี่ยวส่งชาวต่างชาติชเวโก๊กโก่ให้ไทย

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 แหล่งข่าวจากชเวโก๊กRead More →

ทางการไทยไม่พร้อมรับชาวต่างชาตินับหมื่นในชเวโก๊กโก่ “ชิตตู”หวั่นภาระใหญ่หลังเปิดปฎิบัติการสำรวจคัดแยกตั้งแต่เช้า-เผยมีหญิงไทย 700 คนอยู่ในสถานบริการ “ศ.ปิ่นแก้ว”ระบุมาเฟียจีนระดับบอสหนีไปอยู่เมืองพะอันหมดแล้ว จี้รัฐตรวจสอบเส้นทางการเงิน

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 แหล่งข่าวจากเขตปกครRead More →

เวทีสุดท้ายรับฟังเขื่อนสานะคาม ชาวบ้านเรียกร้อง สปป.ลาว รับผิดชอบผลกระทบข้ามพรมแดน ด้านภาค ปชช. จัดเวทีคู่ขนานยุติเขื่อนแม่น้ำโขง-พัฒนาพลังงานทางเลือกแทน

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ห้องประชุมโรงแรมRead More →