
เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2567 สำนักข่าว Mizzima รายงานว่า กองทัพอาระกัน (Arakan Army – AA) ได้ออกมาประกาศพร้อมที่จะแก้ไขวิกฤตภายในพม่าที่กำลังดำเนินอยู่ผ่านการเจรจาทางการเมืองมากกว่าการใช้กำลังทางทหาร โดยในแถลงการณ์ของกองทัพอาระกันที่ประกาศออกมาเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2567 ย้ำว่า ขณะนี้ทางกลุ่ม สามารถควบคุม 14 เมือง จากทั้งหมด 17 เมืองในรัฐยะไข่ หรือรัฐอาระกันได้แล้ว เหลือเพียงเมืองชิตต่วย เมืองหลวงของรัฐอาระกัน เมืองเจ้าก์ผิ่ว และเมืองมะหน่าว ที่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพพม่า ซึ่งกลุ่มยังเน้นย้ำว่า มีความเต็มใจที่จะมีส่วนร่วมในทางการเมืองในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านนี้
แถลงการณ์ของกองทัพอาระกันยังระบุถึงความร่วมมือของกองทัพอาระกันกับจีน และกลุ่มพันธมิตรติดอาวุธชาติพันธุ์อื่นอย่างกองทัพโกก้าง MNDAA กองทัพปะหล่อง TNLA โดยระบุ ทั้งสามกลุ่มจะร่วมกันทำงานเพื่อเสถียรภาพตรงชายแดน ลดความรุนแรง และจัดการกับอาชญากรรมข้ามพรมแดน เช่น การพนันออนไลน์
นอกจากนี้ มีรายงานว่า รัฐบาลปฏิวัติประชาชนอาระกัน (The Arakan People’s Revolutionary Government – APRG) ซึ่งจัดตั้งโดยกองทัพอาระกัน ได้ออกมาแสดงท่าทีเปิดกว้างต่อการเข้ามาลงทุนจากต่างประเทศที่สนับสนุนการพัฒนาในรัฐอาระกัน โดยกองอาระกันกล่าวว่า ทางกลุ่มมีความมุ่งมั่นที่จะรับรองความปลอดภัยของนักลงทุน ธุรกิจ และโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ ขณะเดียวกันก็แสวงหาความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย
กองทัพอาระกัน ยืนยันในแถลงการณ์ว่า มุ่งมั่นที่จะบรรลุความเท่าเทียมกันในระดับชาติสำหรับกลุ่มชาติพันธุ์ทั้งหมดในรัฐยะไข่และในพื้นที่อื่น ๆ และให้คำมั่นว่าจะยืนหยัดเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้สำหรับประชาชนที่ถูกกดขี่ทั่วทั้งประเทศพม่า
ในวันเดียวที่ออกแถลงการณ์ กองทัพอาระกันยังสามารถยึดค่ายทหารแห่งสุดท้ายที่ควบคุมของกองทัพพม่าในเมืองกั้ว ทางตอนใต้สุดของรัฐอาระกัน ได้สำเร็จ
อีกด้านหนึ่ง องค์กร Institute for Strategy and Policy-Myanmar (ISP-Myanmar) ได้ออกมารายงานเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567 ระบุว่า ขณะนี้กองทัพอาระกัน (Arakan Army – AA) สามารถยึดโครงการใหญ่ๆของจีน 2 โครงการ รวมถึงสามารถยึดโครงการของจีนอีก 8 แห่งได้แล้วบางส่วน ทำให้ขณะนี้ กองทัพอาระกันสามารถยึดโครงการพัฒนาของจีนในรัฐอาระกันได้แล้ว 10 แห่ง จากโครงการทั้งหมด 11 แห่งที่จีนเข้าไปลงทุนในรัฐอาระกัน โครงการเหล่านี้ได้แก่ โครงการท่าเรือน้ำลึกและเขตเศรษฐกิจพิเศษเจ้าผิ่ว รวมไปถึงโครงการรถไฟมัณฑะเลย์ – เจ้าก์ผิ่ว โครงการทางหลวงเจ้าก์ผิ่ว – เนปีดอว์ ท่อส่งน้ำมันและก๊าซจีน – พม่า รวมถึงเส้นทางการค้า และโครงการพลังงานงานลมในเมืองตั่นด่วยและเมืองแอน เป็นต้น
——-
ที่มา Mizzima/Institute for Strategy and Policy-Myanmar