เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568 เตโหม่ ผู้ประสานงานองค์กรประชาสังคมคะเรนนี ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวชายขอบ”ว่าเมื่อวานนี้ (31 ธันวาคม 2567) ทหารสภาบริหารแห่งรัฐพม่า (The State Administration Council -SAC ) ได้ใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดโจมตีค่ายผู้พลัดถิ่น (IDPs Camp) ปางช้าง นอกเมืองลอยก่อ โดยระเบิดลงบริเวณส่วนที่เป็นตลาดเล็กๆ
เตโหม่กล่าวว่า ค่ายดังกล่าวเป็นพื้นที่อาศัยของประชาชนผู้หนีภัยสงครามกว่า 2,000 คน ล่าสุดวันนี้ (1 ธันวาคม 2568) เวลาประมาณ 17.00 น. มีการทิ้งระเบิดลงที่ค่ายผู้พลัดถิ่นฝั่งตะวันตกของเมืองดีมอโส่ ซึ่งเป็นค่ายใหญ่มีผู้ลี้ภัยจำนวนมาก
“พวกเราได้ยินก่อนหน้านี้แล้วว่าช่วงปีใหม่เขาจะโจมตี แต่ไม่คิดว่าจะโหดร้ายขนาดนี้”ผู้ประสานงานองค์กรประชาสังคมคะเรนนี กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงสถานการณ์ในเมืองลอยก่อเป็นอย่างไรบ้าง โตโหม่กล่าวว่า เห็นได้ชัดว่ากองทัพเผด็จการพม่าพยายามจะส่งคนกลับเข้ามาอยู่ เขาเอากำลังทหารส่งมาจากนรัฐฉาน แต่จนปัจจุบันพม่าก็ยังปกครองเมืองลอยก่อไม่ได้ ยังถือว่าไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ
ขณะที่สำนักข่าวกันตรวดีไทมส์ รายงานข่าวโดยอ้างเจ้าหน้าที่ของกองกำลังชาติพันธุ์คะเรนนี (Karenni Nationalities Defense Force-KNDF) ว่าเมื่อ 31 ธันวาคม เวลาประมาณ 16.00 น. SAC ได้ปฏิบัติการทิ้งระเบิดทางอากาศที่ค่ายอพยพของผู้พลัดถิ่นทางตะวันออกของเมืองลอยก่อ ต่อเนื่องถึง 3 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 3 ราย รวมทั้งเด็ก และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ยังไม่มีรายละเอียดเนื่องจากความลำบากในการติดต่อสื่อสาร
สำนักข่าวกันตรวดี รายงานโดยอ้างอิงผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพรัฐกะเรนนี (Karenni Army-KA) ว่ากองทัพคะเรนนีได้มีคำเตือนแจ้งให้ประชาชนทั่วไปใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากสภาทหารพม่าได้กำหนดเป้าหมายโจมตีพื้นที่พลเรือน
ขณะที่ผู้หญิงรายหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ทิ้งระเบิดกล่าวว่า “เมื่อวานประมาณ 12.00 น. เรากำลังจัดงานเล็กๆ เพื่อต้อนรับปีใหม่ เรานั่งข้างกองไฟและอบอุ่นร่างกายก็ต้องตกใจเมื่อมีเสียงการโจมตี เด็กกำลังหลับอยู่ เราต้องอุ้มหนีในหลุมหลบภัย ถ้าพวกเราไม่หนี พวกนั้นอาจจะกลับมาอีก ฉันอยากจะมีความสุขในเทศกาลปีใหม่ การกระทำของพวกเขา (สภาทหารพม่า) กำลังทรมานประชาชน ทำให้ประชาชนหวาดกลัว พวกเขากำลังกดขี่ประชาชนอย่างเลือดเย็น”
สำนักข่าวกันตรวดีไทสม์รายงานว่า ตั้งแต่ปี 2564 ถึง 2567 หลังรัฐประหารในพม่า ในพื้นที่รัฐคะเรนนีมีบันทึกว่าสภาทหารพม่าได้มีการโจมตีทางอากาศมากถึง 1,765 ครั้ง ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิต 536 ราย
ทั้งนี้กองทัพคะเรนนี KA ได้ออกคำสั่งลงวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ให้เจ้าหน้าที่ทหารทั้งหมดจากกองกำลังต่างๆ ในรัฐคะเรนนีให้งดการยิงปืน เพื่อมิให้เป็นการเปลืองกระสุน ซึ่งเป็นยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่จำกัดสำหรับฝ่ายต่อต้านในรัฐคะเรนนี นอกจากนี้ยังสั่งให้บุคลากรทางทหารในทุกกองกำลังแนวร่วมฝ่ายต่อต้านไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางในเวลากลางคืน หรือนอกเวลาปฏิบัติหน้าที่ ห้ามทำการใดๆ ที่จะเป็นการส่งเสียงดังรบกวนประชาชน