Search

ลาวจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนอีก 41 ราย
ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากกองบัญชาการตำรวจเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ร่วมกับคณะรับผิดชอบจากกรมตำรวจ สปป.ลาว เจ้าหน้าที่ทางการจีน และหน่วยรักษาความปลอดภัยเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ นำกำลังเข้าจับกุมเป้าหมาย แก๊งฉ้อโกงโทรคมนาคม สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 41 ราย ตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2568  โดยทั้งหมดเป็นคนสัญชาติจีน พร้อมของกลาง ประกอบด้วยโน๊ตบุ๊ค 16 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 93 เครื่อง ไอแพด 1 เครื่อง เงินสด 306,650 หยวน



ต่อมาในวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากกองบัญชาการ ปกส. เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำและคณะผู้แทนจากกรมตำรวจ สปป.ลาว นำผู้ต้องหาทั้ง 41 คน พร้อมของกลาง ส่งตัวในกับทางการจีนที่จุดผ่านแดนระหว่างประเทศบ่อเต็น – ม่อฮาน แขวงหลวงน้ำทา ฝ่ายลาวมี พันโทสุกสะหวัน วิละวง รองหัวหน้ากรมสืบสวน-สอบสวน กรมใหญ่ตำรวจ เป็นตัวแทนส่งมอบ และฝ่ายจีน รับมอบโดย พันเอกจ่าง ซ่งเหลย รองผู้อำนวยการแผนกป้องกันความสงบ ความมั่นคง มณฑลกวางตุ้ง



ก่อนหน้านี้ในวันที่ 7 มกราคม 2568 เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ ได้จัดประชุมประเมินผลการแก้ไขปัญหาการทุจริตโทรคมนาคม (Call Center) โดยมี พลโทคำกิ่ง พุย ลามะนีวง รองอธิบดีกรมตำรวจใหญ่ กระทรวงป้องกันความสงบ พร้อมคณะ และ นาย เกาหลง รองประธานสภาบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ พร้อมคณะโดยมีผู้นำจากภาคส่วนบริหารและจัดการระดับภูมิภาค ภาคส่วนโดยรอบระดับภูมิภาค ตัวแทนจากภาคธุรกิจ คณะกรรมการที่รับผิดชอบ และบุคลากรสำคัญที่เกี่ยวข้องภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำเข้าร่วม

ในการประชุมพลจัตวา วันทอน สุระสัก รองหัวหน้ากรมตำรวจใหญ่ กระทรวงป้องกันความสงบ กล่าวว่า การประเมินผลการแก้ไขการเคลื่อนไหวฉ้อโกงทางโทรคมนาคม (Call center) ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ในช่วงปี พ.ศ. 2565-2567 พบว่า มีอาคารที่ดำเนินการคอลล์เซ็นเตอร์หรือฉ้อโกงโทรคมนาคมอยู่ 157 อาคาร รวม 306 บริษัท มีพนักงานรวม 15,970 คน โดย 6,120 คนเป็นพนักงานลาว และ ต่างประเทศ 9,868 ราย

จากการดำเนินการแก้ไขปัญหามาเป็นเวลา 2 ปี พบว่า ปีแรกถูกยุบ 63 บริษัท คิดเป็น 20.5% และ ปีที่สองถูกปิดกิจการอีก 46 บริษัท คิดเป็น 15% และ มีจำนวน 160 บริษัท หรือ 52.2% ได้ถูกแปลงเป็นกิจกรรมเกมออนไลน์โดยได้รับการอนุมัติจากทั้งหน่วยหลักและสาขาแล้ว ส่วนจำนวนอีก 37 บริษัท หรือ 12% ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการทบทวน สรุปได้ว่าการตรวจสอบได้เสร็จเรียบร้อยไปแล้ว 88% ขณะที่ตำรวจจีนจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 9 ครั้ง รวมผู้ต้องหา 1,394 ราย เป็นผู้หญิง 73 ราย พร้อมด้วยโทรศัพท์มือถือ 5,430 เครื่อง คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 1,368 เครื่อง โน๊ตบุ๊ค 92 เครื่อง ไอแพด 2 เครื่อง อะแดปเตอร์ WiFi 14 ตัว และ USB 16 ตัว

ตำรวจเวียดนามจับกุมผู้ต้องหา 2 ครั้ง รวม 159 ราย เป็นหญิง 73 ราย พร้อมโทรศัพท์มือถือ 298 เครื่อง คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 20 เครื่อง และส่งกลับแรงงานต่างด้าวอีก 9 ครั้ง รวม 138 ราย เป็นหญิง 131 ราย และยึดของกลางได้ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 83 เครื่อง โน้ตบุ๊ค 2 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง, เครื่องรับสัญญาณดาวเทียม 2 เครื่อง และเครื่องชาร์จโทรศัพท์มือถือจำนวนหนึ่ง



ส่วนแนวทางแผนงานในอนาคตกระทรวงป้องกันความสงบดำเนินการต่อเนื่องประสานกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องขั้นศูนย์กลาง จังหวัด อำเภอ ปกช-ปกส เขต บรรดาหน่วยงาน ที่ขึ้นกับ เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำพร้อมปรึกษาหารือ และ กำหนดทิศทางแผนการละเอียด เพื่อแก้ไขปัญหาการทุจริตทางโทรคมนาคม ณ ที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำปี 2025 ให้มีความ คล่องตัวมากขึ้นกว่าเดิมพร้อมรับประกันการคุ้มครองตามระเบียบกฏหมาย

ขอบคุณข้อมูลจาก ลาวโพสต์ และ เพจเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ
———-

On Key

Related Posts

มาเฟียจีนกระเจิงหนีจากเมียวดี ระดับหัวหน้าหนีซุก กทม. บางส่วนหลบไปพะอัน-มัณฑะเลย์ ทางการแดนมังกรส่งรายชื่อไล่ล่า 5 ระดับบิ๊ก BGF ส่ง 200 คนให้แล้ว-รัฐบาลทหารพม่าขอเอี่ยวส่งชาวต่างชาติชเวโก๊กโก่ให้ไทย

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 แหล่งข่าวจากชเวโก๊กRead More →

ทางการไทยไม่พร้อมรับชาวต่างชาตินับหมื่นในชเวโก๊กโก่ “ชิตตู”หวั่นภาระใหญ่หลังเปิดปฎิบัติการสำรวจคัดแยกตั้งแต่เช้า-เผยมีหญิงไทย 700 คนอยู่ในสถานบริการ “ศ.ปิ่นแก้ว”ระบุมาเฟียจีนระดับบอสหนีไปอยู่เมืองพะอันหมดแล้ว จี้รัฐตรวจสอบเส้นทางการเงิน

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 แหล่งข่าวจากเขตปกครRead More →

เวทีสุดท้ายรับฟังเขื่อนสานะคาม ชาวบ้านเรียกร้อง สปป.ลาว รับผิดชอบผลกระทบข้ามพรมแดน ด้านภาค ปชช. จัดเวทีคู่ขนานยุติเขื่อนแม่น้ำโขง-พัฒนาพลังงานทางเลือกแทน

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ห้องประชุมโรงแรมRead More →