Search

“สมการ”ริมน้ำเมย

โดย ภาสกร จำลองราช

ก่อนที่นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน จะลงพื้นที่ริมแม่น้ำเมย อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 มีแหล่งข่าวกระซิบว่า “ชิต ตู” ผู้นำกะเหรี่ยง BGF (Karen Border Guard Force) จะจัดใหญ่ ส่งเหยื่อและมาเฟียชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนจีนออกมาจากแหล่งอาชญากรรมฝั่งเมียวดีมายังฝั่งไทยเพื่อเอาใจตัวแทนจากประเทศจีน 500 คน แต่หน่วยงานราชการไทยเห็นว่าเยอะไป อาจตรวจสอบไม่ทัน ในที่สุดจึงเหลือ 61 คน (คนจีน 39 คน)

ใครๆก็รู้ว่าชิตตูนั้น “อยู่เป็น” ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถนำพาแหล่งอาชญากรรมชเวก๊กโก่และเคเคปาร์ค หลุดรอดจากสงครามและการกวาดล้างมาได้จนถึงทุกวันนี้ ขนาดศึกใหญ่แย่งชิงเมืองเมียวดีเมื่อเมษายนปีก่อน กองทัพพม่าส่งเครื่องบินรบมาทิ้งระเบิดมากมาย แต่ไม่หล่นใส่เมืองอาชญากรรมของชิตตูเลย แถมในอาณาจักรชเวก๊กโก่ยังเปิดเพลงกระหึ่มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เช่นเดียวกับฝ่ายต่อต้านทั้งสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union-KNU) ที่จับมือกับกองกำลังพิทักษ์ประชาชน PDF( People’s Defense Force) ต่างก็เว้นวรรคพื้นที่เหล่านี้ไว้เพราะหวังว่าชิตตูจะร่วมมือสู้กับทหารพม่าด้วยกัน ท้ายสุดชิตตูพลิกเกมเปลี่ยนไปอยู่กับกองทัพพม่า BGFกลายเป็นผู้ชนะได้ดูแลทั้งเมืองเมียวดีและรักษาพื้นที่แหล่งอาชญากรรมริมน้ำเมยไว้ได้ สร้างความมั่นใจให้นักธุรกิจค้ามนุษย์ มาเฟียจีนและอาชญากรข้ามชาติ จนพากันเข้ามาเพิ่มอย่างคึกคัก

ครั้งนี้ดูท่าทีรัฐบาลจีนจะเอาจริง ถึงขนาดส่งมือดีด้านการสอบสวนชุดใหญ่เข้ามาอย่างเป็นทางการประสานกับรัฐบาลประเทศไทย หลังจากกรณีซิงซิง หรือนายหวัง ซิง นักแสดงจีนที่ถูกหลอกลวงมายังแหล่งอาชญากรรมริมแม่น้ำเมย ซึ่งเป็นท่าที่ที่แตกต่างจากรัฐบาลไทยที่ยังเนือยนิ่งแค่เพียงจัดท่าเต้นไปตามเพลงในบางจังหวะที่ถูกกดดัน

หากชิตตูส่งตัว 61 คนมาเพื่อบูชาจีนในวันที่ 29 มกราคม ก็พอเข้าใจในมุมหนึ่งได้เพราะจีนเป็น “ผู้เล่น” คนหนึ่งที่ทรงอิทธิพล แม้อยู่รอบนอกสนามเมียวดี แต่ที่น่าหวาดวิตกคือจีนซึ่งสนับสนุนรัฐบาลทหารพม่าเต็มตัว จะประสานกับชิตตูเปิดทางให้กองทัพพม่าเข้ามายึดครองเมืองเมียวดีโดยมีข้ออ้างเรื่องการช่วยเหลือเหยื่อ ขณะเดียวกันก็สร้างเงื่อนไขต่อรองไว้กับชิตตู เพียงแค่ลดกระแส อีกไม่นานแหล่งอาชญากรรมริมน้ำเมยก็กลับมาคึกคักได้เช่นเดิม เหมือนกับที่ทางการจีนเล่นมุขนี้ที่อาณาจักรคิงส์โรมินส์ บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ฝั่งประเทศลาว

ปีที่แล้วทางการจีนส่งเจ้าหน้าที่ชุดใหญ่ปฎิบัติการร่วมกันทางการลาวปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ในคิงส์โรมันส์ โดยตีปี๊บถึงความสำเร็จและอ้างว่าแทบไม่เหลือขบวนการค้ามนุษย์อยู่เลย แต่ล่าสุดสถานทูตอินเดียเพิ่งช่วยเหลือเหยื่อ 67 คนออกมาจากคิงส์โรมันส์ได้ นั่นแสดงว่า แหล่งอาชญากรรมยังคงทำมาหากินอยู่ในอาณาจักรของจ้าว เหว่ย

แต่โจทย์นี้ดูจะไม่ใช่เสียแล้ว

ในวันที่ 29 มกราคม BGFกลับไม่ได้มีการส่งมอบตัว 61 คนจากชเวก๊กโก่มายังฝั่งไทยแต่อย่างใด โดยชิตตูอ้างว่า รัฐบาลทหารพม่ายังไม่ตกลง และขอเลื่อนการส่งตัวออกไป จนกระทั่งคณะของทางการจีนเคลื่อนพลไปดูพื้นที่ชายแดนด้านจังหวัดเชียงราย ปรากฏว่าในวันที่ 31 มกราคมก็ได้นัดดีเดย์ส่งมอบกันอีกครั้ง ถึงขนาดคณะเจ้าหน้าที่ทางการไทยต่างขึ้นไปเรียงแถวเตรียมพร้อมรับ แต่สุดท้ายชิตตูก็เบี้ยวนัดอีกครั้งด้วยคำตอบเดิมคือรัฐบาลพม่ายังไม่ยินยอม

แน่นอนว่าทั้งหมดย่อมเป็นเรื่องของเกมการต่อรอง แต่ที่ไม่รู้ในตอนนี้คือ “ใคร” อยู่ฟากใคร และมีใครอยู่ในสมการการต่อรองบ้าง โดยผู้เล่นประกอบด้วย BGF รัฐบาลไทย รัฐบาลจีน รัฐบาลทหารพม่า กองกำลังฝ่ายต่อต้านที่นำโดย KNU

การที่ชิตตูไม่ยอมส่งมอบ 61 คนมาฝั่งไทยโดยอ้างรัฐบาลทหารพม่านั้น เป็นเพราะต้องการต่อรองกับรัฐบาลจีนหรือรัฐบาลไทยหรือไม่ เพราะอย่าลืมว่านายเสอ จื้อเจียง เจ้าพ่อชเวก๊กโก่และพันธมิตรคนสำคัญของชิตตูอยู่ในเรือนจำไทยและกำลังต่อรองไม่ยอมกลับไปรับโทษในประเทศจีน

แน่นอนแหล่งอาชญากรรมริมแม่น้ำเมยทั้งชเวก๊กโก่ และเคเคปาร์ค เป็นบ่อเงินบ่อทองที่สำคัญของชิตตู ดังนั้นจึงต้องปกป้องจนถึงที่สุด เพราะการถูกทลายหม้อข้าว ย่อมหมายถึงการล่มสลายของกองกำลัง BGF ด้วยเช่นกัน เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าทุกวันนี้ BGF ขับเคลื่อนด้วยรายได้จากแหล่งอาชญากรรม

แต่การที่ชิตตูอ้างถึงคำสั่งของรัฐบาลทหารพม่าและไม่ยอมส่งมอบ 61 คนออกมา ก็เป็นเกมที่เสี่ยงพอสมควร เพราะนั่นหมายความว่าชิตตูยังมีความแนบแน่นอยู่กับกองทัพพม่าซึ่งแตกต่างจากที่เขาพยายามบอกเพื่อนผู้นำกะเหรี่ยงด้วยกันเขาพร้อมแตกหักกับกองทัพพม่า ขณะเดียวกันการไม่เอาใจจีนและไทยก็ไม่ใช่ความคิดที่ปลอดภัย

ในส่วนของรัฐบาลไทยเอง ก็ยิ่งเข้าใจได้ยากไม่แพ้ชิตตู เพราะความไม่เป็นเอกภาพของหน่วยงานต่างๆ และความไม่ชัดเจนของระดับนโยบาย จึงทำให้ไม่มีใครอ่านออกว่ารัฐบาลไทยจะทำอย่างไร แม้กระทั่งทางการจีนที่ส่งทีมงานชุดใหญ่มาลงพื้นที่และพบกับผู้บริหารไทยแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทางการไทยจะมุ่งหน้าทลายแหล่งอาชญากรรมในการดูแลของชิตตูอย่างจริงจัง แค่เรื่องตัดไฟฟ้าที่ส่งข้ามฟากจาก จ.ตาก ไปเมียวดี รัฐบาลไทยยังเหลวไม่เป็นท่า

ที่น่าสังเกตอีกประการหนึ่งก็คือ การที่ผู้แทนจีนมุ่งหน้าจงใจสำรวจเฉพาะชเวก๊กโก่และเคเคปาร์ ซึ่งเป็นพื้นที่คุ้มครองของ BGF แต่ทำไมแหล่งอาชญากรรมบริเวณช่องแคบ (ตรงข้าม อ.พบพระ) ซึ่งอยู่ไม่ห่างออกไปและอยู่ภายใต้การควบคุมของกะเหรี่ยง DKBA(Democratic Karen Buddhist Army) ผู้แทนจีนกลับไม่ให้ความสนใจเท่าที่ควร โดยแหล่งอาชญากรรมแห่งนี้เป็นที่รับรู้กันว่ามีกลุ่มมาเฟียโกก้างที่อพยพหนีมาจากเมืองเล้าก์ก่าย (รัฐฉานเหนือ ชายแดนจีน) ที่ถูกทลายไป ย้ายฐานมาอยู่ที่ช่องแคบดำเนินกิจการอย่างคึกคัก ซึ่งชาติพันธุ์โกก้างและจีนต่างมีความใกล้ชิดกันอยู่แต่เดิมแล้ว

“ระบบส่วย” ที่ส่งข้ามพรมแดนแม่น้ำเมย มายังหน่วยงานราชการไทยและเชื่อมไปถึงนักการเมืองไทยบางคนนั้นแน่นหนามาก แม้แต่ผู้แทนรัฐบาลจีนก็ยังต้องผงะ เพราะฉะนั้นจึงวิเคราะห์กันได้ยากว่าระบบราชการไทยจะถูกนำพาไปในช่องทางใด และ ความสัมพันธ์ระหว่างชิตตูกับ “ไอ้โม่ง” ฝั่งไทยก็เป็นไปอย่างแนบแน่น

มาตรการมากมายที่หน่วยงานราชการไทยงัดออกมาใช้ยามนี้ ทั้งสกัดกั้นการเข้าสู่เมืองแม่สอดและข้ามฟากแม่น้ำเมยไปฝั่งเมียวดี ก็เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ถ้าตราบใดที่แหล่งอาชญากรรมริมแม่น้ำเมยังคงทำหน้าที่ต้มตุ๋นเหยื่อในประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้ดังเดิม ขณะที่ชิตตูก็ยังคงกุมบังเหียนนำพา BGF คุ้มครองอาณาจักรแห่งอาชญากรรมนี้ต่อไป

รัฐบาลไทยต้องทำอะไรที่มากกว่านี้“สมการริมแม่น้ำเมย”เป็นโจทย์หลายชั้นและซับซ้อน แต่ขอเพียงรัฐบาลไทยมีประชาชนอยู่ในคำตอบ เช่นเดียวกับรัฐบาลจีนก็คงแก้ได้ แต่หากคำตอบมีเพียงกลุ่มบุคคลที่แสวงประโยชน์บนเลือดเนื้อของเพื่อนมนุษย์ เช่น นายบ่อน มาเฟียจีน ข้าราชการที่อยู่ในระบบส่วย การแก้ปัญหาก็คงไม่ไปถึงไหน

“สมการริมแม่น้ำเมย”เป็นโจทย์หลายชั้นและซับซ้อน แต่ขอเพียงรัฐบาลไทยมีประชาชนอยู่ในคำตอบ เช่นเดียวกับรัฐบาลจีนก็คงแก้ได้ แต่หากคำตอบมีเพียงกลุ่มบุคคลที่แสวงประโยชน์บนเลือดเนื้อของเพื่อนมนุษย์ เช่น นายบ่อน มาเฟียจีน ข้าราชการที่อยู่ในระบบส่วย การแก้ปัญหาก็คงไม่ไปถึงไหน

On Key

Related Posts

มาเฟียจีนกระเจิงหนีจากเมียวดี ระดับหัวหน้าหนีซุก กทม. บางส่วนหลบไปพะอัน-มัณฑะเลย์ ทางการแดนมังกรส่งรายชื่อไล่ล่า 5 ระดับบิ๊ก BGF ส่ง 200 คนให้แล้ว-รัฐบาลทหารพม่าขอเอี่ยวส่งชาวต่างชาติชเวโก๊กโก่ให้ไทย

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 แหล่งข่าวจากชเวโก๊กRead More →

ทางการไทยไม่พร้อมรับชาวต่างชาตินับหมื่นในชเวโก๊กโก่ “ชิตตู”หวั่นภาระใหญ่หลังเปิดปฎิบัติการสำรวจคัดแยกตั้งแต่เช้า-เผยมีหญิงไทย 700 คนอยู่ในสถานบริการ “ศ.ปิ่นแก้ว”ระบุมาเฟียจีนระดับบอสหนีไปอยู่เมืองพะอันหมดแล้ว จี้รัฐตรวจสอบเส้นทางการเงิน

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 แหล่งข่าวจากเขตปกครRead More →

เวทีสุดท้ายรับฟังเขื่อนสานะคาม ชาวบ้านเรียกร้อง สปป.ลาว รับผิดชอบผลกระทบข้ามพรมแดน ด้านภาค ปชช. จัดเวทีคู่ขนานยุติเขื่อนแม่น้ำโขง-พัฒนาพลังงานทางเลือกแทน

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ห้องประชุมโรงแรมRead More →