เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในช่วงค่ำที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ชายแดนเมียนม่าที่ติดกับ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ยังคงมีไฟฟ้าใช้เกือบเต็มพื้นที่ โดยจังหวัดท่าขี้เหล็กได้นำกระแสไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ซึ่งเป็นไฟฟ้าจากเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำหลวงน้ำทา ผ่านเข้าทางเมืองพง จ.ท่าขี้เหล็ก โดยในช่วงเย็นสามารถเชื่อมต่อได้กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ และในวันพรุ่งนี้คาดว่าจะแก้ปัญหาได้เต็มพื้นที่
ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสำรวจบริเวณตลาดท่าล้อ ในเมืองท่าขี้เหล็กในช่วงเย็นพบกว่ารถขนสินค้าและรถยนต์ส่วนตัวบนฝั่งพม่า ยังคงขนส่งสินค้าเข้า-ออกอย่างหนาแน่น และมากกว่าวันก่อนหน้านี้ โดยชาวบ้านจากฝั่งพม่าและนักเรียนยังข้ามมาฝั่งไทยเป็นปกติ โดยชาวบ้านฝั่งเมียนมาไม่ได้มีความวิตกกังวล
แม่ค้าร้านขายเสื้อผ้าตลาดท่าล้อกล่าวว่า ค่ำนี้ทางไฟฟ้าแจ้งว่าจะต่อกระแสไฟจากลาวเกือบทั้งหมด โดยจะมีไฟใช้ได้ตามปกติ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ชาวบ้านท่าขี้เหล็กกังวลคือเรื่องน้ำมัน เพราะท่าขี้เหล็กใช้น้ำมันที่ส่งจากฝั่งไทย โดยขณะนี้น้ำมันในปั๊มต่างๆในท่าขี้เหล็กหมดแล้วตั้งแต่เมื่อเช้านี้ โดยต้องรอน้ำมันที่จะขนมาจากเมืองย่างกุ้ง ส่วนรถที่ใช้ทั่วไปที่ข้ามไปมาฝั่งไทยส่วนใหญ่จะเติมทางฝั่งไทยได้
ขณะที่แม่ค้าร้านโทรศัพท์ กล่าวว่า ชาวบ้านท่าขี้เหล็กไม่ตื่นตกใจเพราะว่าก่อนหน้านี้ที่มีทั้งเรื่องโควิด และน้ำท่วม ที่ทำให้ไม่มีไฟใช้ถึง 4 เดือน และชาวบ้านก็ใช้เวลาฟื้นร้านค้าและซ่อมแซมบ้าน พยายามปรับตัวเข้ากับทุกสถานการณ์ และทราบว่าทางท่าขี้เหล็กสามารถนำไฟจากลาวมาต่อได้ทันที เพราะทางลาวพร้อมจ่ายกระแสไฟฟ้า ส่วนสัญญาณอินเตอร์เนตนั้น ซิมไทยใช้ไม่ได้มาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ในช่วงที่ทางการพม่าปราบแก๊งสแสมเมอร์ เวปพนันออนไลน์และจับคนไทยไป 154 คน หลังจากนั้นคนไทยก็กลับไปเปิดที่ฝั่งไทย ไม่มีใครมาแล้ว เพราะคนไทยที่ถูกจับถูกขังเกือบ 1 ปี
“ผ่านมา 1 ปีตลาดท่าล้อเงียบลงมาก เมื่อก่อนคนไทยเดินเต็มเลย รวมทั้งคนจีนด้วย ช่วงโควิดก็ยังพอมี แต่พอมีการกวาดล้างก็เงียบเลย การค้าขายวูบไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์”แม่ค้าขายโทรศัพท์ กล่าว
ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจในพม่าอีกราย กล่าวว่า การตัดไฟของฝั่งไทยไม่ส่งผลกระทบต่อบ้านของตนเอง เนื่องจากใช้ไฟฟ้าจากลาว โดยบ้านอยู่ห่างจากชายแดนไทยบริเวณแม่สายประมาณ 3-4 กิโลเมตร กระแสไฟฟ้าจากไทยทำให้ไฟตกบ่อย ไฟฟ้าไม่เพียงพอช่วงสี่ปีที่ผ่านมา ไฟฟ้าท่าขี้เหล็ก จึงเปลี่ยนไปต่อกระแสไฟฟ้าจากลาวแทน โดยเฉพาะหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลจากชายแดนไทย ส่วนใหญ่ก็ใช้กระแสไฟฟ้าจากลาวที่จ่ายไฟจากเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำหลวงน้ำทา
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน นายณัฏฐ์เนศ จรัสรวีสิริกุล ผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาอำเภอแม่สาย ได้นำเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าไปทำการสับคัตเอาต์ตัดไฟฟ้า ที่ส่งข้ามไปฝั่งเมียนมา จำนวน 2 จุด โดยจุดที่ 1 ที่บริเวณหน้าด่านพรมแดนสะพานไทยเมียนมาแห่งที่ 1 มีนายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย พร้อมด้วยนายณัฎฐ์คเนศ จรัสรวีสิริกุล ผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอแม่สาย ร่วมปลดสวิตช์จ่ายกระแสไฟฟ้าโดยบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป (พีแอนด์อี) จำกัด เป็นผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จุดที่ 2 บริเวณบ้านเหมืองแดง ต.แม่สาย – เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน โดยบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป (พีแอนด์อี) จำกัด
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงชายแดนกล่าวว่า การที่ไทยตัดไฟฟ้าในลักษณะนี้ต่อไป จะเป็นการยากที่ทางการพม่าจะซื้อไฟฟ้าจากไทยอีก เพราะการตัดไฟเคยเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว ท่าขี้เหล็กเคยถูกตัดไฟเมื่อประมาณปี 2543 ในขณะนั้นยังไม่มีไฟฟ้าจากลาว ทำให้คนพม่าต้องปั่นไฟฟ้าใช้เองเป็นเวลานานถึง 6-7 ปี
ขณะที่นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เดินทางไปตรวจด่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อ.แม่สาย โดยกล่าวว่า ทางจังหวัดยึดตามคำสั่งสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้ตัดการส่งไฟฟ้า ระงับการส่งออกน้ำมัน และตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปยังท่าขี้เหล็ก เราปฏิบัติตามคำสั่งนั้นที่ได้รับ
“ผลกระทบการค้าชายแดนกำลังประเมินกับทุกฝ่าย มั่นใจว่าจะไม่กระทบเป็นวงกว้างจนเกินไป ส่วนเรื่องการตัดอินเทอร์เน็ต เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ประสานกับผู้จัดการของ NT ได้รับทราบข่าวสารจาก สมช.แล้วว่าให้ปฏิบัติตามมติ” ผวจ.เชียงราย กล่าว
ด้านนายด่านศุลกากรแม่สายกล่าวว่า การส่งออกน้ำมันเดือนหนึ่งประมาณ 350-400 พ่วงต่อเดือน มูลค่าประมาณ 400 ล้านบาท การส่งน้ำมันครั้งล่าสุดคือเมื่อ 2 วันที่ผ่านมามีรถน้ำมันรอส่งออกอยู่ประมาณ 50 พ่วง
