เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 แหล่งข่าวจากชเวโก๊กโก่ เมืองเมียวดี เปิดเผยว่า รัฐบาลทหารพม่าได้ส่งเจ้าหน้าที่มายังชเวโก๊กโก่ ภายหลังจากที่กองกำลังกะเหรี่ยง BGF(Karen Border Guard Force-Karen BGF) ภายใต้การนำโดย พ.อ.ชิตตู ได้ปฎิบัติการสำรวจและคัดแยกชาวต่างชาติที่ทำงานในตึกต่างๆ โดยรัฐบาลทหารพม่าต้องการเข้ามามีบทบาทในการส่งมอบชาวต่างชาติให้ไทยเพื่อแสดงให้เห็นว่ายังมีอำนาจรัฐจากส่วนกลางในเมืองเมียวดี
“รัฐบาลทหารพม่าไม่พอใจอย่างมากกรณีที่ DKBA ส่งชาวต่างชาติ 260 คนให้ทางการไทยโดยตรงและไม่มีตัวแทนทางการพม่าเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเลย ดังนั้นกรณีการส่งตัวที่ชเวโก๊กโก่เขาจึงต้องการเข้ามามีบทบาททั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้ว แทบไม่เหลือเจ้าหน้าที่ของทางการพม่าทำงานอยู่บริเวณชายแดนเมืองเมียวดีด้านประเทศไทยแล้ว”แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าวว่า ขณะนี้ทางการจีนได้แจ้งรายชื่อชาวจีน 5 คนที่ต้องการตัวมากที่สุดเนื่องจากเป็นมาเฟียระดับหัวหน้าใหญ่ ซึ่งตอนนี้ 2 คนถูก BGF จับกุมไว้แล้ว ส่วนอีก 1 คนอยู่ในพื้นที่ช่องแคบภายใต้การดูแลของกองกำลังกะเหรี่ยง DKBA(Democratic Karen Buddhist Army)
“ขณะนี้มาเฟียระดับหัวหน้าหรือบอสต่างหลบหนีออกจากเมียวดีกันเกือบหมดแล้ว โดยจำนวนมากอยู่ในกรุงเทพฯ บางส่วนหนีไปอยู่พะอัน(เมืองหลวงรัฐกะเหรี่ยง) แต่อีกจำนวนไม่น้อยหนีไปอยู่ที่มัณฑะเลย์เรียบร้อยแล้ว”แหล่งข่าว กล่าว
ขณะที่ทางการพม่าได้แจกเอกสารข่าวภาพเจ้าหน้าที่ของทางการตั้งโต๊ะตรวจสอบชาวต่างชาติในเมืองชเวโก๊กโก่ รัฐกะเหรี่ยง โดยระบุว่าเป็นไปตามความร่วมมือในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์ ซึ่งทางการเมียนมาได้เข้าไปตรวจสอบกลุ่มชาวต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย โดยมุ่งเน้นในการระบุตัวตนและเนรเทศชาวต่างชาติบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงออนไลน์ การพนันออนไลน์ และการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ในพื้นที่กลุ่มติดอาวุธ EAO
เอกสารข่าวที่ทางการพม่าเผยแพร่ระบุว่าผลการตรวจสอบวันนี้ พบชายชาวจีน 194 คนและหญิง 6 คน รวม 200 คน ซึ่งเป็นผู้ค้ามนุษย์ในพื้นที่เมียวดี เมืองชเวก๊กโก่ รัฐกะเหรี่ยง โดยพวกเขาจะถูกสอบสวนที่จำเป็นและส่งตัวให้ทางการจีนตามขั้นตอน
“เรากำลังให้ความร่วมมือกับประเทศที่เกี่ยวข้องอย่างแข็งขันเพื่อระบุและส่งผู้ร้ายข้ามแดนชาวต่างชาติที่กระทำการฉ้อโกง การพนัน และอาชญากรรมอื่นๆ ในพื้นที่เมียวดี-ชเวก๊กโก่ ไปยังประเทศที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนโดยเร็วที่สุด”เอกสารข่าวระบุ
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ได้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย – เมียนมา (TBC) ฝ่ายไทย ประกอบด้วย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พ.อ.ณรงค์ชัย เจริญชัย รองผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู นาย สัญญา เพชรเศษ นายอำเภอแม่สอด พ.ต.อ. ศรายุทธ แผลงปัญญา รักษาราชการแทน ผกก.สภ.แม่สอด และพ.ต.อ. เพลิน กลิ่นพยอม รอง.ผบก.ตม.3 รักษาการแทน ผู้กำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก ส่วนฝ่ายเมียนมาประกอบด้วย พันโทซอซันอู ผู้บังคับกองพัน.ร.275 ประธานกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นเมียนมา – ไทย อ.เมียวดี จ.เมียวดี นาย ตานหน่าย Mr.U tan nai นายอำเภอเมียวดี ร.ต.อ. ตื่นอ่องวิน Au tin aong win ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเมียวดี และนาย อ่องหน่ายอู Au aongnaiu หัวหน้าตำรวจเมียนมา
พล.ต.ไมตรี กล่าวว่า ตัวเลขบุคคลต่างชาติที่จะถูกส่งมา 7,000 คน มีความเป็นไปได้แต่การดำเนินการต้องดูรายละเอียดของแต่ละประเทศ รวมถึงโรคภัยไข้เจ็บ จะต้องคัดกรองอย่างละเอียดก่อน ส่วนวันเวลา จะต้องรอกลับไปลงรายละเอียดก่อน และรอความพร้อมของฝั่งเมียนมา ในการคัดกรองและคัดเลือกบุคคลที่มีความพร้อมมาก่อน โดยทางเมียนมาร์จะเริ่มคัดกรองคนตั้งแต่วันนี้ ขณะที่ความพร้อมของฝ่ายไทย ได้ประมาณวันละ 500 คน แต่เป็นตัวเลขไม่ตายตัวขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละฝ่าย และคาดว่าจะเริ่มได้หลังการประชุมวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีกำลังพลและสถานที่เพียงพอหรือไม่นั้น พลตรีไมตรี กล่าวว่า มีความพร้อมเพียงพอ และน่าจะเป็นฟังก์ชั่นของแต่ละบุคคลที่เกี่ยวข้อง ถ้าฟังก์ชั่นไหนต้องการกำลังพลก็จะมาร่วมดำเนินการ ภายใต้ศูนย์สั่งการของชายแดนจังหวัด
