เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 น.ส.อรุณี ศรีโต ประธานศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบแรงงานแห่งชาติและอดีตกรรมการประกันสังคม(บอร์ดประกันสังคม) พร้อมด้วยเครือข่ายแรงงานสูงวัยในประกันสังคมมาตรา 40,39 และ 33 ราว 20 คน ได้เดินทางไปยังอาคารรัฐสภา เพื่อให้กำลังใจ น.ส.รักชนก ศรีนอก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กทม.พรรคประชาชน ที่ช่วยตรวจสอบการบริหารจัดการเรื่องงบประมาณของสำนักงานประกันสังคม(สปส.) จนกลายเป็นกระแสทำให้คนในสังคมให้ความสนใจอย่างกว้างขวาง
ทั้งนี้เครือข่ายแรงงานสูงวัยฯ ได้ยื่นหนังสือโดยระบุว่า 1. ขอให้รัฐบาล ส.ส. กรรมาธิการแรงงาน ทั้ง 2 สภา เร่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการใช้งบประมาณ อาทิ ทริปแลกเปลี่ยนดูงานของฝ่ายบริหาร บอร์ดประกันสังคมทุกบอร์ด รวมถึงบอร์ดอนุกรรมการประกันสังคมในชุดต่างๆ ตรวจสอบระบบคอลเซ็นเตอร์ที่มีค่าใช้จ่ายหลัก 100 ล้านบาท รวมถึงค่าเช่าสถานที่ 50 ล้านบาท ตรวจสอบแอพลิเคชั่นที่ใช้งบ 550 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายจัดหาระบบสารสนเทศ 117 ล้านบาท การใช้งบประมาณอบรม สัมมนา การใช้งบประชาสัมพันธ์ ปฏิทินประกันสังคม
2. เครือข่ายฯขอให้กำลังใจ ส.ส. พรรคการเมือง บอร์ดประกันสังคมที่มาจากการเลือกตั้ง คณะกรรมาธิการศึกษาติดตามงบประมาณฯ ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลประกันสังคมให้กับผู้ประกันตนและประชาชนได้รับรู้ รวมถึงการหาทางในการปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้กองทุนประกันสังคมซึ่งเป็นของผู้ใช้แรงงานมีความโปร่งใส 3. ขอให้ระบบการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมยังมีต่อไป และไม่เห็นด้วยกับการจะออกกฎหมายกลับไปใช้การแต่งตั้งบอร์ดประกันสังคมเหมือนที่ผ่านมา อีกทั้งเครือข่ายแรงงานสูงวัยในประกันสังคมฯ ต้องการให้เลขาธิการประกันสังคมต้องมาจากการจ้างมืออาชีพเข้ามาบริหารและจัดการในสำนักงานประกันสังคมและกองทุนประกันสังคมในอนาคต
น.ส.อรุณี กล่าวว่า ข้อเสนอของเราคือทำให้ สปส.โปร่งใสตรวจสอบได้ เป็นองค์กรอิสระ ลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย และปรับสิทธิประโยชน์ โดยเฉพาะบำนาญชราภาพตามมาตรา 39
“มี ส.ส.พรรคประชาชน ออกมารับข้อเรียกร้องหลายคน ไม่เห็นมีพรรคการเมืองอื่นออกมาบ้างเลย ซึ่งทาง ส.ส.ไอซ์ พูดดีมาก เขาเรียกร้องถึงกระทรวงแรงงานว่าให้ข้อเสนอเหล่านี้ได้ถูกนำไปปฏิบัติจริง และอยากเรียกร้องไปถึงนายกรัฐมนตรี ว่าอยากให้นายกฯ นั่งหัวโต๊ะว่าจะรวมกองทุนหรือไม่รวม ปรับสิทธิประโยชน์ การให้บริการทางการแพทย์ ถ้านายกฯไม่เป็นประธานนั่งหัวโต๊ะ ให้รัฐมนตรีคุยกันเองคงไปไม่รอด” อดีตบอร์ดประกันสังคม กล่าว
แกนนำเครือข่ายแรงงานสูงวัยฯ ยังกล่าวด้วยว่านอกจากข้อเรียกร้องบำนาญชราภาพแล้ว ปี 2567 ที่ผ่านมาทางเครือข่ายพยายามผลักดันให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นำข้อเสนอเพิ่มเบี้ยคนชราถ้วนหน้า 1,000 บาท เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาให้ทันภายในปีงบประมาณ 2568 แต่ไม่ได้รับความเห็นใจจาก พม. เท่าที่ควร
“พม.เขาบอกว่านำข้อเสนอเข้า ครม.แค่รับทราบ พอรับทราบแล้วทางผู้สูงอายุก็มีคำถามว่าแล้วจะได้ชั่วโมงไหน เดือนไหน เขาก็บอกว่าเดือนมีนาคมนี้ เพราะถ้าไม่เคาะว่าจะให้เดือนไหน งบประมาณจะถูกตัดในปี 2569 พวกเราต้องตามต่อ ป้าว่าคงต้องไปกระทรวง พม.อีกสักวัน” น.ส.อรุณี กล่าว
———
