เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2568 ระหว่างที่ผู้สื่อข่าวลงสำรวจพื้นที่ริมแม่น้ำเมย บริเวณบ้านหนองบัว ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ซึ่งบริเวณตรงกันข้ามคือฐานปฎิบัติการทางทหารของกองทัพพม่า “ปูลู่ตู่” รัฐกะเหรี่ยง ประเทศพม่า ซึ่งได้เกิดเหตุสู้รบครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาระหว่างกองทัพพม่ากับกองทัพปลดปล่อยชาติกะเหรี่ยง(Karen National Liberation Army–KNLA) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการทหารของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง(Karen National Union-KNU) กองพันที่ 22 ส่งผลให้ชาวกะเหรี่ยงหนีภัยการสู้รบข้ามมายังฝั่งไทย 445 คน ปรากฏว่าได้เกิดระเบิดเสียงดังพร้อมกับมีควันพวยพุ่งจากฐานปูลู่ตู่
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงชายแดนระบุว่า ทหารของ KNLA ได้ใช้โดรนทั้งระเบิดบริเวณฐานทหารพม่า อย่างไรก็ตามไม่ได้เป็นการโจมตีใหญ่ เพียงแต่เป็นยุทธวิธีหนึ่งทางทหาร ทั้งนี้ KNU ได้ส่งทหารจำนวนกว่า 200 นายเข้ามาเสริมเพื่อต้องการยึดฐานทหารพม่าให้ได้ภายในเร็วนี้
ขณะที่ชาวกะเหรี่ยงที่หนีภัยการสู้รบได้ข้ามแม่น้ำเมยมาอยู่ที่จุดพักพิงชั่วคราวซึ่งเป็นโบสถ์คลิสจำนวน 445 คนโดยมีหน่วยงานด้านปกครองและทหารของไทยคอยให้การดูแล ขณะที่ชาวบ้านตะละออกาซึ่งเป็นญาติพี่น้องกับชาวกะเหรี่ยงที่หนีภัยการสู้รบได้นำข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นมาให้ผู้ที่หนีภัยครั้งนี้ เนื่องจากชาวบ้านบางส่วนหนีข้ามแม่น้ำเมยมาอย่างเร่งรีบจนแทบไม่มีข้าวของเครื่องใช้
ชาวบ้านรายหนึ่งที่หนีภัยการสู้รบข้ามมายังฝั่งไทยเล่าว่า ได้เกิดการสู้รบกันอย่างรุนแรงเกิดขึ้น ทำให้ต้องอพยพหนีออกมา โดยเริ่มจากการยิงปืนต่อสู้กันก่อน จากนั้นมีเสียงระเบิดโดยมีการใช้โดรนและทหารพม่าได้ใช้เครื่องบินรบเข้ามาทิ้งระเบิด ในช่วงแรกไม่มีการเผาบ้าน แต่หลังจากนั้นสถานการณ์รุนแรงขึ้นพวกตนจึงต้องหนีออกมา โดยที่หมู่บ้านมี 60 หลังคาเรือน ต่างต้องหลบหนีกันออกมาทั้งหมด
“ผู้สูงอายุบางคนไปหลบอยู่ในถ้ำเพราะเดินทางมาไม่ไหว คนพิการบางคนยังต้องหลบอยู่ในหมู่บ้านเพราะพวกเราแบกมาไม่ไหว ขนของติดตัวมาแค่ข้าวสาร และข้าวของที่สามารถถือมาได้ ดูท่าแล้วสถานการณ์ยังคงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ยังไม่สามารถกลับบ้านได้” ผู้หนีภัยการสู้รบ กล่าว
