Search

พาวเวอร์ไชน่าฟ้องหน่วยงานไฟฟ้าลาว 555 ล้านดอลลาร์ ค้างชำระหนี้โครงการเขื่อนน้ำอู 7 แห่ง

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า บริษัทน้ำอูพาวเวอร์( Nam Ou Power)ซึ่งเป็นหน่วยงานในเครือบริษัทพาวเวอร์คอนสตรั่นคอร์ป(Power Construction Corp) รัฐวิสาหกิจฐของจีน ได้ฟ้องร้อง การไฟฟ้าลาว (Electricite du Laos) ซึ่งเป็นบริษัทไฟฟ้าลาว ในสิงคโปร์เป็นเงิน 555 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากค้างชำระค่าใช้จ่ายโครงการเขื่อนไฟฟ้าที่บริษัทดำเนินการอยู่

ทั้งนี้เอกสารของอนุญาโตตุลาการ การไฟฟ้าลาว(EdL)ยังไม่ได้ตอบคำถามใดๆต่อการยื่นฟ้องนี้ โดยแหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับคดีนี้ กล่าว่า เป็นกรณีแรกของอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศโดยหน่วยงานที่ดำเนินการโดยรัฐบาลจีนต่อบริษัทที่ดำเนินการโดยรัฐบาลลาว และรายละเอียดของคดีนี้ได้รับการรายงานเป็นครั้งแรก ค่าปรับค้างชำระที่เรียกร้องนั้นเกิดจากไฟฟ้าที่ผลิตจากโครงการเขื่อนน้ำอูทั้ง 7 แห่ง( Nam Ou River Cascade Hydropower) มูลค่าการลงทุนกว่า 2.73 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ตามเอกสารที่ยื่นต่อศูนย์อนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศของสิงคโปร์ โครงการเขื่อนน้ำอู หรือ “ไข่มุกแห่งเอเชีย” เป็นหนึ่งในโครงการที่ใหญ่ที่สุดของลาวโดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำทั่วประเทศ 18,000 เมกะวัตต์ คิดเป็นร้อยละ 7 ของประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน เพื่อสร้างการเชื่อมโยงทางการค้าและการขนส่งทั่วเอเชียและทั่วโลก

นักวิจารณ์ชาวตะวันตกกล่าวว่า การลงทุนอย่างมากของจีนในประเทศต่างๆ ที่กำลังดิ้นรนเพื่อชำระหนี้ช่วยให้จีนได้รับข้อได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ ซึ่งจีนปฏิเสธ พาวเวอร์ไชน่าและ การไฟฟ้าลาว (EdL) ไม่ตอบคำถามต่อคำร้องขอความคิดเห็นทันที

Wong & Leow ซึ่งเป็นสำนักงานกฎหมายที่เป็นตัวแทนของบริษัทน้ำอูพาวเวอร์( Nam Ou Power) ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น การดำเนินการโดยบริษัทน้ำอูพาวเวอร์( Nam Ou Power) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทพาวเวอร์ไชน่า(PowerChina)

โครงการไฟฟ้าเขื่อนน้ำอู ทั้ง 7 แห่ง มีกำลังการผลิต 1.270 เมกะวัตต์ โดยเขื่อนตั้งอยู่บนแม่น้ำอูที่มีความยาว 350 กิโลเมตร โครงการเหล่านั้นควบคู่ไปกับรถไฟความเร็วสูงที่สร้างโดยจีนทำให้เกิดหนี้สินจำนวนมาก ในการยื่นเอกสารต่อศูนย์อนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศของสิงคโปร์เมื่อเดือนที่แล้ว บริษัทพาวเวอร์ใชน่า(PowerChina) ระบุว่าการไฟฟ้าลาว (EdL) มีหนี้ค้างชำระ 486.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมดอกเบี้ยที่ประเมินไว้ที่ 65.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คำร้องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับใบแจ้งหนี้รายเดือนที่ออกระหว่างเดือนมกราคม 2020 ถึงเดือนธันวาคม 2024 รวมคิดเป็นประมาณร้อยละ 4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศลาว

ในปี 2020 การไฟฟ้าลาว(EdL) ได้ยอมสละการควบคุมส่วนใหญ่ของหน่วยส่งไฟฟ้าให้กับบริษัทไชน่าเซาเทินพาวเวอร์กริด ( China Southern Power Grid)รัฐวิสาหกิจของจีน เนื่องจากหนี้สินที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้การเงินของรัฐตึงตัว และผลักดันให้ทางการลาวเกือบผิดนัดชำระหนี้ภายใต้รัฐธรรมนูญ

ในเอกสารฟ้องเดียวกันนี้ บริษัทน้ำอู Nam Ou ยังได้เรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 3.02 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากการที่บริษัทการไฟฟ้าลาว (EdL) ชำระค่าเสียหายส่วนใหญ่ด้วยสกุลเงินกีบของลาว ในขณะที่ข้อตกลงได้กำหนดว่าจะต้องชำระค่าเสียหายร้อยละ 85 ด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ลาวต้องดิ้นรนกับภาวะเงินเฟ้อสูงและทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่ลดลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ โดยมูลค่าของเงินกีบของลาวลดลงเกือบสามในห้าในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ที่มา https://www.reuters.com/business/energy/powerchina-unit-sues-laos-utility-claims-555-million-unpaid-dues-2025-03-05/

On Key

Related Posts

“โรม”แนะรัฐใช้มาตรการเข้มกับ “ว้า”หลังพบเป็นต้นเหตุสารพันปัญหาทั้งยาเสพติด-ทำเหมืองทองต้นแม่น้ำ-รุกล้ำชายแดน กมธ.ความมั่นคงเตรียมลงพื้นที่เชียงรายสอบข้อเท็จจริงสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก-สาย เตือนระวังชาวบ้านถาม “มีรัฐบาลไว้ทำไม”

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 นายรังสิมันต์ โรม ประธาRead More →