Search

กองทัพพม่าจับมือกลุ่มติดอาวุธไตแดง คุมพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำอิรวดี

โดย Oh Ra Ra ผู้สื่อข่าวคะฉิ่น

นับตั้งแต่ต้นปี 2025 เป็นต้นมา กองทัพรัฐบาลเผด็จการพม่าได้ผนึกกำลังกับกองทัพไตแดง หรือ SNA (Shanni Nationalities Army) และกลุ่มติดอาวุธ มิน เซ ตัน (Min Zay Thant militia) เพื่อสู้กับกองกำลังฝ่ายตรงกันข้ามรัฐบาล โดยตั้งเป้าว่าจะต้องรักษาพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำอิรวดีซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ทางทหารที่สำคัญเอาไว้ให้ได้

พื้นที่ดังกล่าวประกอบด้วยเมืองโมนิน (Moehnyin) พากัน (Hpakant) และตะไน (Tanai) รวมถึงหมู่บ้านอื่นๆ ตามแนวถนนลีโด (Ledo Road) เส้นทางสายเก่าแก่ที่เชื่อมต่อระหว่างเมียนมา อินเดีย และจีน

ขณะเดียวกันกองทัพเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independence Army: KIA) แกนนำกองกำลังฝ่ายตรงกันข้ามกับรัฐบาลในรัฐคะฉิ่น ประกาศเตรียมพร้อมตั้งรับการโจมตีของกองทัพพม่าและแนวร่วมเพื่อปกป้องพื้นที่สำคัญทั้งทางฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของแม่น้ำอิรวดีที่ KIA ยึดมาได้ หลังปฏิบัติการรุกคืบทางทหารเมื่อเดือนกันยายน 2024

อย่างไรก็ดี ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ฐานที่มั่นของ KIA ตามแนวแม่น้ำอิรวดีในรัฐคะฉิ่นได้ถูกกองทัพรัฐบาลและแนวร่วมโจมตีหลายครั้ง โดยกองทัพ SNA และ Min Zay Thant ได้ระดมกำลังพลเพิ่มเติมในหลายพื้นที่ ทั้งยังมีการจัดเวรยามตรึงกำลังและเดินสวนสนามเพื่อรักษาความปลอดภัยบริเวณถนนสายหลักทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำอิรวดี

ก่อนหน้านี้กองทัพไตแดง หรือ SNA ได้ประกาศจุดยืนต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าซึ่งรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แต่นับจากปี 2022 เป็นต้นมา SNA ได้เปลี่ยนขั้วไปร่วมมือกับรัฐบาลทหารพม่า และความร่วมมือนั้นยังดำเนินต่อมาถึงปัจจุบัน

ปฏิบัติการสู้รบที่สำคัญของ SNA ในช่วงปีที่ผ่านมา ได้แก่ การเคลื่อนกำลังพลเข้าสู่เมืองโมนินในเดือนตุลาคม 2024 หลังจากนั้นยังได้ผนึกกำลังกับกลุ่มติดอาวุธ Min Zay Than ยึดครองพื้นที่เพิ่มเติม โดยบริเวณที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่แนวร่วมกองทัพพม่าตั้งเป้าจะยึดครองให้ได้ ประกอบด้วย

1.ถนน ‘โมนิน-โฮปิน-โมกอง’ (Moehnyin-Hopin-Mokaung Road) ช่วงต้นปี 2025 กองทัพไตแดง SNA ได้จัดตั้งกองพลน้อย 565 ขึ้นในเมืองโมนิน และขยายอาณาเขตไปยังอีกหลายจุดบนถนนเชื่อมต่อระหว่างเมืองโมกอง-โฮปิน-โมนิน ทั้งยังมีการสั่งระดมกำลังพลเพิ่มเติมเพื่อตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยพื้นที่ตลอดแนวทะเลสาบอินดอจี (Indawgyi Lake) โดยมีรายงานว่าทหาร SNA ถูกสั่งให้เข้าตรวจตราพื้นที่ในความควบคุมอย่างเข้มงวด และจับตาดูการเข้าออกของพลเรือนและนักเดินทางต่างถิ่นด้วย

2.ภูมิภาคตะไน (Tanai Region) แหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ กลุ่มติดอาวุธ Min Zay Thant ซึ่งเป็นอีกแนวร่วมหนึ่งของรัฐบาลทหารพม่า ต่อสู้ปะทะกับ กองทัพ KIA อยู่หลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา โดยกลุ่ม Min Zay Thant ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2016 ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 300 นาย และมีฐานที่มั่นอยู่ที่หมู่บ้าน Wara Zaw ซึ่งตั้งอยู่ตามแนวถนนลีโดในภาคตะนาวศรี รวมเป็นระยะทางกว่า 1,726 กิโลเมตร

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2025 เครื่องบินรบของกองทัพพม่าได้ทิ้งระเบิดโจมตีหมู่บ้าน Shadu Zup ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนลีโด ทั้งยังทิ้งระเบิดโจมตีกองพัน 14 ของ KIA ในภาคตะไน และกลุ่มนักรบ Min Zay Thant ได้นำกำลังเข้าสมทบภายหลังด้วยการบุกโจมตีขนาบทางบก จนสามารถรุกคืบเข้าไปยังกองพัน 14 ของ KIA ได้สำเร็จ โดยหลังจากนั้นก็ได้มีการเผยแพร่ภาพถ่ายจากที่เกิดเหตุ แสดงให้เห็นร่างของทหาร KIA ที่เสียชีวิต รวมถึงกระสุนและอาวุธที่แนวร่วมกองทัพพม่ายึดได้ในปฏิบัติการโจมตีครั้งล่าสุด

ทั้งนี้ ถนนลีโดมีความสำคัญในฐานะเส้นทางเชื่อมต่อระหว่าง 3 ประเทศ คือ เมียนมา จีน อินเดีย สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อใช้เป็นเส้นทางหลักในการเคลื่อนกำลังพลและลำเลียงสรรพวุธ ขณะที่ภาคตะไนเป็นแหล่งแร่ทองคำและอำพันที่ขึ้นชื่อในเมียนมา ทำให้เส้นทางสายนี้สำคัญทั้งในแง่เศรษฐกิจและการทหาร

3.ภาคพากัน (Hpakant Region) และความตึงเครียดระลอกใหม่ หลังสิ้นสุดการต่อสู้ที่ Sing Taung ในเดือนกันยายน 2024 สถานการณ์โดยรวมในเมืองผากั้นอยู่ในความสงบได้ระยะหนึ่ง จนกระทั่งเกิดเหตุปะทะระลอกใหม่ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งกองทัพพม่าได้นำกำลังโจมตีด่านตรวจแห่งหนึ่งของ KIA ในเมืองผากั้น ทำให้ทหารของ KIA เสียชีวิต 1 นาย

ต่อมา วันที่ 5 มีนาคม 2025 เครื่องบินรบของกองทัพพม่ายังได้ทิ้งระเบิดใส่กองพัน 6 ของ KIA ในเมืองผากั้น แต่ไม่มีรายงานว่าทหาร KIA เสียชีวิตในการโจมตีครั้งล่าสุด

อย่างไรก็ดี มีการต่อสู้และยิงปะทะระหว่างสองฝ่ายเกิดขึ้นประปรายมาจนถึงปัจจุบัน ทางฝั่ง KIA จึงประกาศให้พลเรือนในพื้นที่ขุดหลุมหลบภัยเพราะมีแนวโน้มว่าความขัดแย้งทางอาวุธในบริเวณนี้จะยิ่งตึงเครียดกว่าเดิม

สื่อท้องถิ่นรายงานเพิ่มเติมด้วยว่าขณะนี้ (10 มีนาคม 2025) กำลังพลของ KIA ยังสามารถยึดครองพื้นที่ในเมืองผากั้นได้ราว 80 เปอร์เซ็นต์ โดยพื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งหยกที่สำคัญของเมียนมา และมีค่ายทหารของกองทัพพม่าหลงเหลืออยู่อีก 5 แห่ง

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2025 เกิดเหตุปะทะระหว่าง KIA และกองทัพพม่า บริเวณฝั่งตะวันตกของแม่น้ำอิรวดี แต่ยังไม่ใช่การสู้รบครั้งใหญ่ เพราะ 3 เดือนก่อนหน้านี้ KIA เพิ่งยกระดับการต่อสู้เพื่อบุกยึดค่ายทหารของกองทัพพม่าในเมืองพะโม (บะมอ) หรือ Bhamo ซึ่งยังหลงเหลืออยู่อีก 3 แห่ง

ถ้าหาก KIA สามารถบุกยึดค่ายทหารพม่าทั้งหมดในพะโมได้สำเร็จ ก็มีแนวโน้มว่าจะเคลื่อนกำลังพลต่อไปทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำอิรวดี เนื่องจากเมืองผากั้นและตะไนเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญทั้งในแง่แหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญและเส้นทางลำเลียงสายหลัก หากยึดพื้นที่บริเวณนี้ได้จะช่วยให้ KIA ตัดหนทางและแหล่งรายได้ของกองทัพพม่าได้

On Key

Related Posts

“โรม”แนะรัฐใช้มาตรการเข้มกับ “ว้า”หลังพบเป็นต้นเหตุสารพันปัญหาทั้งยาเสพติด-ทำเหมืองทองต้นแม่น้ำ-รุกล้ำชายแดน กมธ.ความมั่นคงเตรียมลงพื้นที่เชียงรายสอบข้อเท็จจริงสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก-สาย เตือนระวังชาวบ้านถาม “มีรัฐบาลไว้ทำไม”

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 นายรังสิมันต์ โรม ประธาRead More →