Search

ผวาเหมืองทองเกลื่อนน้ำกก กองกำลังว้าจับมือจีนขุดแร่ทำลำน้ำขุ่น ชาวท่าตอนผวาเดินขบวนเรียกร้องรัฐบาลไทยปกป้อง หวั่นสารพิษปนเปื้อนลงสายน้ำแหล่งประปาของคนเชียงราย



เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 น.ส.หอม ผู้ประสานงานมูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้บริเวณริมแม่น้ำกก ช่วงเมืองยอนและบ้านหุ้งในเขตรัฐฉาน ติดกับชายแดนไทยด้าน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ได้มีการขุดเหมืองทองจำนวนมาก โดยชาวจีนและคนงานประมาณ 300 คนที่นำมาจากจีนและพม่า ซึ่งดำเนินการขุดกันตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโดยน้ำในแม่น้ำกกกลายเป็นสีขาวขุ่น



“พื้นที่นี้อยู่ห่างจากชายแดนไทยราว 30 กม. เขาขุดตั้งแต่ริมน้ำไปจนถึงบนดอย ชาวบ้านทั่วๆไปไม่สามารถเข้าไปได้โดยมีกองกำลังติดอาวุธว้าคอยรักษาความปลอดภัยอยู่ เชื่อว่าเป็นธุรกิจของคนจีน 4 เจ้า ตอนนี้ชาวแม่ตอน อ.แม่อาย จำนวนมากไม่กล้าใช้น้ำกันแล้วเพราะมีสารปนเปื้อน คนที่เล่นน้ำก็เป็นผื่นคัน แม้กระทั่งปลาก็ไม่กล้ากิน”น.ส.หอม กล่าว


ทั้งนี้เมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ชุมชนคนไทยที่ อ.ท่าตอนกว่า 700 คน ได้รวมตัวกันเดินขบวนเพื่อรณรงค์ปกป้องแม่น้ำกก ในขณะที่เหมืองทองคำบนต้นน้ำกกที่ห่างจากชายแดนไทยไป 30 กิโลเมตรทางทิศใต้ของเมืองสาด รัฐฉาน ประเทศพม่ายังคงดำเนินขุดต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า เป็นการรวมตัวกันที่โรงเรียนและเดินขบวนไปที่แม่น้ำกก เพื่อเรียกร้องให้มีการปกป้องแม่น้ำ เนื่องในวันปฏิบัติการเพื่อแม่น้ำสากล และต้องการส่งสัญญาณกระตุ้นเตือนสังคมมนุษย์ ทุกเชื้อชาติภาษา ให้ได้ตระหนักรู้ถึงผลกระทบของภัยพิบัติ


“ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา การขุดทองในวงกว้างเกิดขึ้นริมแม่น้ำกกในเมืองยอน ตอนใต้ของอำเภอเมืองสาด รัฐฉาน ซึ่งเป็นพื้นที่ใต้การควบคุมของกองทัพสหรัฐว้า (UWSA) การทำเหมืองทองคำนี้ ทำให้ความเสียหายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและเห็นได้ชัดในช่วงภาวะน้ำท่วมบนแม่น้ำกกเมื่อเดือนกันยายน 2567 หมู่บ้านเปียงคำของชาวไทใหญ่ในเขตเมืองยอน รัฐฉาน ถูกน้ำท่วมจนเป็นโคลนเลนทั้งหมู่บ้าน ส่วนในหมู่บ้านติดชายแดนไทยรวมทั้งบ้านท่าตอนและหมู่บ้านอื่นๆที่อาศัยริมแม่น้ำกกทางตอนเหนือของจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน”แถลงการณ์ระบุ


แถลงการณ์ระบุว่า การทำเหมืองทองคำบนแม่น้ำกกในเขตเมืองยอน รัฐฉาน ได้ขยายตัวขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนทำเหมืองบนเนินเขาและริมฝั่งแม่น้ำกก รวมถึงการใช้เรือขุดทองและสกัดบนแม่น้ำกกโดยตรง ทำให้สารตกค้างจากการทำเหมือง ซึ่งรวมถึงสารเคมีสกัดทองคำที่มีพิษ เช่น ไซยาไนด์ ไหลลงสู่แม่น้ำกกโดยตรง ทำให้เกิดความขุ่นและมลพิษในน้ำ ชาวบ้านไม่กล้าใช้น้ำเพื่อการบริโภคในครัวเรือน และทำให้ปลาแทบสูญพันธุ์


ทั้งนี้ผู้นำในชุมชนริมแม่น้ำกก อ.แม่อาย ได้ร่วมกันเปิดเผยว่า ตอนนี้น้ำกกขุ่น เพระมีกลุ่มจีนมาขุดแร่ทองคำเยอะมาก ทำลายป่า จึงไม่มีต้นไม้หรือป่าซับน้ำ ซึ่งได้เริ่มราวปี 2550 เป็นต้นมา 


“กลุ่มว้าอพยพเข้ามา ทำสวนยางพาราเยอะมาก ระเบิดภูเขา ปลูกยางพาราเป็นพื้นที่กว้างมาก จีนก็เข้ามา”ผู้นำชาวบ้านในแม่อายกล่าว


เขาระบุว่า กลุ่มชาติพันธุ์ว้าอพยพมาจากปางซาง (เมืองหลวงรัฐว้า) ใครจะทำเท่าไหร่ก็ขยายเขตได้เลยอย่างเสรี ทำให้เกิดการขยายอาณาเขตกันเยอะมากแบบไม่ต้องเกรงใจใคร เมื่อก่อนคนเมืองยอน เป็นชาวไทใหญ่และชนเผ่าต่างๆ รักษาป่ามีลำธารแม่น้ำอุดมสมบูรณ์ แต่เมื่อมีสงครามก็ต้องอพยพออกไปจากเมืองยอน วันนี้หากไปดูจะพบว่ามีแต่กลุ่มว้า เข้ามาอยู่เยอะมาก เมืองยอนเป็นชาวว้าทั้งหมด ตอนนี้น้ำกกขุ่นมากเพราะทั้งจีนและว้าเขาทำเหมืองทอง ปกติในช่วงฤดูแล้ง เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ แม่น้ำกกต้องมีน้ำใส แต่ตอนนี้ขุ่นมากน่าเป็นห่วง


ทั้งนี้แม่น้ำกกมีต้นกำเนิดมาจากภูเขาทางเหนือในรัฐฉานของพม่า ไหลเข้าสู่ประเทศไทยที่ ต.ท่าตอน อ.แม่อาย เชียงใหม่ ไหลสู่อำเภอเมืองเชียงราย ไหลลงสู่แม่น้ำโขง ที่บ้านสบกก อ.เชียงแสน รวมความยาวประมาณ 285 กิโลเมตร โดยแม่น้ำกกเป็นแหล่งน้ำประปาที่สำคัญของประชาชนตลอดลำน้ำ โดยเฉพาะ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และ อ.เมืองเชียงราย




On Key

Related Posts

“โรม”แนะรัฐใช้มาตรการเข้มกับ “ว้า”หลังพบเป็นต้นเหตุสารพันปัญหาทั้งยาเสพติด-ทำเหมืองทองต้นแม่น้ำ-รุกล้ำชายแดน กมธ.ความมั่นคงเตรียมลงพื้นที่เชียงรายสอบข้อเท็จจริงสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก-สาย เตือนระวังชาวบ้านถาม “มีรัฐบาลไว้ทำไม”

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 นายรังสิมันต์ โรม ประธาRead More →