Search

ผบ.สส.เร่งหน่วยงานตรวจสอบคุณภาพน้ำกกหลังชุมชนผวาสารพิษเจือปนจากการทำเหมืองทองฝั่งพม่า ภาคประชาชนเผยน้ำกกขุ่นเพิ่มจากปีก่อน 8 เท่าหวั่นกระทบน้ำดิบทำประปา

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (ผอ.ศอ.ปชด.)เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในแม่น้ำสาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่ขุนข้นเนื่องจากการทำเหมืองแร่ในตอนบนของแม่น้ำสาย ว่ารู้สึกห่วงใยจึงได้มีการตรวจเช็คคุณภาพน้ำอยู่เสมอ แต่ในปีนี้สีขุ่นค่อนข้างเจือจางและสารพิษยังไม่เกินเกณฑ์ อย่างไรก็ตามได้รับแจ้งจากนายกเทศมนตรีแม่สายว่าน้ำสายยังมีสีเข้มและเชื่อว่ามีสารพิษปนเปื้อนเยอะ ซึ่งตนก็ได้รับทราบและแจ้งไปว่าจะหาวิธีดำเนินการพูดคุยกับฝั่งพม่าให้

“ผมยอมรับว่า เป็นห่วงแม่น้ำสาย ผมไม่ได้นิ่งนอนใจ” พล.อ.ทรงวิทย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ชาวบ้านกำลังเดือดร้อนจากน้ำในแม่น้ำกกขุ่นข้นเช่นเดียวกัน เนื่องจากการทำเหมืองแร่ตอนบนของแม่น้ำกก พล.อ.ทรงวิทย์กล่าวว่า จะเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปสำรวจตรวจสอบ เช่น ให้กรมวิทยาศาสตร์ฯเก็บตัวอย่างน้ำกกไปตรวจสอบคุณภาพว่าเป็นอย่างไร ขณะเดียวกันคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณให้หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาทำการขุดลอกแม่น้ำกกโดยจะเริ่มต้นในเดือนเมษายนนี้

ด้าน น.ส.จุฑามาศ ราชประสิทธิ์ เจ้าหน้าที่อาวุโส มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา จ.เชียงราย (พชภ.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีการทำเหมืองทองริมแม่น้ำกกบริเวณเมืองยอน เขตรัฐฉานใต้ ประเทศพม่า ซึ่งใกล้ชายแดนไทยด้าน ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ว่าได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำภายหลังจากเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่น้ำท่วมโคลนถล่มเมืองเชียงรายและได้ร่วมแลกเปลี่ยนกับเครือข่ายภาคประชาสังคมใน อ.แม่อาย โดยพบข้อมูลว่าสาเหตุที่น้ำกกที่มีสีขาวขุ่นเพราะมีการทำเหมืองทองริมน้ำกกในรัฐฉานขณะนี้ ชาวบ้านต่างพากันกังวลเพราะไม่แน่ใจในคุณภาพของน้ำ ดังนั้นหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องควรเร่งเข้ามาตรวจสอบเพราะชาวบ้านต่างต้องพึ่งพาน้ำในแม่น้ำกกในการอุปโภคและบริโภค

“ตอนนี้คนในเมืองเชียงรายต่างก็สนใจข่าวนี้ เพราะแม่น้ำกกเป็นเหมือนเส้นเลือดใหญ่ของชาวเชียงราย เป็นแหล่งน้ำประปาในเขตเทศบาล และเขตใกล้เคียง ครั้งก่อนที่เกิดภัยพิบัติน้ำท่วมโคลนถล่ม เราก็ยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงเลยว่าโคลนจำนวนมหาศาลมาจากไหน แต่เมื่อได้เห็นการทำเหมืองทองมากมายในรัฐฉาน ทำให้เชื่อได้ว่าน่าจะเป็นสาเหตุนี้ และเป็นภัยพิบัติลักษณะเดียวกันกับที่แม่สายซึ่งก็มีการทำเหมืองทองบริเวณต้นน้ำเช่นกัน” น.ส.จุฑามาศ กล่าว

เจ้าหน้าที่มูลนิธิ พชภ.กล่าวว่า ที่น่าเป็นห่วงคือในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ แม่น้ำกกและแม่น้ำสายเป็นแหล่งน้ำในเทศกาลสำคัญนี้ ดังนั้นรัฐบาลต้องเร่งตรวจสอบคุณภาพน้ำให้เกิดความชัดเจนและมั่นใจ ขณะเดียวกันในภาพใหญ่ที่เป็นปัญหาของผลกระทบข้ามแดนจำเป็นต้องมีการหารือระหว่างผู้มีอำนาจทั้งสองฝั่งเพื่อแก้ปัญหาของประชาชนท้ายน้ำที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมือง

“การเปิดพื้นที่ป่าเพื่อทำการเกษตรเชิงเดี่ยวโดยเฉพาะยางพารา การเคลื่อนย้ายประชากรเข้ามาในพื้นที่ จากเดิมเป็นชนชาติพันธุ์ชาวไทยใหญ่ที่อาศัยอยู่บริเวณต้นน้ำแม่กกมาหลายชั่วอายุคน กลายเป็นกลุ่มทุนต่างชาติ ที่เข้ามาใหม่ ไม่มีความผูกพันใดใดกับพื้นที่ ไม่มีแม้แต่ความรู้และความรักในระบบนิเวศท้องถิ่น มูลนิธิ พชภ. ได้ลงพื้นที่ทำงานใกล้ชิดกับชุมชนริมน้ำแม่กก ตั้งแต่บ้านร่มไทย ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ถึงบ้านโป่งนาคำ ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย เป็นระยะทาง 80 กม. พบว่าน้ำขุ่นมาก มีข้อมูลจากพื้นที่เก็บน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำประปา ยืนยันว่าน้ำกกในปีนี้ขุ่นกว่าเดือนนี้ในปีที่แล้ว 8 เท่า” น.ส.จุฑามาศ กล่าว

——–

On Key

Related Posts

“โรม”แนะรัฐใช้มาตรการเข้มกับ “ว้า”หลังพบเป็นต้นเหตุสารพันปัญหาทั้งยาเสพติด-ทำเหมืองทองต้นแม่น้ำ-รุกล้ำชายแดน กมธ.ความมั่นคงเตรียมลงพื้นที่เชียงรายสอบข้อเท็จจริงสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก-สาย เตือนระวังชาวบ้านถาม “มีรัฐบาลไว้ทำไม”

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 นายรังสิมันต์ โรม ประธาRead More →