Search

หวั่นท่องเที่ยวพินาศหลังน้ำกกกลายเป็นสีขุ่นข้นจากเหมืองทองตอนบนในพม่า นายกฯอบต.ท่าตอนเตรียมทำหนังสือจี้รัฐบาลเร่งแก้ไข-ชาวเชียงรายเริ่มไม่กล้าเล่นน้ำ เผยปลาหายไป 70% ทสจ.ส่งทีมตรวจสอบคุณภาพน้ำ


———
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 พ.ท.บุญโรจน์ กองแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบล( อบต.)ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงการสร้างเหมืองทองบริเวณริมน้ำกกตอนบนในเขตรัฐฉาน ประเทศพม่า ทำให้ประชาชนชาวท่าตอนได้รับผลกระทบเนื่องจากน้ำกกมีสีขุ่นข้น ว่าในการประชุมสภา อบต.นอกรอบในวันที่ 21 มีนาคมนี้ จะหารือกับสมาชิกเพื่อทำหนังสือถึงรัฐบาลเพื่อขอให้แก้ไขปัญหาความเดือดต้อนของประชาชน และในวันที่ 24 มีนาคมจะมีการประชุมใหญ่ก็จะขออนุมัติที่ประชุมส่งหนังสือไปยังรัฐบาลโดยผ่านอำเภอแม่อาย



พ.ท.บุญโรจน์กล่าวว่า  ขณะนี้ชาวบ้านกำลังเดือดร้อนเนื่องจากคุณภาพของน้ำในแม่น้ำกกเปลี่ยนไปเป็นขุ่นข้น ขณะที่เด็กๆและประชาชนที่เคยลงเล่นน้ำ และใช้น้ำในแม่น้ำกกอุปโภคบริเภค ก็ไม่สามารถใช้น้ำได้อีก เพราะบางคนเกิดผื่นคัน ซึ่งสมัยก่อนแม่น้ำกกไม่เคยขุ่นเช่นนี้ เชื่อว่ามีสาเหตุการทำเหมืองทองตอนบนของแม่น้ำกก โดยสถานการณ์รุนแรงขึ้นตามลำดับตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา แสดงว่าเริ่มมีการดำเนินการทำเหมืองอย่างจริงจัง



นายก อบต.ท่าตอนกล่าวว่า อยากเสนอให้TBC (Township Border Committee -คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น)และรัฐบาลต้องเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านและแก้ไขปัญหานี้ โดยที่ผ่านมายังไม่เคยมีหน่วยงานใดเข้ามาตรวจคุณภาพน้ำ เพราะชาวบ้านไม่คิดว่าตอนบนของแม่น้ำกกจะมีเหมือง เพราะอดีตเห็นเพียงโรงงานยางพาราและสวนยางพารา เพิ่งมาทราบไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจึงไม่แน่ใจว่าหน่วยงานรู้แล้วหรือยัง แต่ตอนนี้น้ำกกขุ่นตลอด

“ผมเป็นห่วงว่าเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อเรื่องการท่องเที่ยวด้วย เพราะทุกๆหน้าร้อน ริมแม่น้ำกกจะเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ เพราะมีชายหาดเป็นช่วงๆ แต่พอน้ำขุ่นข้นซึ่งเชื่อว่าจะยาวไปถึงเชียงรายเพราะเป็นแม่น้ำสายเดียวกัน โดยเฉพาะช่วงต้นเมษายนที่เศรษฐกิจริมน้ำกกดี ชาวบ้านต่างมีรายได้จากการค้าขายให้กับนักท่องเที่ยว แต่พอน้ำขุ่นข้นก็ส่งผลกระทบไปหมด ทั้งเรื่องคุณภาพน้ำ เรื่องสุขภาพของประชาชน รวมถึงเรื่องน้ำประปา ซึ่งทั้งที่ อ.ฝาง อ.แม่อาย และ อ.เมืองเชียงราย ต่างก็ใช้น้ำในแม่น้ำกกเป็นแหล่งน้ำดิบทำน้ำประปา แต่ยับไม่รู้ว่าได้รับผลกระทบด้านการเกษตรด้วยหรือไม่”พ.ท.บุญโรจน์ กล่าว



นางสลีลญา คำภาแก้ว นายอำเภอแม่อาย กล่าวว่าในวันที่ 19 มีนาคม เวลา 13.30 น. ทางทีมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทสจ.)เชียงใหม่จะมาร่วมกันตรวจสอบคุณภาพน้ำในแม่น้ำกก ขณะเดียวกันที่ผ่านมามีเด็กลงเล่นน้ำและเกิดผื่นขึ้นตามร่างกายซึ่งทางสาธารณสุขได้รายงานไว้ ดังนั้นจึงได้นัดให้เข้าไปร่วมตรวจสอบในประเด็นนี้พร้อมๆกัน

“ตอนนี้เราต้องตรวจพิสูจน์ให้ได้ก่อนว่า น้ำในแม่น้ำกกมีสารปนเปื้อนอยู่หรือไม่เพราะขณะนี้ขุ่นมาก และรายงานเป็นลำดับชั้น หากต้นเหตุของปัญหาอยู่ในต่างประเทศก็เกินศักยภาพของอำเภอ เราต้องรายงานไปที่จังหวัด เดี๋ยวผู้ใหญ่คงได้หารือกัน”นายอำเภอแม่อาย กล่าว


ด้านนายจาย เจ้าของร้านอาหารริมหาดเชียงราย  กล่าวว่า ปีนีน้ำขุ่นมากกว่าปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีประชาชนมาเที่ยวต่อเนื่องตั้งแต่งานดอกไม้งามที่คนมาเที่ยวแล้วมานั่งร้านและแพริมน้ำที่หาด หลังน้ำท่วมหาดหายไปมาก และน้ำปีนี้ปกติจะใสแล้วและระดับจะต่ำกว่านี้ แต่ปีนี้ระดับน้ำสูงกว่าหน้าแล้งปีที่ผ่านมาและยังขุ่น การขายของที่หาดเป็นแหล่งรายได้ที่ดีมากในหน้าแล้งตั้งแต่มีนาคม คนจะเริ่มลงมาเล่นน้ำกันแล้ว

นายเชิดชัย เกิดพร คิวเรือน้ำกก กล่าวว่า ในปีนี้น้ำกกขุ่น ปกติตอนนี้น้ำกกต้องใสแล้ว และพอเห็นข่าวที่ท่าตอนน้ำขุ่นข้น ทำให้ตนเองและคนริมน้ำกกเริ่มกังวลไม่กล้าลงเล่นน้ำกกเลย ปกติหน้านี้จะลงเล่นน้ำกันแล้ว และที่เห็นชัดคือปลาในน้ำกกหายาก ตอนนี้หายไปเกือบ 70 เปอร์เซ็นจากที่เคยหาได้จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยมาตรวจคุณภาพน้ำด้วย เห็นจากข่าวว่ามีการขุดเหมืองทองที่ต้นน้ำกกทำให้คนไม่กล้าลงน้ำแล้ว ซึ่งจะกระทบกับการท่องเที่ยวริมน้ำกก จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรมควบคุมมลพิษ หรือหน่วยงานท้องถิ่นเข้ามาดูแลและให้ข้อมูลความรู้กับชาวบ้านด้วย

นายจำรัส กำแพงคำ คนขับเรือในแม่น้ำกก อ.เมือง จ.เชียงราย กล่าวว่าขณะนี้น้ำกกช่วงที่ไหลผ่าน อ.เมือง เชียงราย ขุ่นมากแตกต่างจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และตอนนี้ยังไม่เห็นมีใครมาสำรวจ เพียงแต่ได้ข่าวว่าชาวบ้านท่าตอนได้ออกมาเคลื่อนไหว อย่างไรก็ตามถ้ามีการตรวจสอบคุณภาพน้ำจะดีที่สุดเพราะประชาชนจะได้อุ่นใจ เพราะปกติทุกปีช่วงนี้น้ำกกจะใสสะอาด และเป็นช่วงที่ประชาชนเที่ยวเล่นน้ำกกในหน้าร้อน จึงเป็นห่วงว่าหากยังไม่รีบตรวจสอบ จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวริมน้ำกก

ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ข้อมูลการตรวจคุณภาพน้ำของประปาเชียงรายแต่ผู้จัดการประปายังไม่สะดวกให้ข้อมูล และแหล่งข่าวจากหน่วยงานท้องถิ่นเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่เป็นเรื่องระดับรัฐบาลที่จะสามารถดำเนินการได้

วันเดียวกันชาวบ้านแคววัวดำ ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย ร่วมกับส่วนงานอุทกวิทยาที่ 2 เชียงราย สำนักงานเทศบาลตำบลแม่ยาว มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา(พชภ.)และมูลนิธิศึกษาพัฒนาประชาชนบนที่สูง ร่วมกันตั้งเสาวัดระดับน้ำ บริเวณริมแม่น้ำกกบ้านแคววัวดำ เพื่อติดตามระดับน้ำแม่กก ในช่วงฤดูฝน ในปี 2568



ทั้งนี้เมื่อเดือนกันยายน 2567 บ้านแคววัวดำ เป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำและดินโคลนท่วมอย่างรุนแรง โดยไม่มีการแจ้งเตือนจากทางการ ขณะที่เสาวัดระดับน้ำก็ยังไม่มี ทำให้ขณะนี้ภาคประชาชาสังคมและหน่วยงานราชการบางแห่งพยายามสร้างระบบเตือนภัย

————

On Key

Related Posts

“โรม”แนะรัฐใช้มาตรการเข้มกับ “ว้า”หลังพบเป็นต้นเหตุสารพันปัญหาทั้งยาเสพติด-ทำเหมืองทองต้นแม่น้ำ-รุกล้ำชายแดน กมธ.ความมั่นคงเตรียมลงพื้นที่เชียงรายสอบข้อเท็จจริงสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก-สาย เตือนระวังชาวบ้านถาม “มีรัฐบาลไว้ทำไม”

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 นายรังสิมันต์ โรม ประธาRead More →