เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 สำนักข่าว New Straits Times ของมาเลเซีย รายงานข่าวว่าชาวมาเลเซีย 2 คนรอดพ้นจากการค้ามนุษย์ในลาวและถูกส่งกลับสู่ประเทศแล้ว โดยเหยื่อรายหนึ่งมาจาก รัฐสลังงอร์ อีกรายมาจากรัฐปีนัง ซึ่งทั้งสองถูกหลอกให้เดินทางออกนอกประเทศและถูกจับตัวเพื่อเรียกค่าไถ่จำนวน 50,000 ริงกิตมาเลเซีย (ราว 3.5 แสนบาท)
“เหยื่อรายแรกถูกหลอกโดยการเสนองานบนโซเชียลมีเดีย จากนั้นก็ถูกส่งไปยังลาว” หัวหน้ากลุ่มต่อต้านค้ามนุษย์ขององค์กรการช่วยเหลือระหว่างประเทศมาเลเซีย (MHO) กล่าวในงานแถลงข่าวที่ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ (KLIA) และระบุว่าเหยื่อถูกเสนองานที่มีเงินเดือน 8,000 ริงกิต แต่เมื่อไปถึงก็มีผู้คุมสถานที่ เอาปืนออกมาขู่
สำหรับเหยื่อจากปีนัง อายุ 31 ปี มีเพื่อนสัญชาติจีนซึ่งรู้จักทางออนไลน์ได้เชิญเขาไปเที่ยว เพื่อนหญิงคนดังกล่าวได้นำเขาเดินทางโดยเส้นทางแคบๆ เข้าประเทศไทย และเดินทางสู่ลาวโดยทางบก
“เหยื่อไม่คิดเลยว่าจะไปที่ลาว ในช่วงแรกเธอแค่เชิญเขาไปเที่ยว แต่เมื่อถึงพรมแดนและข้ามเข้าประเทศไทย เธอบอกว่าไปทำงาน” เจ้าหน้าที่กล่าว ต่อมาครอบครัวของเหยื่อทราบถึงสถานการณ์ เมื่อได้รับข้อมูล GPS ก็ทราบว่าเหยื่อติดอยู่ในเขตสามเหลี่ยมทองคำ (ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย)
เจ้าหน้าที่ฯ กล่าวว่าว่ากระบวนการนำพาเหยื่อกลับประเทศใช้เวลาประมาณ 45 วัน โดยช่วยจากเขตสามเหลี่ยมทองคำ พามากรุงเวียงจันทน์ สถานทูตก็ได้ออกเอกสารการเดินทางให้เหยื่อเพื่อกลับสู่มาเลเซีย และระบุว่ามีเครือข่ายค้ามนุษย์ที่ยังคงจับเหยื่อไว้ในสถานที่นั้นอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเมื่อเดือนสิงหาคม 2567 ทางการจีนร่วมกับทางการลาวได้ทำการตรวจค้นและจับกุมขบวนการคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำในเมืองต้นผึ้ง ประเทศลาว และหลังจากนั้นทางผู้บริหารของอาณาจักรคิงส์โรมันส์ พยายามให้ข่าวประชาสัมพันธ์ต่อสื่อมวลชนว่าพื้นที่แหล่งนี้ปลอดภัยจากการต้มตุ๋นหลอกลวง (อ่านข่าวเพิ่มเติม https://transbordernews.in.th/home/?p=39726 ) และเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาจ้าวเหว่ย ผู้นำสูงสุดของกลุ่มคิงส์โรมันส์ ได้รับรางวัลเชิดชูจากทางการลาวในฐานะนักพัฒนา ขณะที่ประเทศอเมริกาและประเทศยุโรปหลายประเทศได้ขึ้นบัญชีดำจ้าวเหว่ย
ทั้งนี้เชื่อกันว่ายังคงมีเหยื่อชาวต่างชาติอีกจำนวนมากถูกหลอกลวงและกักกังอยู่ในพื้นที่คิงส์โรมันส์ แต่อยู่ในสถานที่ลึกลับมากขึ้นภายหลังจากที่ทางการจีนและทางการลาวร่วมกันสำรวจพื้นที่ตรวจสอบแหล่งอาชญากรรมต่างๆในอาณาจักรคิงส์โรมันส์ โดยนักวิจัยและหน่วยงานด้านความมั่นคงในไทยต่างเชื่อว่า จ้าวเหว่ยและทางการจีนกำลังร่วมกันสร้างภาพพจน์ใหม่ให้พื้นที่แห่งนี้เป็นสีขาว
