Search

ผู้เชี่ยวชาญเตือนฤดูฝนหน้าลุ่มน้ำกก-ลุ่มน้ำสายเสี่ยงสึนามิโคลนอีก เหตุทำเหมืองต้นน้ำ แนะเร่งทำจุดตรวจวัดชายแดน เผยยังไม่มีหน่วยราชการตรวจสอบระบบนิเวศ ชาวบ้านท่าตอนยังกังวลน้ำกกขุ่น

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2568 ดร.ธนพล พิมาน หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านบริหารจัดการน้ำ สถาบันสิ่งแวดล้อมสตอกโฮล์ม แห่งภาคพื้นเอเชีย SEI Asia Centre ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีปัญหาแม่น้ำสายและแม่น้ำกก ที่พบว่ามีการทำเหมืองที่ต้นน้ำในรัฐฉาน ฝั่งประเทศพม่าส่งผลกระทบต่อประชาชนท้ายน้ำว่า ที่ชัดเจนคือ ตะกอนดินในแม่น้ำเพิ่มขึ้น ทำให้น้ำขุ่นขึ้นเป็นอย่างมาก ส่วนสารปนเปื้อนนั้น ยังไม่ชัดเจน ต้องตรวจวัดข้อมูลอย่างต่อเนื่อง สำหรับวิธีแก้ไข ตนคิดว่ามีวิธีเดียว คือการจัดการเหมืองให้ได้มาตรฐาน เพราะมีทั้งเหมืองที่อยู่ต้นน้ำและติดริมน้ำโดยตรง จากประสบการณ์ที่ตนเคยทำงานที่ในพม่า เคยตรวจเจอโลหะหนักในน้ำเพียงแต่ก็ยังอยู่ในค่าที่ไม่กระทบรุนแรง

ผู้สื่อข่าวถามว่าภัยพิบัติน้ำโคลนท่วมเมื่อเดือนกันยายน 2567 เกี่ยวข้องกับการทำเหมืองทางต้นแม่น้ำสาย แม่น้ำกก ด้วยหรือไม่ ดร.ธนพล ตอบว่าเกี่ยวแต่ไม่ทั้งหมด เป็นผลที่ปนกันจากการทำเหมือง และ landslide ตามธรรมชาติ สถานการณ์หากปล่อยไปแบบนี้ ฤดูฝนปีนี้ (2568) จะเสี่ยงโคลนถล่มอีกอย่างแน่นอนเพราะปีที่แล้ว 2567 มันคือ tigger(ลั่นไก) แล้วว่าคุณภาพต้นน้ำอยู่ในสภาพเสื่อมโทรม จึงต้องติดตามตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงร่วมกันก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องน้ำขุ่นข้น ทั้งน้ำกกและน้ำสาย ควรแก้ปัญหาอย่างไร ดร.ธนพลตอบว่าปัญหาใหญ่ คือ ประปา การแก้ปัญหาที่ปลายทาง ก็ต้องตรวจคุณภาพน้ำเพื่อความปลอดภัย เพิ่มต้นทุนการบำบัดน้ำประปาให้มากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้ายน้ำต้องปรับตัว

“อันนี้ยังไม่ได้รวมผลกระทบเรื่องระบบนิเวศที่ยังไม่มีหน่วยงานไหนมาตรวจสอบผลกระทบอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นปลาและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในลำน้ำ แหล่งอาศัย แหล่งวางไข่ ไม่มีข้อมูลเลย เราอยู่ท้ายน้ำต้องตั้งรับด้วยข้อมูลที่ชัดเจนว่าผลกระทบเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางต้นน้ำเป็นอย่างไร ต้องไปตั้งจุดตรวจวัด ที่ เขต ชายแดนทุกจุด” ผู้เชี่ยวชาญกล่าว

วันเดียวกัน น.ส.จุฑามาศ ราชประสิทธิ เจ้าหน้าที่อาวุโสมูลนิธิชุมชนและเขตภูเขา จ.เชียงราย เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ริมแม่น้ำกก ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ว่าชาวบ้านแก่งทรายมูล และชาวบ้านร่มไทย หมู่ 14 ต ท่าตอน ยังเป็นกังวลเรื่องความขุ่นข้นของน้ำในแม่น้ำกก แม้ว่าจะมีการนำน้ำไปตรวจคุณภาพน้ำแล้วก็ตาม

น.ส.จุฑามาศกล่าวว่า การท่องเที่ยวและการเล่นน้ำสงกรานต์ของชาวบ้านในละแวกนี้และชาวบ้านต่างถิ่นเชื่อว่าจะลดลงแน่นอน เนื่องจากความขุ่นข้นของน้ำกก โดยก่อนหน้านี้กรมควบคุมมลพิษนำน้ำจาก 3 พื้นที่ไปตรวจ คือ จุดฐานทหารพรานบริเวณบ้านแก่งทรายมูล บ้านใหม่หมอกจ๋าม และบ้านผาใต้ ซึ่งจะต้องใช้เวลานานประมาณหนึ่งเดือนกว่าจะทราบผล“นอกจากสถานการณ์น่ากังวลใจเรื่องน้ำกกขุ่นแล้ว ยังมีสถานการณ์ไฟไหม้ป่ารอยต่อระหว่างชายแดนไทยพม่า บริเวณหมู่ 14 เพราะไฟไหม้ต่อเนื่องยังไม่สามารถดับได้สนิท ชาวบ้านต้องผลัดเปลี่ยนเวรกันไปเพื่อดับไฟด้วยมือ/ใช้ไม้ตีไฟ ไม่สามารถแบกถังน้ำขึ้นไปได้”น.ส.จุฑามาศ กล่าว

“นอกจากสถานการณ์น่ากังวลใจเรื่องน้ำกกขุ่นแล้ว ยังมีสถานการณ์ไฟไหม้ป่ารอยต่อระหว่างชายแดนไทยพม่า บริเวณหมู่ 14 เพราะไฟไหม้ต่อเนื่องยังไม่สามารถดับได้สนิท ชาวบ้านต้องผลัดเปลี่ยนเวรกันไปเพื่อดับไฟด้วยมือ/ใช้ไม้ตีไฟ ไม่สามารถแบกถังน้ำขึ้นไปได้”น.ส.จุฑามาศ กล่าว

On Key

Related Posts

“โรม”แนะรัฐใช้มาตรการเข้มกับ “ว้า”หลังพบเป็นต้นเหตุสารพันปัญหาทั้งยาเสพติด-ทำเหมืองทองต้นแม่น้ำ-รุกล้ำชายแดน กมธ.ความมั่นคงเตรียมลงพื้นที่เชียงรายสอบข้อเท็จจริงสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก-สาย เตือนระวังชาวบ้านถาม “มีรัฐบาลไว้ทำไม”

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 นายรังสิมันต์ โรม ประธาRead More →