
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2568 นายลอ เอ้ มู หัวหน้าฝ่ายการศึกษากะเหรี่ยง (Karen Education and Culture Department-KECD) ของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง(Karen National Union-KNU) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการจัดสอบไล่สำหรับนักเรียนประถมและมัธยมในรัฐกะเหรี่ยง ที่ต้องจัดการสอบในป่าเพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นเป้าหมายถูกโจมตีของกองทัพพม่า-สภาบริหารแห่งรัฐพม่า (State Administration Council-SAC) ว่าได้ดำเนินการทุกอย่างเรียบร้อยด้วยดี เด็กๆ สอบในป่าเพื่อหลบการโจมตีทางอากาศ ตอนนี้การสอบไล่เรียบร้อยแล้วในทุกชั้น ทั้ง ป.6 ม.3 ม.6
นายลอ เอ้ มู กล่าวว่าในปีการศึกษานี้ ชั้น ม.6 มีจำนวนนักเรียน 1,562 คน รวมทั้ง 3 ชั้นประมาณ 3,000 คน ในปีนี้ที่เราได้จัดสอบ ทั้งสิ้น 7 เขต ในบางเขต เช่น มือตรอ เดิมวางแผนไว้ว่าจะจัดสอบ 19 แห่ง แต่พิจารณาแล้วเยอะเกินไปจึงจัดให้สอบรวม แต่ข้อเสียคือเด็กๆ ก็ต้องเดินทางมาสอบไกลเกินไป แต่หากให้มีการจัดสอบหลายแห่งจะไม่มีครูในการคุมสอบเพียงพอ ค่าใช้จ่ายก็แพง ต้องใช้เวลาเตรียมเยอะ เราจึงจัดการสอบให้กระชับที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่าสถานการณ์สู้รบตอนนี้ โรงเรียนและสถานศึกษายังคงตกเป็นเป้าหมายในการโจมตีของกองทัพพม่าอยู่อีกหรือ นายลอ เอ้ มูกล่าวว่า ใช่ กองทัพพม่าพุ่งเป้าการโจมตีมาที่อาคารโรงเรียน โบสถ์ วัด โรงพยาบาล ฯลฯ อาคารสาธารณะต่างๆ เพราะหาง่าย สามารถโจมตีได้โดยง่าย แม้ทางกองกำลัง KNU จะสามารถผลักดันทหารพม่าออกไปจากพื้นที่ได้แล้ว แต่กองทัพพม่าก็ยังมาโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทั้งโดรนและเครื่องบิน สร้างความวุ่นวายให้ประชาชนไม่สามารถมีชีวิตปกติสุขได้
เมื่อถามว่าที่ผ่านมามีเด็กนักเรียนเป็นเหยื่อสงครามเท่าไหร่ หัวหน้าฝ่ายการศึกษากะเหรี่ยงกล่าวว่า มีนักเรียน ครู และคณะกรรมการโรงเรียน ที่ต้องเสียชีวิต บาดเจ็บ และได้รับผลกระทบจำนวนมาก โรงเรียนและหมู่บ้านถูกโจมตีทางอากาศและปืนใหญ่อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 แล้ว (นับตั้งแต่รัฐประหารในปี 2021) โรงเรียนตกเป็นเป้าหมายการโจมตี นอกจากนี้ยังมีกรณีครูถูกจับกุมโดยทหารพม่า SAC เรารายงานเรื่องนี้ไว้ แต่ยังไม่ได้ทำให้เป็นปัจจุบันเพราะสถานการณ์ขณะนี้ยากมากที่จะรวมข้อมูลให้ครบ

“ครูเดินทางไปสอนหนังสือในพื้นที่ แต่เนื่องจากภาวะสงคราม ไม่มีขนส่งสาธารณะ ต้องเดินทางไปกับรถรวม แต่เจ้าหน้าที่ฝั่งพม่าสงสัย ก็โดนจับและก็ถูกจับกันทั้งคันรถ ทางภาคประชาสังคมกะเหรี่ยงและเครือข่ายพยายามช่วยให้ออกมา แต่ก็เข้าไม่ถึง จึงยังช่วยไม่ได้ ครูที่จะไปสอนหนังสือเด็กๆ ต้องถูกจับไปโดยไม่มีความผิดเลย ยังไม่รู้ชะตากรรมจนตอนนี้”นายลอ เอ้ มู กล่าว
สำหรับข้อเสนอในการปกป้องเด็กและสถานศึกษา หัวหน้าฝ่ายการศึกษาของ KNU กล่าวว่า ได้มีคำประกาศของการศึกษา KNUว่า สถานศึกษา ครู นักเรียน จะต้องได้รับการคุ้มครอง ต้องไม่เป็นเป้าหมายของการโจมตี ครูต้องไม่ถูกบังคับไปเป็นทหาร ต้องมีกลไกการคุ้มครองการจัดการศึกษาในสถานการณ์สงคราม โรงเรียนและการศึกษาต้องปลอดจากการโจมตี
“ขณะนี้ทหารพม่า SAC มีโดรนโจมตีรุ่นใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆที่ทำลายล้างกว่าเดิม เขาใช้อาวุธเคมีที่อันตรายมาก ดูเหมือนจะใช้อาวุธใหม่ๆ ทิ้งระเบิดลงมาเป็นสารเคมี ทำให้พื้นที่ 50 เมตรรอบๆ ที่ระเบิดลงจะขาดดออกซิเจนไปหมด เราได้ยินว่ามีระเบิดแบบนี้ พม่ายังใช้ระเบิดเคมีอื่นๆ ที่จะโจมตีประชาชน เรายังมุ่งมั่นทำงานเพื่อให้เด็กๆ ไม่กลายเป็น lost generation เยาวชนของเราต้องมีการศึกษา สงครามต้องไม่หยุดการศึกษาของประชาชนชาวกะเหรี่ยง”หัวหน้าฝ่ายการศึกษากะเหรี่ยงกล่าว
อนึ่ง ก่อนหน้านี้สำนักข่าวชายขอบ ได้เคยสัมภาษณ์นายลอ เอ้ มู เกี่ยวกับเรื่องระบบการศึกษาของกะเหรี่ยงสามารถอ่านได้ใน https://transbordernews.in.th/home/?p=40301

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ศูนย์ข้อมูลกะเหรี่ยง ( Karen Information Center) รายงานว่า เด็กนักเรียนชาวกะเหรี่ยงในเมืองกอกะเร็ก รัฐกะเหรี่ยงต้องจัดการเรียนการสอน หรือการสอบในป่า เนื่องจากหวั่นเกรงว่า กองทัพพม่าจะโจมตีทางอากาศเพิ่มมากขึ้นในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งทางครูและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหวั่นว่าเป็นอันตรายกับเด็กนักเรียน
ขณะที่สำนักข่าว Irrawaddy รายงานว่า กองทัพพม่าได้เรียกร้องให้ผู้ปกครองในประเทศอย่าส่งบุตรหลานเข้าเรียนในโรงเรียนหรือเรียนออนไลน์ที่สอนโดยฝ่ายต่อต้าน แต่ให้ส่งเข้าเรียนในโรงเรียนของทางการพม่าแทน อย่างไรก็ตามที่ผ่านมากองทัพพม่าได้ดำเนินการปราบปรามโรงเรียนที่อยู่ในความดูแลของกลุ่มต่อต้านรัฐบาล โดยจับกุมเด็กและครู
ขณะเดียวกันเครื่องบินรบของกองทัพพม่ายังคงโจมตีโรงเรียนหลายแห่งทั่วประเทศ โดยที่เมืองหนองเขียว ทางเหนือของรัฐฉาน ยังคงถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องจากกองทัพอากาศพม่า โดยในรอบ 10 วันที่ผ่านมา มีพลเรือนผู้บริสุทธิ์ต้องเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุโจมตีทางอากาศ โดรนติดอาวุธ และการโจมตีโดยปืนใหญ่อย่างน้อย 36 รายแล้ว
———-