เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย(รมช.มท.) ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มส่วนหน้า จังหวัดเชียงราย ให้สัมภาษณ์ถึงการวางแผนรับมือสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดเชียงรายว่า ในส่วนของแม่น้ำสาย อ.แม่สายนั้น ได้มีการอนุมัติงบประมาณเกี่ยวกับการขุดรอกแม่น้ำสายแบ่งเป็น 2 ส่วนคือทั้งฝั่งไทยทำราว 30 กม.และอีกบางส่วนในฝั่งพม่าทางการพม่าจะเข้าไปดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามถึงระบบแจ้งเตือนภัย น.ส.ธีรรัตน์กล่าวว่า ยังคงใช้ระบบไฮบริด หรือรูปแบบผสม และจะมีการส่งระบบเอสเอ็มเอสแจ้งเตือนภัย ส่วน Cell Broadcast Service (หรือ CBS ระบบเตือนภัยฉุกเฉิน ซึ่งระบบแจ้งเตือนที่จะส่งข้อความเตือนภัยไปยังโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้บริการทุกเครื่อง ทุกเครือข่าย ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง) จะเร่งให้เสร็จภายเดือนมิถุนายนนี้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการทำเหมืองทองต้นแม่น้ำสาย รมช.มท.กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันในคณะกรรมการชุดกระทรวงการต่างประเทศโดยได้มีการชี้แจงว่าจะมีการป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายกับประชาชนซึ่งต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ส่วนเรื่องเงินช่วยเหลือเยียวยาต่างๆนั้น ได้จ่ายครบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือเพียงในเรื่องของดินโคลนตามบ้าน 1 หมื่นบาทซึ่งเป็นหน้าที่ของทางจังหวัดที่จะต้องดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีแม่น้ำกก ที่กำลังเกิดปัญหาขุ่นข้นเช่นเดียวกับแม่น้ำสายเนื่องจากมีเหมืองทองอยู่ที่ต้นน้ำในประเทศพม่าเช่นเดียวกัน น.ส.ธีรรัตน์กล่าวว่า ก็ต้องแก้ปัญหาควบคู่กันไป กำลังให้พื้นที่รายงานเข้ามา
“เราจะพยายามเร่งดำเนินการต่างๆให้เร็วที่สุด ดิฉันได้คุยกับทุกหน่วยงาน เขารับปากว่าการแก้ไขปัญหาต่างๆจะต้องเสร็จทันฤดูฝนที่จะถึงนี้ ตอนนี้ตามจุดเสี่ยงต่างๆตามแม่น้ำได้มีการติดตั้งโทรมาตรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้รับรู้รวดเร็วมากขึ้น เพราะเราจะมีศูนย์ข้อมูลและส่งข้อมูลให้ทันเหตุการณ์”น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นางสินีนาฏ ทองสุข นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นำคณะภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ลงเรือเพื่อสำรวจพื้นที่และตรวจสอบโครงการขุดลอกแม่น้ำกกเพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัย โดยมีนายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ร่วมทีมสำรวจ
นายชรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดเชียงรายได้มีการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ฤดูฝน และยังมีอีกหลายประเด็นที่ต้องร่วมมือกัน สำหรับซากต้นไม้ที่ยังอยู่ในกลางลำน้ำจะให้ทาง อบจ.เชียงรายสนับสนุนเครื่องจักรกลเข้ามาดำเนินการ สำหรับเรื่องการขุดลอกลำน้ำกกนั้น ขณะนี้ได้งบประมาณส่วนของทหารพัฒนากับกรมชลประทาน ซึ่งเพียงพอที่จะขุดลอกลำน้ำกกให้แล้วเสร็จก่อนที่ฤดูฝนจะมาถึงนี้
ผศ.ดร.นิอร สิริมงคลเลิศกุล อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงราย และ 1 ในผู้ประสบภัยอุทกภัยเมื่อเดือนกันยายน 2567 กล่าวว่า กรณีที่น้ำในแม่น้ำกกมีสีขุ่นข้นในตอนนี้ รวมไปถึงการเกิดอุทกภัยเมื่อปีที่แล้ว เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์จากคนต้นน้ำ โดยตนได้มีโอกาสคุยกับคนในรัฐฉานซึ่งเล่าว่าได้มีการทำเหมืองในบริเวณต้นน้ำกกและต้นน้ำสาย
ผศ.ดร.นิอรกล่าวว่า สำหรับแผนในการรับมือในช่วงฤดูฝนที่จะถึงนี้ ในส่วนของชุมชนและองค์กรปกครองท้องถิ่นในแม่สาย เราได้เห็นความพยายาม แต่ในส่วนของแม่น้ำกกที่ อ.เมือง จ.เชียงราย นั้น ยังไม่เห็นภาพชัดเจน โดยที่ผ่านมาเห็นแค่เรื่องการปรับปรุงริมตลิ่ง แต่ไม่ใช่แนวการแก้ไขสำคัญ โดยสิ่งที่ควรทำคือระบบการแจ้งเตือนชุมชน และต้องมีแผนรับมือระดับชุมชน เพราะหากฝนมาหนักเหมือนเดิม ปริมาณน้ำไหลรุนแรงเหมือนเดิม แต่ความสูญเสียอาจจะยิ่งกว่า
————–
