
นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีสารหนูและสารตะกั่วปนเปื้อนน้ำในแม่น้ำกก ซึ่งสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ(สคพ.)ที่1 จังหวัดเชียงใหม่ ประกาศให้แจ้งเตือนประชาชนไม่ให้ใช้น้ำอุปโภคบริโภค ว่าเนื่องจากการตรวจคุณภาพน้ำของแม่น้ำกกในจังหวัดเชียงรายยังไม่มีการแจ้งผลมา ตอนนี้กำลังรอผลอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตามหากพบว่ามีโลหะหนัก สารปนเปื้อนทางจังหวัดจึงจะมีการแจ้งเตือนพื้นที่ และทางจังหวัดก็ต้องทำบันทึกถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามสายงาน และให้วิเคราะห์ถึงที่มาและผลกระทบ
“หากแหล่งที่มาของสารปนเปื้อนมาจากต่างประเทศ ก็ต้องรายงานถึงกรมสนธิสัญญาระหว่างประเทศ กระทรวงต่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการระหว่างประเทศ โดยปกติทางจังหวัดเชียงรายจะมีการเก็บตัวอย่างน้ำตรวจทุก 3 เดือน 3 สถานีใน อ.เมือง และ 1 สถานี อ.เชียงแสน”รอง ผวจ.เชียงราย กล่าว

นายทวีศักดิ์ สุขก้อน ผู้จัดการประปาส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) สาขาเชียงราย กล่าวว่า หลังจากที่มีข่าวการทำเหมืองทองต้นน้ำกก ได้มีการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาง กปภ.เชียงราย ได้ขอให้มีการเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อตรวจโลหะหนักทุกเดือน จากที่จะมีการตรวจปกติปีละ 2 ครั้ง ส่วนการตรวจคุณภาพน้ำเบื้องต้นทางการประปามีการตรวจเป็นประจำ สำหรับการบริการน้ำประปาของ กปภ.เชียงราย ที่สูบน้ำจากแม่น้ำกก ครอบคลุมพื้นที่ในเขตอำเภอเมือง และเวียงชัยบางส่วน ส่วน อ.เชียงแสน จะใช้น้ำจากแม่น้ำโขง
“เรามีการจัดการคุณภาพน้ำก่อนส่งไปยังผู้ใช้น้ำการประปา จะมีการกรอง และกำจัดโลหะหนักสารปนเปื้อน โดยสารหนูก็จะมีสารที่กำจัดออกจากน้ำประปาเหมือนสารชนิดอื่น ๆ สำหรับน้ำที่ในชุมชนส่วนท้องถิ่น ทางการประปาก็จะไปให้ความรู้ในเรื่องคุณภาพการกรอง แต่อย่างไรก็ตามหน่วยงานท้องถิ่นยังไม่มีขั้นตอนการกำจัดโลหะหนัก จากการสอบถามถึงมาตรการดูแลโลหะหนักสารปนเปื้อนที่สะสมในสัตว์น้ำในแม่น้ำนั้น”นายทวีศักดิ์ กล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดเชียงรายรายหนึ่ง กล่าวว่า เท่าที่ผ่านมาการปฎิบัติงานยังไม่มีการรับการแจ้งและตรวจวิเคราะห์โลหะหนักในสัตว์น้ำ ส่วนใหญ่ประมงจะเพาะเลี้ยงโดยมาจะเป็นการตรวจยาปฏิชีวนะที่ขายในฟาร์ม และการตรวจแหล่งน้ำของชาวบ้าน ยังไม่มีการตรวจสัตว์น้ำจากแม่น้ำ
ขณะที่เพจเฟสบุคของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้เผยแพร่สัมภาษณ์ของ ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) โดยระบุว่า ตามที่มีรายงานการตรวจพบคุณภาพน้ำในแม่น้ำกก อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย มีปริมาณสารพิษในน้ำที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนนั้น สทนช. ได้เร่งดำเนินการตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานภายในประเทศ รวมทั้งได้ประสานงานกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ผ่านกรอบความร่วมมือแม่น้ำโขง – ล้านช้าง (LMC) เพื่อสอบถามและติดตามสถานการณ์ รวมถึงผลการดำเนินการของฝ่ายสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ในการหามาตรการรับมือที่เหมาะสมต่อสถานการณ์ดังกล่าว
นอกจากนี้ สทนช. ยังได้ประสานกับสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission Secretariat: MRCS) เพื่อขอความร่วมมือในการสื่อสารกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ในฐานะประเทศคู่เจรจา โดยขอให้สนับสนุนการตรวจสอบสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงหาสาเหตุและแนวทางการดำเนินการภายในประเทศ ที่อาจช่วยลดผลกระทบข้ามพรมแดน โดยเฉพาะในประเด็นคุณภาพน้ำและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง

ขณะที่น.ส.จุฑามาศ ราชประสิทธิ เจ้าหน้าที่อาวุโสมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา(พชภ.) จ.เชียงราย เปิดเผยว่าเครือข่ายข้อมูลอุทกภัยแม่น้ำกก โดย 4 องค์กรภาคประชาสังคม คือ พชภ. มูลนิธิศึกษาพัฒนาประชาชนบนที่สูง กลุ่มฅฅนเพื่อการเปลี่ยนแปลง และมูลนิธิร่มโพธิ์ ได้ติดตั้งระบบการเตือนภัยน้ำท่วม แม่น้ำกก เชียงราย โดยฤดูฝนเดือนกันยายน 2567 เกิดภัยพิบัติน้ำท่วมใหญ่ในอำเภอเมืองจังหวัดเชียงราย สาเหตุเกิดจากการที่ปีนี้มีฝนตกสะสมเป็นเวลานาน ทำให้ปริมาณน้ำของแม่น้ำกกสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและไหลผ่านเขตชายแดนเข้ามายังจังหวัดเชียงราย มีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยเฉพาะชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำกก อาจกล่าวได้ว่าระบบการเตือนภัยน้ำท่วม(แม่น้ำกก) ในปี 2567 ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ และประชาชนขาดความเชื่อมั่น และขาดความรู้ในข้อมูล
น.ส.จุฑามาศกล่าวว่า เครือข่ายภาคประชาชนได้รวมตัวกันเพื่อดำเนินการสร้างเครือข่ายในการเตือนภัยน้ำกกหลากท่วมในปี 2568 โดยมีการประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐคือสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 1 ส่วนอุทกวิทยาที่ 2 เชียงราย และสำนักงานเทศบาลตำบลแม่ยาว สำนักงานเทศบาลตำบลดอยฮาง สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยชมพู จังหวัดเชียงราย และสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตอนจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับชุมชน 7 แห่งริมแม่น้ำกกคือบ้านแก่งทรายมูลหมู่ที่ 14 บ้านใหม่หมอกจ๋ามหมู่ที่ 8 บ้านผาใต้หมู่ที่ 12 ตำบลท่าตอนอำเภอแม่อายจังหวัดเชียงใหม่ บ้านจะคือ หมู่ที่ 9 ตำบลห้วยชมพู โรงเรียนบ้านผาขวาง หมู่ที่ 13 บ้านแคววัวดำหมู่ที่ 12ตำบลแม่ยาว บ้านโป่งนาคำ หมู่ที่ 4 ตำบลดอยฮาง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย