Search

ผวาสารโลหะหนักปนเปื้อน ผวจ.เชียงรายสั่งห้ามสัมผัสน้ำกก หลังตรวจพบสารหนูเกินค่ามาตรฐานช่วงไหลผ่านอำเภอเมือง เผยน้ำอยู่ในเกณฑ์ นักวิจัยจี้ตรวจห่วงโซ่อาหาร-หาปรอทในปลา-ประเมินความเสี่ยงตลอดลำน้ำ

เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2568 เพจสำนักประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย รายงานว่า เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมพญาพิภักดิ์ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมฯ เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำกก โดยนายอาวีระ ภัคมาตร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) ได้รายงานผลจากการลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บตัวอย่างน้ำ เพื่อตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำผิวดิน การตรวจวัดโลหะหนัก พร้อมด้วยไซยาไนด์ และหาความปนเปื้อนของสารมลพิษในแหล่งน้ำของแม่น้ำกก

นายอาวีระกล่าวว่า ผลการตรวจพบว่า แม่น้ำกกอยู่ในเกณฑ์ “พอใช้ ถึง เสื่อมโทรม” โดยค่าความสกปรกในรูปสารอินทรีย์เกินมาตรฐาน บริเวณบ้านโป่งนาคำ ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย แสดงถึงแหล่งน้ำมีความสกปรกในรูปสารอินทรีย์สูง การปล่อยน้ำเสียจากแหล่งชุมชนจากกิจกรรมต่าง ๆ โดยไม่ได้ผ่านการบำบัดลงสู่แหล่งน้ำ แบคทีเรียเกินทั้ง 3 จุด และสารหนูเกินมาตรฐาน ได้แก่ บ้านโป่งนาคำ มีค่าเท่ากับ 0.013 สะพานข้ามแม่น้ำกก ต.ดอยฮาง 0.012 และสะพานแม่ฟ้าหลวง บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงราย 0.011 mg/L บ่งบอกถึงความไม่สะอาดและไม่ปลอดในการบริโภคโดยไม่ผ่านการฆ่าเชื้อก่อน

นายอาวีระฯ ยังกล่าวอีกว่า คุณภาพน้ำกกในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เกินมาตรฐานเล็กน้อย ในมุมของนักสิ่งแวดล้อมมองว่ายังเป็นปัญหาที่ไม่มาก ส่วนการเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบควรดำเนินการเดือนละ 1-2 ครั้งเพื่อคลายความกังวลใจให้กับประชาชน

ด้านนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ขอให้สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 เพิ่มความถี่ในการลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบ พร้อมทั้งขอให้ดำเนินการตลอดลำน้ำตั้งแต่รอยต่อจังหวัดเชียงราย ผ่านอำเภอเมืองเชียงราย อำเภอเวียงชัย อำเภอเวียงเชียงรุ้ง อำเภอดอยหลวง อำเภอแม่จัน ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง ที่อำเภอเชียงแสน

“นายชรินทร์ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำรวจการใช้น้ำกกตลอดลำน้ำในกิจกรรมใดบ้าง เช่น ประปา เกษตร อุตสาหกรรม หรือให้ลงเล่นน้ำเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ภายในวันที่ 9 เมษายนนี้ จังหวัดเชียงรายจะมีข้อมูลเหล่านี้อย่างละเอียด เพื่อใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนใน”เพจสำนักประชาสัมพันธ์เชียงรายระบุ

ขณะที่เพจ สวท.เชียงราย กรมประชาสัมพันธ์ รายงานด้วยว่า ด้าน น.ส.ปณิชา ปลอดภัย หัวหน้าส่วนควบคุมคุณภาพน้ำ 2 การประปาส่วนภูมิภาคเขต 9 กล่าวว่า ปกติการประปาส่วนภูมิภาคจะมีการตรวจน้ำ 3 ระดับ (วัน เดือน ปี) และจากเหตุน้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา คุณภาพน้ำในแม่น้ำกกได้เปลี่ยนไป ทางการประปาส่วนภูมิภาคจึงมีมาตรการรองรับ คือ เมื่อสูบน้ำเข้าสู่ระบบผลิต จะมีการใช้สารเคมีให้โลหะหนักตกตะกอน ตรวจเช็คค่าน้ำ ก่อนส่งจ่ายให้ประชาชน รวมทั้งทำความสะอาดถังน้ำใส และระบายตะกอนสม่ำเสมอ ปัจจุบันน้ำประปาจากการประปาส่วนภูมิภาคยังสามารถใช้ได้ตามปกติ

เพจ สวท.เชียงราย กรมประชาสัมพันธ์รายงานด้วยว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ขอความร่วมมือประชาชน งดการสัมผัสน้ำในแม่น้ำกกโดยตรง และจะประกาศงดทำกิจกรรมบริเวณริมแม่น้ำกกทั้งหมด เพื่อให้ประชาชนเกิดความปลอดภัย ขณะเดียวกันจะมีการสำรวจกิจกรรมที่ใช้แม่น้ำกก อาทิ การทำน้ำประปาหมู่บ้าน การทำการเกษตร กิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งจะมีทีมสำรวจหาสาเหตุ ที่ส่งผลให้มีสารหนูเกินค่ามาตรฐานในแม่น้ำกก ตลอดแนวลำน้ำกกในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงราย ไม่ว่าจะเป็น การใช้ยาฆ่าแมลงในภาคการเกษตร จากโรงงานอุตสาหกรรม หรือจากคุณลักษณะทางธรณีต่าง ๆ ทั้งนี้ เพื่อหาสาเหตุและแนวทางแก้ไขในระยะต่อไป

ด้าน น.ส.สมพร เพ็งค่ำ นักวิจัยและผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาระบบประเมินผลกระทบทางสุขภาพโดยชุมชน (Community Health Impact Assessment Platform หรือ CHIA Platform) กล่าวว่าการที่หน่วยงานออกมายอมรับผลการปนเปื้อนและประกาศเตือนเรื่องน้ำและผลกระทบต่อสุขภาพเป็นเรื่องที่ดี ขั้นต่อไปควรตรวจการปนเปื้อนในห่วงโซ่อาหาร เช่น สัตว์น้ำ โดยเฉพาะหอย ซึ่งเป็นสัตว์หน้าดิน รวมทั้งตรวจพืช ผัก ริมตลิ่ง หรือพื้นที่ที่มีการสูบน้ำจากแม่น้ำกกไปใช้ในการเกษตร ว่าปนเปื้อนสารหนูหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน ที่สำคัญต้องตรวจปรอทในปลา เพราะมีผลต่อหญิงตั้งครรภ์ ทารกในครรภ์ และเด็กเล็ก จำเป็นต้องรู้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อสื่อสารให้ประชาชนรู้ว่าในช่วงที่ยังจัดการแหล่งกำเนิดมลพิษไม่ได้ ประชาชนจะหลีกเลี่ยงการรับมลพิษเข้าสู่ร่างกายได้อย่างไร

น.ส.สมพรกล่าวว่า ประเด็นต่อมาต้องมีการประเมินความเสี่ยงตลอดลำน้ำ โดยดูระบบนิเวศของลำน้ำว่าตะกอนจากต้นน้ำจะถูกพัดไปสะสมตรงจุดไหนบ้าง และชาวบ้านใช้ประโยชน์จากทรัพยากรบริเวณนั้นอย่างไร จะได้เห็นจุดเสี่ยงและกลุ่มเสี่ยงที่ชัดขึ้น เพื่อใช้กำหนดมาตรการที่มีความจำเพาะเจาะจงมากขึ้น ประการสุดท้ายต้องหาวิธีในการควบคุมแหล่งกำเนิดและฟื้นฟูลำน้ำโดยต้องเอาตะกอนที่ปนเปื้อนออกไปกำจัดอย่างถูกวิธี“ถ้าตรวจพบปรอทในปลา หญิงตั้งครรภ์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงทุกคนควรได้รับการตรวจประเมินโดยเก็บเส้นผมมาตรวจดูการสะสมของปรอทในร่างกาย ถ้าเจอ เมื่อทารกคลอดออกมาควรเก็บเลือดจากสายสะดือไปตรวจ ถ้าเจอทารกควรได้รับการดูแลจากแพทย์เฉพาะทางเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาพัฒนาการทางสมอง ทั้งนี้เป็นไปตามข้อเสนอขององค์กรอนามัยโลก WHO”น.ส.สมพร กล่าว

“ถ้าตรวจพบปรอทในปลา หญิงตั้งครรภ์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงทุกคนควรได้รับการตรวจประเมินโดยเก็บเส้นผมมาตรวจดูการสะสมของปรอทในร่างกาย ถ้าเจอ เมื่อทารกคลอดออกมาควรเก็บเลือดจากสายสะดือไปตรวจ ถ้าเจอทารกควรได้รับการดูแลจากแพทย์เฉพาะทางเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาพัฒนาการทางสมอง ทั้งนี้เป็นไปตามข้อเสนอขององค์กรอนามัยโลก WHO”น.ส.สมพร กล่าว