Search

กองทัพพม่าละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โจมตีทางอากาศในรัฐคะฉิ่นต่อเนื่อง

โดย Oh Ra Ra 

หลังเหตุการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหว กองทัพเมียนมาและกองกำลังเอกราชคะฉิ่น  (Kachin Independence Army: KIA) ได้ประกาศหยุดยิงชั่วคราว โดยระบุว่าจะยุติการสู้รบเป็นเวลา 20 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 22 เมษายน 2568 อย่างไรก็ตาม กองทัพพม่ากลับละเมิดข้อตกลงภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังการประกาศ ด้วยการเปิดฉากโจมตีด้วยระเบิดทางอากาศในรัฐคะฉิ่น

รายงานจากพื้นที่ระบุว่า กองทัพพม่าได้ทิ้งระเบิดจากอากาศยานต่อเนื่องในเขตเมืองบ่าหม่อ แม้ว่ารัฐคะฉิ่นจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากแผ่นดินไหว แต่กลับต้องเผชิญกับการโจมตีทางทหารแทบทุกวัน

ขณะที่ พล.อ. มินอ่องหล่าย ผู้นำคณะรัฐประหาร ออกมาเรียกร้องความช่วยเหลือจากนานาชาติเพื่อบรรเทาภัยแผ่นดินไหว แต่ในทางกลับกันกลับทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลในการโจมตีคนในประเทศของตนเองด้วยอาวุธขั้นสูง

เมื่อวันที่ 2 เมษายน กองทัพพม่าได้ใช้เครื่องบินโจมตีทางอากาศ บุกโจมตีหมู่บ้านในรัฐคะฉิ่น พร้อมปฏิบัติการภาคพื้นดินด้วยการยิงปืนใหญ่และใช้โดรนติดอาวุธสนับสนุน ทำให้การสู้รบรุนแรงขึ้น โดยข้อมูลจากแนวหน้าในวันที่ 7 เมษายน ระบุว่า สถานการณ์การสู้รบเริ่มสงบลง

นับตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กองทัพเมียนมาได้ส่งเสริมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้าสู่พื้นที่นี้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการสู้รบบ่อยครั้ง โดยพื้นที่เส้นทางสู่เขตปังวา แหล่งแร่หายากมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ รวมถึงเขตแดนที่มีจุดผ่านแดนกับจีน

ด้านเมืองบ่าหม่อ ซึ่งถือเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของรัฐคะฉิ่น ก็ถูกโจมตีจากอากาศยานเช่นกัน โดยเมื่อวันที่ 3 เมษายน เพียงวันเดียว มีการทิ้งระเบิดมากกว่า 30 ครั้งจากกองทัพเมียนมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีเพียงการยิงปืนใหญ่โต้ตอบกันเท่านั้น แต่หลังแผ่นดินไหว กองทัพกลับใช้การโจมตีทางอากาศอย่างเต็มรูปแบบ

การสู้รบเพื่อยึดเมืองบามอเริ่มต้นขึ้นมาแล้วกว่า 4 เดือน โดยกองกำลัง KIA และพันธมิตรสามารถยึดสนามบินบ่าหม่อ และฐานทัพหลายแห่งได้สำเร็จ ถือเป็นหนึ่งในการรบที่มีการสูญเสียมากที่สุดของทั้งสองฝ่าย

เมืองบ่าหม่อเป็นศูนย์บัญชาการหลักของกองทัพเมียนมาในพื้นที่ โดยมีกองทัพประจำการกว่า 20 แห่ง และใช้การโจมตีทางอากาศ ปืนใหญ่ และโดรนยุคใหม่ในการต่อต้านการรุกคืบของฝ่ายตรงข้าม

ในขณะเดียวกัน กองทัพเมียนมายังได้ทิ้งระเบิดโจมตีหมู่บ้านอีกหลายแห่งที่ลาวาและชะดู่ซุป ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังประกาศหยุดยิง ทำให้เกิดความเสียหายภายในหมู่บ้านและชาวบ้านจำนวนมากต้องอพยพหนีออกจากพื้นที่

นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถนนทาไน–ลีโต ได้กลายเป็นสมรภูมิรบระหว่างกองทัพเมียนมา กองกำลังประชาชน และ KIA ที่มีการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่โฆษกกองทัพเมียนมา พลโท ซอ มิน ตุน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า กลุ่มชาติพันธุ์เป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน ทำให้กองทัพจำเป็นต้องตอบโต้ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองและการทหารมองว่า การละเมิดข้อตกลงหยุดยิงเป็นพฤติกรรมที่กองทัพเมียนมากระทำมาโดยตลอดตลอดระยะเวลากว่า 70 ปีของสงครามกลางเมือง

ผู้เชี่ยวชาญยังตั้งข้อสังเกตว่า การประกาศหยุดยิงครั้งนี้อาจเป็นเพียงความพยายามของกองทัพในการลดแรงกดดันจากจีนและนานาชาติ หลังเหตุการณ์ที่รถบรรทุกช่วยเหลือจากจีนถูกโจมตีในเมืองนองโชทางภาคเหนือของรัฐฉาน

———

On Key

Related Posts