Search

KNUชี้การเชิญ “มินอ่องหลาย”มาหารือในไทยไม่ใช่ทางออกแก้ปัญหาการสู้รบในพม่า แถมช่วยฟอกขาวอาชญากรสงคราม “ฟูอาดี้”จี้รัฐให้น้ำหนักกับกองกำลังชนกลุ่มน้อยด้วย-จัดเวทีคู่ขนาน แนะ กต.ให้ความสำคัญนโยบายชายแดน

เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2568 นายพะโด่ซอตอนี โฆษกสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union-KNU) ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวชายขอบ”ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน และนายทักษิณ ชินวัตร บิดานายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน เชิญ พล.อ.มิน อ่อง หลาย ผู้นำรัฐบาลทหารพม่า มาร่วมหารือเกี่ยวกับสันติภาพในพม่าในวันที่ 17 เมษายน 2568 ว่า การเชิญมินอ่องหลาย มาประชุมในครั้งนี้ กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆมีความเป็นห่วงมาก เพราะ พล.อ.มินอ่องหลายคืออาชญากรสงคราม ที่สร้างความเสียหายแก่ประเทศพม่าอย่างสาหัส การเชิญเขามาประชุมเหมือนเป็นการทำให้เขาได้รับการยอมรับอย่างถูกต้อง

“เป็นการรับรองเขาแบบนี้ เรารู้สึกเป็นห่วงมาก อยากให้ไทยทราบว่าการทำแบบนี้ไม่ใช่ทางแก้ปัญหาของประเทศพม่า เพราะคนๆ นี้ทำลายประเทศ เข่นฆ่าประชาชน แม้เขาประกาศว่าหยุดยิงแต่ก็ยังส่งเครื่องบินมาถล่มประชาชนอยู่ตลอด ทิ้งระเบิดไม่สนว่าเป็นโบสถ์ วัด พระเณรตายกันมากมาย”นายพะโด่ซอตอนี กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การหารือครั้งนี้อาจนำไปสู่การสร้างความชอบธรรมในการจัดการเลือกตั้งของพม่าหรือไม่ โฆษก KNU กล่าวว่า แค่จะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกรณีแผ่นดินไหวเข้าไปในพม่า ตอนนี้กลับจะเป็นว่าฟอกขาวเข้าไปอีก เป็นการบังคับให้กลุ่มต่อต้านเข้าร่วม เมื่อเราไม่ร่วมก็หาว่าเราไม่เป็นประชาธิปไตย

เมื่อถามว่าทางการไทยได้ประสานงานไปยัง KNU หรือไม่ โฆษก KNU กล่าวว่า ไม่มี มีแค่การประสานกับพม่า แต่ไม่มีประสานมาที่เราในขณะนี้

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า รัฐบาลไทยควรเริ่มกระบวนการเจรจาสันติภาพในพม่าได้อย่างไร นายพะโด่ซอตอนีกล่าวว่า ว่า SAC (The State Administration Council หรือสภาบริหารแห่งรัฐ-พม่า) ต้องยุติความรุนแรงทั้งหมดก่อนซึ่งก่อนหน้านั้นในที่ประชุมอาเซียนก็มีข้อเสนอ แต่ SACก็ยังรบกับประชาชนไม่ได้หยุดเลย เขาเข่นฆ่าประชาชนมาตลอด

“การประชุมกับมินอ่องหลายแบบนี้ไม่มีประโยชน์กับประชาชนพม่า การประชุมพรุ่งนี้ที่กทม. ชนกลุ่มน้อยเราห่วงมาก หากไม่ไปถูกทางตั้งแต่ต้น ผลเสียจะเกิดขึ้นมากมายต่อพม่า หากไม่มีส่วนร่วมของประชาชนของพม่า สันติภาพไม่มีทางเกิดได้”โฆษก KNU กล่าว

นายฟูอาดี้ พิศสุวรรณ นักวิชาการจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า หาการประชุมนี้เกิดขึ้นจริงก็ต้องระวังเป็นอย่างมากเพราะจะเป็นการให้ความชอบธรรมแก่ พล.อ.มินอ่องหลายในระดับที่สูงมากๆ ก่อนนี้นายอันวาร์ได้ขอให้นายทักษิณช่วยคิดเรื่องพม่า ตนเองคิดว่านายทักษิณจะเจอกับมินอ่องหลายในนามตัวแทนของประธานอาเซียน ซึ่งนายอันวาร์เคยกล่าวว่า ASEAN should ‘carve Myanmar out’ ซึ่งหากเขา (นายอันวาร์) จะมาเจอกับ พล.อ.มินอ่องหลายจริง ก็มีนัยยะทางการเมืองพอสมควร มีความสำคัญที่ต้องสื่อสารแน่นอน แต่ความเสี่ยงคือ จะเป็นการให้ความชอบธรรมแก่ พล.อ.มินอ่องหลาย มากเกินไปหรือไม่ เป็นคำถามที่ค่อนข้างสำคัญ

นายฟูอาดี้กล่าวว่า สิ่งที่เหล่าประเทศอาเซียนทำได้คืออย่างน้อยช่วยสร้างความชอบธรรมของชนกลุ่มน้อย ซึ่งอาจไม่ใช่ฝ่ายตรงข้ามกับSAC เหมือนอย่างรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (National Union Government-NUG) แต่เป็นกองกำลังชนกลุ่มน้อย (Ethnic Armed Organizations-EAOs) ที่อยู่ชายแดนไทยพม่า ซึ่งเป็นกลุ่มสำคัญที่เราต้องคุยด้วย ชนกลุ่มน้อย เช่น KNU พรรคก้าวหน้าแห่งชาติคะเรนนี (Karenni National Progressive Party-KNPP) ควรต้องได้รับความชอบธรรมมากกว่านี้จากทางการไทย ที่ผ่านมาแม้มีการคุยลับๆ กันมาแล้วบ้าง แต่ควรคุยต่ออย่างเป็นทางการมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่ไทยเป็นตัวกลางในการแก้ปัญหาในพม่ามีความจำเป็นแค่ไหน อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มธ.กล่าวว่า ไทยมีสถานะต่างจากประเทศอื่น เพราะมีพรมแดนติดกับพม่ายาวกว่า 2,000 กิโลเมตร เรื่องของพม่ามีผลกระทบต่อไทยเป็นที่แรก ไทยมีความสำพันธ์ที่ดีต่อหลายฝ่าย เราเอาอาเซียนมาหารือนั้นตนเห็นด้วย การหารือควรคำนึงถึงเนื้อหา topics ดูว่าตรงไหนเปิด ตรงไหนปิด หรือจัดการด้วยวิธีใด

เมื่อถามว่า ควรจัดสมดุลอย่างไรระหว่างกลุ่มต่อต้านกับรัฐบาลทหารพม่า นายฟูอาดี้กล่าวว่า การให้คุณค่าต่อชนกลุ่มน้อย เราควรมีเวทีซึ่งอาจจัดแยกออกไปเลย มีข้อเสนอว่าชนกลุ่มน้อยจะจัดประชุมเป็นเวทีคู่ขนานในลักษณะที่เป็นทางการมากขึ้น ตอนนี้ชนกลุ่มน้อยไม่รู้สึกว่ารัฐไทยฟังเขาขนาดนั้น กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) อาจถึงเวลาที่ต้องคำนึงถึงความสำคัญของ EROs ซึ่งคำนี้เป็นคำที่ใช้อย่างตั้งใจ คือไม่ใช่กลุ่มตรงข้ามกองทัพพม่าโดยตรง แต่เป็นกลุ่มตรงกลาง ควรทำให้เขาได้รู้สึกว่าถูกรับฟังเหมือนกัน ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ได้ทำ มีความสัมพันธ์ส่งต่อมาถึงตอนนี้ เป็น legacy ซึ่งจะเป็นวิถีทางที่ดี ชนกลุ่มน้อยเป็นทางเข้าที่ดีของไทย

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ผ่านมา กต.มีความรู้เรื่องชนกลุ่มน้อยจำกัด ควรปรับทิศทางอย่างไร นายฟูอาดี้กล่าวว่าใช่ องค์ความรู้อยู่ที่ฝ่ายทหารเป็นส่วนใหญ่ คนทำงานด้านพม่าสัมผัสได้ว่ากองทัพไทยยัง progressive(ก้าวหน้า) กว่า คือมีการทำงานกับชนกลุ่มน้อย กต.ควรให้ความสำคัญ เราควรมีผู้ช่วยรัฐมนตรีที่ดูแลชนกลุ่มน้อยโดยเฉพาะ อาจมีสำนักงาน( office) ของ กต.ที่มี straff หรือตั้งเป็นผู้แทนพิเศษ special envoy มาทำเรื่องนี้แล้วรายงานตรงต่อนายกรัฐมนตรี โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่แม่สอด แม่ฮ่องสอน ฯลฯ เป็นฝ่ายพลเรือนที่ประสานงานกับกต. และฝ่ายทหารได้

“รมว.กต. ก็มีงานอื่นๆ ที่ต้องทำ แต่ผู้แทนพิเศษมีหน้าที่ประสานกับทุกกระทรวง ทำงานพม่าโดยตรง และรายงานต่อนายกรัฐมนตรี เป็นความสำคัญและมีอำนาจกว่าปัจจุบัน เป็นขาของพลเรือนที่ทำงานกับชนกลุ่มน้อยอย่างเป็นทางการมากขึ้น และอีกวิธี คือใช้หน่วยงานท้องถิ่น ฝ่ายปกครองของเราและฝั่งโน้น หากทำงานร่วมกันมากขึ้น แต่นายกรัฐมนตรีต้องมีเจตจำนงทางการเมืองว่าจะนำพาประเทศไทยไปทางนั้น”นายฟูอาดี้ กล่าว

On Key

Related Posts

ช้างยังป่วยหลังลงเล่นน้ำกก-แพ้เป็นผื่นมีตุ่มกลายเป็นแผล ผจก.ปางช้างกะเหรี่ยงรวมมิตรเผยนักท่องเที่ยวหาย 80% ศิลปินแต่งเพลงรณรงค์หยุดสารพิษ พบรายวันปลาแข้เป็นโรค-เร่งส่งตรวจ

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 ที่ปางช้างกะเหรี่ยงรวมRead More →

ภาพถ่ายทางอากาศ“จิสดา”พบเปิดหน้าดินขนาดใหญ่กว่า 40 จุดที่ต้นแม่น้ำกก-น้ำสายใช้เวลาแค่ 2 ปีรุกป่าเหี้ยน ประธาน กมธ.ที่ดินจี้ใช้กลไกทางทหารเร่งหารือ-กต.ทำหนังสือประท้วงพม่าแล้ว

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 ดร.พูนศักดิ์ จันทร์จำปRead More →

พบปลาป่วยในแม่น้ำโขงอีกเป็นตุ่มแดงตามครีบ-ปาก “ครูตี๋”เชื่อติดเชื้อจากลำน้ำสาขา กก-สาย-รวก ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ชาวประมงเผยไม่เคยเห็นอาการนี้มาก่อน ผู้เชี่ยวชาญแนะหาสาเหตุทำให้ปลาอ่อนแอ

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 นายปุ๊ คนจับปลาท่าหาดไRead More →

SHRF แฉพบเหมืองแร่หายากต้นแม่น้ำกก -เปิดหน้าดินวงกว้าง-เผยใช้สารเคมีรุนแรงเทละลายหินบนภูเขา เชื่อเป็นสาเหตุสารพิษในแม่น้ำกก-แม่น้ำสาย นอกจากเหมืองทอง

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 มูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใRead More →