Search

“โรม”แนะรัฐใช้มาตรการเข้มกับ “ว้า”หลังพบเป็นต้นเหตุสารพันปัญหาทั้งยาเสพติด-ทำเหมืองทองต้นแม่น้ำ-รุกล้ำชายแดน กมธ.ความมั่นคงเตรียมลงพื้นที่เชียงรายสอบข้อเท็จจริงสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก-สาย เตือนระวังชาวบ้านถาม “มีรัฐบาลไว้ทำไม”

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฏร เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 7-8 พฤษภาคม 2568 กมธ.ความมั่นคงฯจะลงพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมข้อมูลส่งเป็นข้อคิดเห็นไปยังรัฐบาลจากการที่ชาวบ้านกำลังเดือดร้อนเนื่องจากมีการตรวจพบสารโลหะหนักคือสารหนูปนเปื้อนแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย

นายรังสิมันต์กล่าวว่า การที่แม่น้ำกกและแม่น้ำสายปนเปื้อนสารโลหะหนักเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญ เป็นข้อมูลยืนยันว่ากรณีว้า ซึ่งรัฐบาลไทยต้องเข้าไปดำเนินการได้แล้ว แต่รูปแบบไหนค่อยว่ากันเพียงแต่ต้องส่งสัญญาณเอาจริงเอาจังซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น เพราะตอนนี้ยังไม่เห็นสัญญาณจริงใจว่ารัฐบาลจะแก้ไขปัญหาที่ว้ารุกล้ำพรมแดน แถม ซ้ำร้ายไม่ใช่แค่เรื่องล้ำพรมแดน แต่ยังมีปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อประชาชนไทยด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นสัญญาณว่ารัฐบาลจะแก้ไขปัญหาหรือเอาจริงเอาจัง

“เรา เข้าใจดีว่าหลายส่วนเกี่ยวพันกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่ไม่ใช่ว่าเราอยู่เฉยๆ และส่งผลกระทบต่อประชาชนไปเรื่อยๆ เราลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อรวบรวมข้อมูลและไปดูให้เห็นกับตา ว่าผลกระทบเรื่องแม่น้ำกกเป็นอย่างไร ขณะเดียวกัน สส.จุฬาลักษณ์ ขันสุธรรม ซึ่งอยู่แม่สาย จะไปด้วยกัน หลังจากนี้จะมีการพูดคุยว่าต้องดำเนินการอย่างไร อาจต้องเชิญตัวแทนรัฐบาลมาหารือถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหานี้ด้วย” นายรังสิมันต์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจากการที่สารหนูปนเปื้อนมาจากการทำเหมืองทองคำบริเวณต้นแม่น้ำกกและแม่น้ำสายในเขตรัฐฉาน ควรดำเนินการแก้ไขเร่งด่วนอย่างไร ประธาน กมธ.ความมั่นคงฯ กล่าวว่าคงต้องทำหลายอย่าง เรามีองคาพยพของฝ่ายบริหารประเทศที่ต้องพูดคุยกับทางว้าอยู่อย่างจริงจัง และต้องสื่อให้เห็นถึงความแข็งกร้าวที่ไม่ยินยอมให้มีสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก

“ไม่ว่าชาติใดก็ตาม ถ้ามีการกระทำล้ำพรมแดน ขั้นต่ำสุดก็คือการประท้วง แต่ครั้งนี้เกิดผลกระทบข้ามพรมแดนขนาดนี้ เราควรมีมาตรการทางการทูตส่งสัญญาณชัดเจนว่าเราไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และต้องพิจารณาด้วยว่ามีเรื่องใดสำหรับไทยที่สร้างแรงกดดันกับว้าได้หรือไม่ และกลไกระหว่างประเทศต้องดูว่าเขาฟังใครบ้าง เพื่อหารือแก้ปัญหานี้ ผมคิดว่าถ้าเราทำทั้ง 3 ส่วนไปพร้อมๆ กัน ก็จะทำให้เห็นว่า หากว้ายังทำแบบเดิมอีก ทางการไทยไม่พอใจแน่ ทำให้เห็นว่าที่คุณทำนั้นมีต้นทุน เขาต้องทบทวนว่าคุ้มค่าหรือไม่ จริงๆไม่ใช่แค่เรื่องเหมืองที่เราได้รับผลกระทบ ยังมีเรื่องฝุ่น PM2.5 ยังมีเรื่องปัญหายาเสพติด ซึ่งเราสามารถใช้กลไกเหล่านี้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาได้”นายรังสิมันต์ กล่าว

ประธาน กมธ.ความมั่นคงฯกล่าวว่า เข้าใจดีว่าประเทศไทยพยายามมองทุกฝ่ายอย่างเป็นมิตร แต่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นสวนทางกับหลักการการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี ปัญหาที่เกิดขึ้นเราต่างทราบดีว่าใครเป็นแหล่งผลิตยาเสพติด ปัญหาเรื่องสารหนูในแม่น้ำกก และอีกสารพัดปัญหา ถ้าเรามัวแต่คิดว่าเป็นเรื่องของประเทศอื่นก็จะแก้ปัญหาไม่ได้เลย ปัญหาเหล่านี้ควรเอาจริงได้แล้ว ถ้ามัวแต่มองเขาในแง่ดี จนลืมนึกถึงข้อเท็จจริง ก็จะแก้อะไรไม่ได้

“แน่นอนว่าเราต้องมีดอกกุหลาบ คือการพูดดคุยที่ดีเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งให้มากที่สุด แต่ถ้าการคุยดีๆแล้วไม่ได้ผล รัฐบาลก็ควรหยิบยกในเรื่องมาตรการที่เข้มข้นขึ้นในการแก้ไขปัญหา เราไม่ควรทำให้ประชาชนไทยต้องทนกับสภาพแวดล้อม หรือมีสภาพความเป็นอยู่เดือดร้อนอันเกิดจากกลุ่มกองกำลังของรัฐอื่น ถึงที่สุดแล้วเรามีรัฐบาลไทยเพื่อปกป้องชาวไทย ไม่ใช่มาบอกว่าต้องอยู่กันแบบนี้ต่อไปเพราะเป็นเรื่องของต่างชาติ หรือเป็นเรื่องที่แก้ไม่ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นคนไทยก็จะรู้สึกว่า เรามีรัฐบาลไว้ทำไม” นายรังสิมันต์ กล่าว

ประธาน กมธ.ความมั่นคงฯกล่าวว่า จริงๆ แล้วรัฐบาลไทยควรพูดกับประเทศเพื่อนบ้านหรือกลุ่มกองกำลังที่ทำให้ประชาชนไทยเดือดร้อนอย่างตรงไปตรงมา เพราะสถานการณ์ขณะนี้เป็นความเดือดร้อนของคนในประเทศที่รัฐบาลไทยมีหน้าที่ต้องรับฟังและนำไปสู่การแก้ไขปัญหา เราควรต้องแก้ปัญหาอย่างตรงไปตรงมาได้แล้ว เพราะไม่เช่นนั้นก็ไม่จบ ที่ผ่านมาเป็นการเอาปัญหาไปซุกไว้ใต้พรม

ผู้สื่อข่าวถามว่าเคยเป็นแผนของฝ่ายความมั่นคงไทยเกี่ยวกับนโยบายบริหารจัดการกลุ่มกองกำลังว้าบ้างหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า เป็นไปได้ 2 ทางคือตนอาจยังเข้าไม่ถึง หรือไม่เคยมีแผนดังกล่าว ซึ่งตนยังไม่แน่ใจว่าเป็นเช่นไร“อย่างน้อยผมยังเห็นมีการตั้งคณะกรรมการ ปชด.ที่มี ผบ.สส.เป็นประธาน ทำให้เห็นถึงความพยายามบางอย่าง แต่ต้องยอมรับว่าการแก้ไขปัญหาชายแดนมีความซับซ้อน และส่วนหนึ่งเป็นเพราะโครงสร้างระบบราชการที่สลับซับซ้อน เรามีหน่วยงานที่ดูเรื่องชายแดนเยอะมาก แต่ละหน่วยงานมีเป้าหมายของตัวเองและไม่ได้ทำงานร่วมกัน ต่างคนต่างทำ และกลายเป็นปัญหาซึ่งกันและกัน ผมคิดว่าวันนี้ที่สำคัญที่สุดต้องมีเจ้าภาพที่ชัดเจน ต้องมีแผนและตัวชี้วัดที่ชัดเจน ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ปฏิบัติงานรู้ว่าต้องทำอะไร แต่วันนี้ไม่มีความชัดเจนสักอย่าง ทำให้แต่ละหน่วยงานต่างทำกันไปตามมีตามเกิด กลายเป็นว่าทุกคนต่างรอความชัดเจน”นายรังสิมันต์ กล่าว

“อย่างน้อยผมยังเห็นมีการตั้งคณะกรรมการ ปชด.ที่มี ผบ.สส.เป็นประธาน ทำให้เห็นถึงความพยายามบางอย่าง แต่ต้องยอมรับว่าการแก้ไขปัญหาชายแดนมีความซับซ้อน และส่วนหนึ่งเป็นเพราะโครงสร้างระบบราชการที่สลับซับซ้อน เรามีหน่วยงานที่ดูเรื่องชายแดนเยอะมาก แต่ละหน่วยงานมีเป้าหมายของตัวเองและไม่ได้ทำงานร่วมกัน ต่างคนต่างทำ และกลายเป็นปัญหาซึ่งกันและกัน ผมคิดว่าวันนี้ที่สำคัญที่สุดต้องมีเจ้าภาพที่ชัดเจน ต้องมีแผนและตัวชี้วัดที่ชัดเจน ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ปฏิบัติงานรู้ว่าต้องทำอะไร แต่วันนี้ไม่มีความชัดเจนสักอย่าง ทำให้แต่ละหน่วยงานต่างทำกันไปตามมีตามเกิด กลายเป็นว่าทุกคนต่างรอความชัดเจน”นายรังสิมันต์ กล่าว

On Key

Related Posts

เชื่อกองกำลังปะหล่องยอมคืนเมืองที่ยึดได้ทางเหนือรัฐฉาน หลังถูกจีนกดดันอย่างหนัก ขณะที่กระแสต่อต้านจีนเพิ่มขึ้น แฉรัฐบาลแดนมังกรทำทุกอย่างเพื่อปกป้องผลประโยชน์ตัวเองในพม่า

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ในรายการ This week’s IRead More →

เผยทหารว้าขยายพื้นที่ทำเหมืองทองเพิ่มขึ้น-ไม่สนใจความเดือดร้อนของคนลุ่มน้ำกก-สาย แม้รู้ข่าวสารปนเปื้อนลงน้ำแล้ว ชาวพม่า-ไทใหญ่เดือดร้อนกันถ้วนหน้า นักวิชาการ มฟล.เสนอ 3 สถาบันการศึกษาร่วมจัดตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพน้ำเชียงราย

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ชาวบ้านรายหนึ่งซึ่งอาศRead More →

ประชุมแม่น้ำข้ามแดนนัดแรก จังหวัดเชียงรายดันสร้างฝายดักตะกอนแก้ปัญหาสารโลหะหนักปนเปื้อนแม่น้ำกก-แม่น้ำสาย ตั้งคณะทำงาน 4 ชุด นักวิจัยติงคิดให้รอบคอบ หวั่นไม่มีที่ทิ้งสารพิษ-มีบทเรียนจากลำห้วยคลิตี้

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ณ ห้องธรรมลังกา ศาลากลRead More →