
สำนักข่าว Irrawaddy รายงานเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 ว่า กองทัพโกก้าง (Myanmar National Democratic Alliance Army – MNDAA)ได้คืนเมืองล่าเสี้ยว เมืองใหญ่อันดับ 2 ทางภาคเหนือของรัฐฉานให้กับกองทัพพม่าแล้ว หลังจากที่กองทัพโกก้างถูกประเทศจีนกดดันอย่างหนัก โดยเมืองล่าเสี้ยวถูกกองทัพโกก้างยึดได้เมื่อปีที่แล้ว ภายใต้ปฏิบัติการ 1027 อย่างไรก็ตามกองทัพโกก้างถูกทางการจีนขู่จะปิดชายแดนทั้งหมดที่ติดกับเขตปกครองพิเศษโกก้าง จึงทำให้ MNDAA ยอมคืนเมืองล่าเสี้ยว
ทั้งนี้ในช่วงเดือนเมษายนนี้ กองกำลังโกก้างได้เริ่มทยอยถอนกำลังพลและฝ่าบบริหารของตนออกจากเมืองล่าเสี้ยว โดยชาวบ้านในเมืองล่าเสี้ยวได้ให้สัมภาษณ์ว่าทางการพม่า รวมทั้งฝ่ายบริหาร ฝ่ายสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรอง และตัวแทนจากหลายฝ่ายของทางการพม่าได้เริ่มเดินทางกลับเข้ามาในเมืองล่าเสี้ยวแล้ว
ขณะที่สำนักข่าว Wa News Land ของว้ารายงานว่า ทางกองทัพสหรัฐว้า (United Wa State Army) ได้ร่วมกับทางกองทัพโกก้างรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับทางการพม่ากลับคืนเมืองล่าเสี้ยว เมื่อวันที่ 18 เมษายน ผ่านมา ทางการจีนและตัวแทนฝ่ายกองทัพพม่าและตัวแทนกองทัพโกก้างได้หารือกันที่เมืองล่าเสี้ยว แต่ยังไม่ทราบในรายละเอียด
ด้านนักวิเคราะห์ทางการทหารที่ใกล้ชิดกับกองทัพโกก้าง กล่าวกับสำนักข่าว Irrawaddy เมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมาว่า การประชุมดังกล่าวได้หารือถึงการแบ่งเขตเมืองล่าเสี้ยว แต่ยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงใดๆ โดยทางด้านสมาชิกของกลุ่มในชื่อ Lashio reconstruction กล่าวว่า กองทัพโกก้างจะออกจากเมืองล่าเสี้ยว แต่ยังคงควบคุมพื้นที่โดยรอบไว้ ขณะที่สมาชิกฝ่ายต่อต้านกองทัพพม่า และนักโทษการเมืองที่ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำล่าเสี้ยวรวมถึงนักเคลื่อนไหวได้ออกจากเมืองล่าเสี้ยวไปแล้ว
อย่างไรก็ตามการส่งมอบคืนเมืองล่าเสี้ยวในครั้งนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากประชาชนรวมถึงนักรบจากกลุ่มติดอาวุธต่างๆที่ต้องเสียชีวิตจากการชิงพื้นที่เมืองล่าเสี้ยว เช่นเดียวกับบ้านเรือนจำนวนมากถูกทำลายระหว่างการสู้รบ
‘เราไม่ต้องการให้ MNDAA ส่งคืนเมืองล่าเสี้ยวให้กับกองทัพพม่า แต่มีการเล่นเกมอำนาจกันทางการเมือง และอาจมีบางสิ่งที่เรายังไม่รู้’ สมาชิกของ Lashio reconstruction กล่าวทางด้านชาวเมืองล่าเสี้ยวรายหนึ่งกล่าวว่า “พลเรือนทั่วไปไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกผู้ปกครองของตัวเอง เราออกจากเมืองล่าเสี้ยวระหว่างการสู้รบ ผู้คนเปรียบเสมือนลูกวอลเลย์บอลที่ถูกสุนัขสองตัวแย่งชิงกัน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงสำหรับเรา”
ทางด้านชาวเมืองล่าเสี้ยวรายหนึ่งกล่าวว่า “พลเรือนทั่วไปไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกผู้ปกครองของตัวเอง เราออกจากเมืองล่าเสี้ยวระหว่างการสู้รบ ผู้คนเปรียบเสมือนลูกวอลเลย์บอลที่ถูกสุนัขสองตัวแย่งชิงกัน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงสำหรับเรา”