
สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union-KNU) ประณามรัฐบาลทหารพม่าที่ยังระดมโจมตีพื้นที่ของกองกำลังฝ่ายต่อต้านอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหว 7.7 แมกนิจูดในเมียนมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 เป็นต้นมา ขณะที่ข้อมูลจาก UNOCHA ระบุว่ากองทัพพม่าโจมตีหลายพื้นที่ตั้งแต่ประกาศสงบศึกต้นเดือนเมษายน ส่งผลกระทบต่อการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างหนัก
ในวาระครบรอบ 1 เดือนเหตุแผ่นดินไหวเมียนมา เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 สำนักข่าว Irrawaddy รายงานอ้างอิงแถลงการณ์ของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNU ซึ่งระบุว่าการประกาศหยุดยิงเพื่อสงบศึกชั่วคราวของรัฐบาลทหารพม่าที่ประกาศให้มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 2-22 เมษายน 2568 เป็นท่าทีจอมปลอม เปรียบเหมือน ‘การโฆษณาขายเนื้อแพะแต่ที่จริงแล้วขายเนื้อสุนัข’
KNU ระบุว่านับตั้งแต่ประกาศหยุดยิงมีผลบังคับใช้ รัฐบาลทหารพม่าทั้งระดมยิงและโจมตีทางอากาศในพื้นที่กอทูเลหรือดินแดนทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมียนมาซึ่งมีพื้นที่เชื่อมต่อกันระหว่างรัฐกะเหรี่ยง รัฐมอญ และทางตะวันออกของภาคพะโค รวมกว่า 110 ครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย และบาดเจ็บ 37 ราย รวมถึงพระสงฆ์ สะท้อนว่ารัฐบาลทหารพม่าไม่มีความจริงใจที่จะสงบศึกแต่อย่างใด
นอกจากนี้ Irrawaddy ยังรายงานอ้างอิงแถลงการณ์ของกองกำลังอาระกัน (Arakan Army) หรือ AA กองกำลังติดอาวุธที่เคลื่อนไหวในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของเมียนมา ระบุคล้ายกันว่าในช่วงเวลา 20 วันที่รัฐบาลทหารพม่าประกาศหยุดยิงรอบแรก หรือวันที่ 2-22 เมษายน 2568 รวมถึงช่วงขยายเวลาหยุดยิงอีก 1 สัปดาห์หลังวันที่ 23 เมษายน 2568 กองทัพพม่าไม่ได้ทำตามเงื่อนไขหยุดยิง แต่กลับระดมโจมตีพื้นที่รัฐยะไข่ประมาณ 409 ครั้ง
ข้อกล่าวหาจากกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าตอกย้ำข้อมูลสำนักงานด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาติ (UNOCHA) ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 โดยมีการระบุว่ากองทัพพม่ายังคงโจมตีพื้นที่ต่างๆ ในความดูแลของกองกำลังฝ่ายต่อต้าน ไม่เว้นแม้แต่พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวหนักที่สุด เช่น ภาคสะกาย พะโค และรัฐฉาน โดยมีรายงานว่ากองทัพพม่ายิงโจมตีและทิ้งระเบิดทางอากาศหลายสิบครั้งในช่วงเวลาสองวันแรกที่ประกาศหยุดยิง ทั้งยังคงดำเนินการบังคับเกณฑ์ทหารประชากรวัยหนุ่มสาวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อการช่วยเหลือ บรรเทาสาธารณภัย ตลอดจนการลำเลียงเสบียงอาหารและยาไปถึงมือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว
นอกจากนี้ Human Rights Watch องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ หรือ HRW ยังระบุอีกด้วยว่า นับตั้งแต่เกิดรัฐประหารในเมียนมาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา รัฐบาลทหารพม่าได้จับกุมและกวาดล้างบุคลากรทางการแพทย์ที่เคยเข้าร่วมหรือแสดงความเห็นต่อต้านการยึดอำนาจมาโดยตลอด ทำให้เมียนมาขาดแคลนบุคลากรการแพทย์ที่จะมารับมือความเจ็บไข้ได้ป่วยและบาดเจ็บของประชาชนในช่วงหลังแผ่นดินไหว
HRW ระบุว่ารัฐบาลทหารพม่าจับกุมและดำเนินคดีบุคลากรการแพทย์ที่เข้าร่วมการชุมนุมต่อต้านรัฐประหารรวมกว่า 872 ราย ทั้งยังมีคำสั่งให้โจมตีโรงพยาบาลและศูนย์ให้บริการทางการแพทย์อื่นๆ ทั่วประเทศรวมกว่า 263 แห่ง และในการโจมตีเหล่านี้ทำให้มีบุคลากรการแพทย์เสียชีวิตอย่างน้อย 74 ราย
https://www.hrw.org/news/2025/04/28/myanmar-junta-assault-health-care-hinders-quake-response
https://news.un.org/en/story/2025/04/1161866