เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือมท.4 เดินทางมาลงพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์กรณีพบสารปนเปื้อนสารหนูในแม่น้ำสาย โดยได้เข้าประชุมร่วมกับนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนเดินทางตรวจดูแนวการขุดลอกและทำพนังกั้นพื้นที่เมืองแม่สาย บริเวณใต้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 ตลาดสายลมจอย ถ้ำผาจม และบ้านเหมืองแดง
ในที่ประชุม รมช.มหาดไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์สารปนเปื้อนในแม่น้ำกกแม่น้ำสาย หลังจากนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ได้ประชุมนอกรอบกับ ผวจ.เชียงราย กปภ. อปท. กระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัย เพื่อติดตามและมอบหมายงาน โดยให้สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่1 (สคพ.1) เร่งตรวจสารปนเปื้อนในแม่น้ำสายน้ำรวกอย่างเร่งด่วนด้วย โดยน้ำสายจะตรวจเดือนละ 1 ครั้ง ส่วนแม่น้ำกก เดือนละ 2 ครั้ง
น.ส.ธีรรัตน์กล่าวว่า ในวันเดียวกันนี้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ได้มีการประชุมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อติดตามสารปนเปื้อนหน้าดิน โดยจะลงพื้นที่เพื่อดูสถานการณ์
“จากปัจจุบันที่ยังไม่บรรลุผลในการแก้ปัญหา และมีการขอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุให้ไทยเจรจากับประเทศต้นน้ำ รองนายกรัฐมนตรีได้ตั้งคณะอนุกรรมการพื้นที่ไทย-เมียนมาสัมพันธ์ ซึ่งได้ดำเนินการส่งหนังสือสอบถามไปยังประเทศเมียนมาถึงปัญหาสารปนเปื้อน และประสานงานผ่าน TBC ไทย-เมียนมา และได้ร้องขอกรมควบคุมมลพิษให้ประสานการทำงานกับกระทรวงต่างประเทศในด้านข้อมูลและสถานการณ์” รมช.มหาดไทยกล่าว
ทั้งนี้น.ส.ธีรรัตน์ ยังได้สอบถามที่ประชุมถึงการจะนำดินที่ขุดลอกแม่น้ำรวก โดยกรมการทหารช่างกล่าวว่า ดำเนินการขุดลอกที่จะนำขึ้น ทำเป็นพนังกั้นน้ำอยู่ริมแม่น้ำรวก ส่วนของทางเมียนมาจะนำดินที่ขุดรอกไปทิ้งสถานที่ห่างจากน้ำสายประมาณ 3 ไมล์ รมช.มท.จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเก็บตัวอย่างดินไปตรวจว่ามีสารปนเปื้อนหรือไม่ เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาต่อไป ถ้ามีการปนเปื้อน
สำหรับข้อกังวลในเรื่องประมงนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า สถานีประมงจังหวัดเชียงรายได้นำปลาที่เป็นโรคส่งตรวจแล้วคาดว่าผลจะออกมาวันที่ 9 พฤษภาคม สำหรับการดำเนินการเพื่อรับสถานการณ์ภัยน้ำท่วมในปีนี้ซึ่งมีการพยากรณ์ว่าปีนี้ฝนจะตกหนักกว่าปีที่แล้ว นายชรินทร์กล่าวว่าอยู่ในระหว่างการดำเนินการของกรมการทหารช่าง กำลังเร่งเดินหน้าโดยได้ปักเสาเข็มตามแนวที่กำหนด และในวันพรุ่งนี้(7 พค.) กรมธนารักษ์จะมีการยกเลิกสัญญาเช่าอาคารที่เป็นคอขวดและรุกล้ำแม่น้ำโดยผู้เช่าต้องออกจากพื้นที่และกรมการทหารช่างจะดำเนินการรื้อถอนอาคารได้ทันที
ภายหลังการตรวจพื้นที่ น.ส.ธีรรัตน์ ให้สัมภาษณ์ว่า การมาตรวจเยี่ยมมี 2 เรื่องใหญ่ ได้รับรายงานตามขั้นตอนในการตรวจปนเปื้อนในน้ำและตะกอนดินในแม่น้ำสาย และปัญหาระยะยาว เรื่องที่มาของสารปนเปื้อนมีการคาดการณ์ว่ามาจากประเทศเพื่อนบ้านจะพูดคุยกันในเรื่องนี้ และการขุดลอกและการทำแนวตลิ่งของกรมการทหารช่างมีความคืบหน้าไปได้มากตามแผนที่วางว่าจะเสร็จก่อนปลายเดือนมิถุนายนก่อนจะมีฝนมาครั้ง
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าขณะนี้ทางฝั่งไทยยังไม่มีการขึ้นตลิ่งกันและยังไม่มีการขุดลอกในเขตเมืองของประเทศเมียนมามีความกังวลหรือไม่ น.ส.ธีรรัตน์กล่าวว่า ตอนนี้ได้เตรียมความพร้อมของจุดนี้ มีการทำแนวป้องกันน้ำแบบชั่วคราวขึ้นมา
“ขอให้พี่น้องวางใจได้ว่าในปีนี้ ถ้านำตัวเลขปริมาณน้ำในปีที่แล้วมาวิเคราะห์ ในส่วนที่เราป้องกันได้เสร็จสิ้นทันตามที่เราวางไว้ แต่ถ้าหากมีปริมาณที่มากขึ้นกว่าเดิม หลาย ๆ หน่วยงาน สำนักงานสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) และมูลนิธิเพื่อนพึ่งภายามยาก ได้ทำโทรมาตรสามารถเตือนประชาชนได้ทันกับเวลาที่เกิด จากสถานีเราจะมีเวลา 6 ชั่วโมงได้เตรียมตัวได้ เรามีทีมในการพูดคุยกันกับเมียนมา หลังจากที่มีเหตุการณ์แผ่นดินไหว ยังไม่มีการตอบรับกลับมา เราจะทำในส่วนของเราให้ดีที่สุดก่อน สามารถรองรับน้ำได้มากที่สุด ก็คิดว่าน่าจะมีทีมไปติดตามสอบถาม เพื่อจะได้มีความคืบหน้าในเรื่องนี้”มท.4 กล่าว
