
สำนักข่าวไทใหญ่ Tai TV Online รายงานเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมาว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังคงปักหลักทำธุรกิจผิดกฎหมายอยู่ในเขตเมืองลายค่า ทางใต้ของรัฐฉาน แม้จะมีการปราบปรามอย่างหนักจากทางการพม่าก็ตาม โดยมีกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์อย่างกองทัพสหรัฐว้า UWSA กองทัพรัฐฉานเหนือ SSPP/SSA และกองกำลังรักษาชายแดน BGF รักษาความปลอดภัยและให้การช่วยเหลือโดยให้ที่อยู่แก่แก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มหนึ่งได้ย้ายออกจากพื้นที่ใกล้กับหมู่บ้านผาหว่อง หนองกึ๋นและบ้านจะลายข่ม เขตเมืองลายค่า และได้ทิ้งขยะ และเศษซากเสื้อผ้าไว้เป็นจำนวนมากในพื้นที่บริเวณกว้าง สร้างความสกปรกให้กับในพื้นที่ และทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต้องเข้าไปเก็บกวาดรักษาความสะอาดหลังแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้ย้ายออกไป


ชาวบ้านเผยกับสื่อไทใหญ่ว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ จะย้ายที่ไปเรื่อยๆ เนื่องจากเกรงว่าจะถูกปราบปรามโดยทางการพม่าซึ่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้จะมีเครื่องปั่นไฟขนาดใหญ่ และมี 3 กลุ่มติดอาวุธให้การอารักขาโดยมีการรักษาความปลอดภัยให้อยู่ 3 ชั้น โดยกองทัพสหรัฐว้า UWSA นั้นเป็นกลุ่มที่รักษาความปลอดภัยชั้นในและอยู่ใกล้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ที่สุด รองลงมาหรือชั้นที่สองคือกองกำลังพิทักษ์ชายแดน BGF บ้านป่าง 758 และกองทัพรัฐฉานเหนือ SSPP/SSA
นอกจากนี้ ทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังมีการว่าจ้างชาวบ้านในพื้นที่ให้การรักษาความปลอดภัยให้ด้วย โดยเหยื่อที่ถูกหลอกมาทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีทั้งชาวลาว ชาวเวียดนามและชาติอื่นๆรวมอยู่ด้วย และมักมีเสียงเหยื่อเหล่านี้ร้องไห้ระงมเพราะถูกทำร้ายร่างกาย หากทำยอดได้ไม่ถึงตามที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ต้องการ
ชาวบ้านในพื้นที่กล่าวด้วยว่า การเข้ามาตั้งฐานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ นอกจากสร้างความสกปรกให้กับในพื้นที่แล้ว ยังกระทบต่อวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้มีกำลังซื้อทำให้พ่อค้าแม่ค้าตามตลาดขึ้นราคาอาหารกระทบกับคนในพื้นที่ที่ต้องซื้ออาหารในราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วย
อีกด้านหนึ่ง ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 สำนักข่าว SHAN ได้เคยนำเสนอบทความเผยว่า ด้วยสถานการณ์การเมืองในพม่า นับตั้งแต่รัฐประหาร และสภาพเศรษฐกิจในพม่าที่ซบเซา ทำให้เยาวชนจำนวนไม่น้อยตัดสินใจมาทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เช่น ที่ชเวโก๊กโก่ ตรงข้ามจังหวัดตากของไทย เพราะเป็นทางเลือกเดียวที่จะทำให้คนหนุ่มสาวเหล่านี้มีรายได้เพื่อสนับสนุนครอบครัวของพวกเขา
ภาพจาก Tai TV Online