Search

โวยเหมืองต้นน้ำกระบุรีฝั่งพม่าปล่อยสารพิษจนชาวบ้านใช้น้ำไม่ได้มาแล้วหลายปี-สจ.ระนองยังต้องขุดบ่อน้ำใช้เอง ขณะที่นายกอบต.จี้ ผวจ.-ทหารแก้ไขด่วน

ชาวบ้านริมแม่น้ำกระบุรี อ.กระบุรี จ.ระนอง ร้องเรียนไปยังที่ว่าการอำเภอกระบุรี และจังหวัดระนองว่าไม่สามารถนำน้ำในแม่น้ำกระบุรีซึ่งกั้นพรมแดนระหว่างไทย-พม่า มาใช้อุปโภคบริโภคได้เนื่องจากมีการทำเหมืองในฝั่งประเทศพม่าตั้งแต่ปี 2562 จนน้ำขุ่นและคัน สัตว์น้ำตามธรรมชาติทยอยหายไป   ชาวบ้านคาดกันว่าเหมืองดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ประเทศเมียนมาห่างจากชายแดนไทย 19 กิโลเมตร ต้นแม่น้ำกระบุรีอยู่ในเมียนมาซึ่งการปล่อยน้ำจากเหมืองทำให้น้ำสีขุ่นทั้งปี   

 เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 นายอนุวัตร อุดมศิลป์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง (สจ.ระนอง) กล่าวถึงกรณีน้ำประปาในพื้นที่ อ.กระบุรี จ.ระนอง ซึ่งเป็นน้ำที่มาจากแม่น้ำกระบุรี ไม่สามารถนำมาบริโภคได้เนื่องจากทางฝั่งประเทศเมียนมาทำเหมืองแร่ที่ส่งกระทบต่อคุณภาพน้ำ  

 “น่าจะมาจากทำเหมืองแล้วไหลลงแม่น้ำกระบุรีทั้งเส้น ช่วงนี้ฤดูฝนน้ำไหลลงคลองน้ำขุ่นมาก ชาวบ้านร้องเรียนน้ำประปาขุ่น บางคนอาจจะไม่รู้ว่าข้างบนเข้าทำเหมืองแร่ มันอยู่ต่างประเทศคนละพื้นที่ น้ำขุ่นทิ้งไว้นานๆให้มันนอนก้นเพราะมันจำเป็นต้องใช้ อย่างบ้านผมใช้น้ำบ่อตัดปัญหาเรื่องประปาเลย สู้ไม่ไหวถ้าซื้อเสื้อผ้าดีๆซัก 2-3 ทีขุ่นหมด” สจ.ระนอง กล่าว  

นายอนุวัตร กล่าวอีกว่า น้ำในแม่น้ำกระบุรีไม่สามารถนำมาใช้บริโภคได้ เพราะฝั่งประเทศเพื่อนบ้านมีคนพลุกพล่าน ส่วนฝั่งไทยก็มีการทำสวนทุเรียนใช้สารเคมี เป็นสาเหตุทำให้สารตกค้างไหลลงแม่น้ำกระบุรีด้วย  

“ผมว่าปัญหานี้มันระหว่างประเทศ พวกเราทำอะไรไม่ได้ ผมก็เพิ่งเป็น สจ.ได้ไม่กี่เดือน แต่ชาวบ้านไปร้องเรียนองค์การบริหารส่วนตำบลปากจั่น (อบต.ปากจั่น) แม่น้ำกระบุรีในพื้นที่ ต.ปากจั่น มีระยะทางหลายกิโลเมตร ชาวบ้านเขาไม่มีงบประมาณขุดบ่อก็จำเป็นต้องใช้ เมื่อก่อนทำไม้ซุงไม่มีปัญหาอะไร พอเลิกไม้ซุงมาเป็นเหมืองแร่ เห็นชาวบ้านพูดว่าทางฝั่งประเทศเมียนมาในเหมืองมีรถแบล็คโฮหลายคันผมก็ไม่เคยไปเห็น” นายอนุวัตร กล่าว  

ด้าน นางนฤมล บุญช่วย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปากจั่น(อบต.) อ.กระบุรี จ.ระนอง กล่าวว่า ผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ในฝั่งเมียนมาปัจจุบันนี้แม่น้ำกระบุรียังขุ่นเหมือนเดิม  

“ที่ผ่านมามีการนำน้ำจากแม่น้ำกระบุรีไปตรวจ แจ้งไปที่จังหวัด อำเภอ และสาธารณสุขจังหวัดไปตรวจด้วยกัน เขาก็ให้ค่าน้ำมาว่าไม่มีสารพิษ ไม่มีอันตราย แต่น้ำมันสีขุ่น ของ อบต.ปากจั่น นำน้ำดิบจากแม่น้ำกระบุรีสูบขึ้นมาทำประปาซึ่งทำให้เครื่องกรองน้ำเสียบ่อย เครื่องทำงานหนัก ต้องใส่สารส้มเยอะมากมีผลกระทบต่อชาวบ้าน กุ้งหอยปูปลาตามธรรมชาติมันหายไป สีของแม่น้ำไม่สวยเลย” นายก อบต.ปากจั่น กล่าว  

นางนฤมล กล่าวด้วยว่า ผลกระทบในแม่น้ำกระบุรีจากการทำเหมืองแร่ฝั่งเมียนมานี้เป็นเรื่องระดับประเทศไปแล้ว ไม่ใช่แค่ปัญหาของตำบล  

“ทางผู้ว่าราชการจังหวัดหรือทหารต้องทำ เราส่งเรื่องให้ทางอำเภอและจังหวัดให้ทราบในเบื้องต้นแค่นี้ แต่จริงๆปัญหามันระดับประเทศ ไม่ใช่ปัญหาตำบลหมู่บ้าน พอไปหมู่ที่ 8 ข้างบนมันจะมีทางแยกเข้ามาด้านซ้ายเป็นฝั่งไทย ด้านขวาเป็นพม่า ช่วงแม่น้ำเส้นนี้ที่ยังไม่มีการทำเหมืองแร่น้ำจะสีใสมาก พอแม่น้ำจากพม่ามาชนกันตรงกลางที่หมู่บ้านปากกระ ตรงนั้นน้ำสีขุ่นมาเลยแล้วก็เป็นทั้งแม่น้ำกระบุรี” นางนฤมล กล่าว

(อ่านข่าวเพิ่มเติม https://transbordernews.in.th/home/?p=33916 )