Search

ห่วงลูกหลานไม่รู้จะอยู่อย่างไร“แม่ทองสร้อย”ศิลปินพื้นบ้านชื่อดังออกโรงจี้รัฐเร่งหาทางปิดเหมืองต้นแม้น้ำกก-สาย กรมวิทยาศาสตร์ฯ แถลงด่วน ยืนยันไม่พบสารหนูในบ่อน้ำตื้น-ประปาชุมชน ทีม สธ.พร้อมลงพื้นที่ตรวจซ้ำ

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 17.00 น ณ บริเวณสวนตุงและโคม ถนนคนเดิน อ.เมือง จ.เชียงราย ประชาชนจากหลากหลายอาชีพได้ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อยุติเหมืองแร่ต้นแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย โดยมีการให้ความรู้เกี่ยวกับมลพิษข้ามแดน และการแสดงดนตรีและศิลปะ โดยเฉพาะการร้องซอคำเมืองจาก “แม่ทองสร้อย” ศิลปินพื้นบ้านชื่อดัง วงนาคาสตูดิโอ หมอกมุงดอย ชิ สุวิชาน คิมล่องกอง อ๊อกซี่ ฯลฯ

ทั้งนี้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีการตั้งโต๊ะให้ประชาชนที่มาเที่ยวถนนคนเดินได้ร่วมลงชื่อในจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อให้หยุดเหมืองเถื่อนทันที และมีการแจกริบบิ้นสีฟ้าเขียว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ในการเรียกร้องให้ปกป้องแม่น้ำและธรรมชาติ รวมทั้งกิจกรรมระบายสีปลาแข้ ให้ครบ 1,000 ตัว เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของปัญหาสารพิษในแม่น้ำ 

แม่ทองสร้อย หนองเก้าห้อง ศิลปินจาก อ.แม่ลาว กล่าวว่าเมื่อได้ยินปัญหาแม่น้ำปนเปื้อน ก็รู้สึกหดหู่ รันทดใจมากสำหรับคนเชียงรายที่ถูกกระทำ ตนเป็นคนหนึ่ง ต้องช่วยกันและมีส่วนร่วม เพราะการเป็นศิลปินก็ทำหน้าที่ส่งเสียงไปในรูปแบบของเสียงดนตรี เพลงซอที่นำมาร้องวันนี้ได้กลั่นกรองข้อมูลจากข่าวที่ได้รับ อยากให้คนเชียงรายได้รวมพลัง เรื่องนี้ละเลยกันไม่ได้ อยากให้รัฐบาล กระทรวงต่างประเทศ มหาดไทยแก้ปัญหาเร่งด่วนและทันที สารปนเปื้อนในแหล่งน้ำธรรมชาติของเรา ในอนาคตคนเชียงรายเราจะอยู่อย่างไร กินอย่างไร รัฐบาลต้องมีนโยบายเร่งด่วนทันที หากไม่ดำเนินการเร่งด่วนก็จะเน่าไปเรื่อยๆ

“ผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ลูกหลาน ทรัพยากรมนุษย์ของประเทศไทยในอนาคตจะเป็นอย่างไร นี่เป็นวิกฤติที่ใหญ่ที่สุด กระทบสิ่งแวดล้อมกระทบเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง” ศิลปินเชียงรายกล่าว

นายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของกล่าวว่า แม่น้ำสี่สายของเราเวลานี้เป็นพิษแล้ว เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมแสดงเจตนารมณ์ในวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน ที่สวนสาธารณะแม่ฟ้าหลวง ตั้งแต่เวลา 8.00 น. เริ่มรวมตัว เราต้องการให้รัฐบาลมีความชัดเจนในการแก้ปัญหานี้ทันที นี่คือเรื่องชีวิตของคนเชียงราย

ในวันเดียวกัน นพ.วัชรพงษ์ คำหล้า รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ติดตามการเก็บตัวอย่างตามแผนงานโครงการเฝ้าระวังความปลอดภัยโลหะหนักในตัวอย่างน้ำประปาหมู่บ้านและอาหารที่สัมผัสแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย

นพ.วัชรพงษ์ กล่าวว่า จากการเก็บตัวอย่างแหล่งน้ำประปาหมู่บ้าน หรือแหล่งน้ำใกล้เคียงแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก 2 ครั้ง คือวันที่ 8 เมษายน และ 2 พฤษภาคม ไม่พบสารหนูหรือสารโลหะหนักอื่นเกินมาตรฐาน แต่มีการลงพื้นที่ตรวจครั้งเมื่อวานนี้ (30 พฤษภาคม) จากที่มีความกังวลในพื้นที่ในการปนเปื้อนในบ่อน้ำ 6 บ่อ บริเวณบ้านหัวฝาย ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้วางแผนเก็บตัวอย่างอย่างต่อเนื่องทุกเดือนจนถึงเดือนสิงหาคมในครอบคลุมพื้นที่ 7 อำเภอ 20 รพ.สต. 1 เทศบาล ลุ่มแม่น้ำกก แม่น้ำรวกและแม่น้ำสาย โดยมีวางแผนเก็บตัวอย่าง 4 ครั้ง เดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม ตัวอย่างประกอบด้วย น้ำประปาหมู่บ้าน พืชผัก และปลา แต่ละชนิดไม่น้อยกว่า 19 ตัวอย่าง ส่งวิเคราะห์ห้องปฏิบัติการ ณ สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เชียงราย ที่มีความแม่นยำ ความจำเพาะ ความไวสูง

นพ.วัชรพงษ์กล่าวว่า ผลการตรวจวิเคราะห์ครั้งที่ 1 วันที่ 19-21 พฤษภาคม ส่งตรวจจำนวน 80 ตัวอย่าง ตรวจสารหนูในน้ำประปา 36 ตัวอย่าง พบว่าอยู่ในช่วงน้อยกว่า 0.001-0.005 มก./ล ไม่เกินค่ากำหนด ส่วนในพืชผัก 21 ตัวอย่าง มีผลตรวจไม่พบ จนถึงพบการปนเปื้อน 0.412 มก/ล.ซึ่งไม่เกินมาตรฐาน

“กรณีที่ประชาชนในพื้นที่อำเภอแม่สาย ที่ใช้น้ำจากบ่อในครัวเรือนเพื่ออุปโภค แล้วมีอาการผื่นแดงตามตัว จากที่ สธ. และ อปท.ได้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง เฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำจากบ่อที่ประชาชนใช้อุปโภค เพื่อตรวจสารหนูเบื้องต้น ด้วย Test kit ไม่พบสารหนู จากการตรวจร่างการผู้มีอาการผื่น โดยแพทย์เฉพาะทาง พบว่า ไม่พบความผิดปกติทางระบบประสาท และอาการที่พบมีลักษณะ ผื่นแพ้เหงื่อ พร้อมทั้งคัดกรองเพิ่มเติมในชาวบ้านกลุ่มเสี่ยง และเก็บข้อมูลการใช้น้ำในครัวเรือน เก็บตัวอย่างบ่อน้ำบาดาล จำนวน 6 ชุด เพื่อตรวจวิเคราะห์หาสารปนเปื้อนในแลปศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์” รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า

ขณะที่นพ.สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า สถานการณ์ปนเปื้อนโลหะหนัก มีการเฝ้าระวังทุกภาคส่วนของรัฐ และภาคประชาชน ซึ่งตอนนี้ยังไม่พบมีข้อมูลบ่งชี้ว่ามีความเสี่ยงสูงต่อประชาชน อย่างไรก็ตามถ้ามีรายงานมาตรการเพิ่มเติมก็จะแจ้งให้ประชาชนทราบ แต่หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำงดเล่นน้ำก่อน และน้ำที่จะนำมาอุปโภคบริโภคต้องปรับปรุงบำบัดก่อน

“ขอเรียนว่าอาการแพ้สารหนูจะไม่ได้แสดงอาการผื่นคัน แต่อาจเป็นการแพ้จากอย่างอื่น ซึ่ง รพ.แม่สายได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วว่าเป็นผื่นแพ้จากเหงื่อ และได้รับการรักษาแล้ว” สสจ.เชียงรายกล่าว

นายเสน่ห์ แสงคำ เกษตรจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การตรวจเฝ้าระวังจะมีการเก็บตัวอย่างตรวจเดือนละ 1 ครั้ง ขณะนี้ได้แจ้งกับเกษตรอำเภอในโซนที่มีพื้นที่ติดแม่น้ำที่มีการปนเปื้อนให้ระวังโดยเฉพาะในหน้าแล้งที่น้ำแห้งให้พยายามเลี่ยงการใช้น้ำที่ยังพบการปนเปื้อน แต่ถ้าจำเป็นให้ปรับปรุงดินให้มีลักษณะเป็นด่างโดยใช้ปูนขาว ซึ่งพืชสามารถรับได้ ทำให้สารหนูถูกตรึงอยู่ในดินจะไม่มีทางเข้าไปสู่ต้นพืช เป็นข้อมูลเชิงวิชาการในการป้องกันผนึกสารหนูให้อยู่ในดิน

ด้านนายณัฐรัฐ พรเดชอนันต์ ประมงจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า สำหรับปลาจากการเก็บตัวอย่าง 2 ครั้งในน้ำกก ไม่พบการปนเปื้อนโลหะหนักเกินมาตรฐาน แต่ปลาแข้ที่ป่วยการตรวจแลปพบปรสิตประเภทไดจีนหรือพยาธิใบไม้ และเชื้อแบททีเรียฉวยโอกาส อย่างไรก็ตามการตรวจปลายังคงทำต่อเนื่อง

นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ข้อมูลบางส่วนที่เผยแพร่ผ่านสื่อ อาจมีความคลาดเคลื่อน โดยเฉพาะการรายงานผลตรวจจากชุดทดสอบ (Test Kit) ซึ่งไม่สามารถนำมาอ้างอิงอย่างเป็นทางการได้ เนื่องจากชุดทดสอบเหล่านี้เป็นเพียงเครื่องมือคัดกรองเบื้องต้นเท่านั้น ควรใช้ผลตรวจจากห้องปฏิบัติการที่มีมาตรฐานและได้รับการรับรอง เพื่อความถูกต้องและน่าเชื่อถือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ในแผนการตรวจ แหล่งน้ำชุมชน พืช ปลา ที่อยู่ในแผนการตรวจปัจจุบันที่ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้จัดหางบประมาณเร่งด่วนจำนวน 8 แสนบาท มาดำเนินการ โดยมี อบจ.ร่วมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัด ดูแลประสานงานและสั่งการ ประมงจังหวัดเชียงราย และเกษตรจังหวัดเชียงรายร่วมกับ รพ.สต. ท้องถิ่น เก็บตัวอย่างตรวจเป็นแผน 4 เดือน คือ พ.ย.- ส.ค. 2568

———-

On Key

Related Posts