เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 สำนักข่าว Irrawaddy รายงานว่า สถานการณ์ของผู้ลี้ภัยสงครามในเขตสะกาย ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของพม่ากำลังเผชิญกับความยากลำบากอย่างหนัก หลังต้องสร้างเพิงอาศัยอยู่ในป่า บางส่วนต้องอาศัยอยู่ในป่า หรือตามไร่นาเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในเขตสะกาย และบ้านเรือนของผู้ลี้ภัยเหล่านี้ถูกกองทัพพม่าเผาทำลายเสียหาย และไม่สามารถกลับภูมิลำเนาเดิมได้ เนื่องด้วยสถานการณ์ไม่ปลอดภัย ขณะที่กองทัพพม่าเข้มงวดห้ามส่งยารักษาโรค อาหาร เชื้อเพลิงและสิ่งของจำเป็นเข้ามาในเขตสะกาย
มีรายงานว่า ยอดชาวบ้านที่เสียชีวิตจากเหตุถูกงูกัดพุ่งเป็น 80 รายในปีนี้ เนื่องจากไม่มียาเซรุ่มรักษาผู้ที่ถูกงูกัด และยังมีการโจมตีทางอากาศยิ่งซ้ำเติมให้สถานการณ์ของผู้ลี้ภัยในเขตสะกายแย่ลงในช่วงหน้าฝน ขณะนี้ผู้ลี้ภัยกำลังต้องการศูนย์พักพิงและยารักษาโรคอย่างเร่งด่วน ขณะที่ในเมืองที่มีงูพิษชุกชุม คือเมือง กั่นบะลู, ขุ่นละ, ขิ่นอูฉ่วยโบ่ ,วาเล็ต อะทอว์ , เฉ่าว์อู ,มินมู่ ,ดิพะยิน ,บูตะลิน และเมือง เตอู พบว่ามีประชาชนถูกงูพิษกัดและเสียชีวิตแล้วกว่า 80 ราย เนื่องจากไม่มีเซรุ่มรักษาทันท่วงที
มีรายงานด้วยว่า ทางกองทัพพม่ายังสั่งห้ามโรงพยาบาลและคลินิกให้การรักษาแก่ผู้ที่ถูกงูกัด นอกจากนี้ราคาเซรุ่มรักษาผู้ที่ถูกงูพิษกัดนั้นมีราคาสูงในเขตสะกาย และการขนส่งผู้ป่วยเข้าไปรักษาในตัวเมืองก็เป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากถนนหนทางไม่ดี ทำให้การช่วยเหลือชีวิตคนที่ถูกงูกัดต้องล่าช้าไปอีก แม้เขตสะกายจะเป็นพื้นที่ที่กลุ่มติดอาวุธต่อต้านกองทัพพม่าเข้มแข็งและเคลื่อนไหวมากที่สุด แต่ยังไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด และกองทัพพม่ายังสามารถควบคุมจุดที่เป็นประตูขนส่งสินค้า จึงทำให้สามารถสั่งห้ามขนส่งสินค้าที่จำเป็นอย่างอาหาร ยารักษาโรคหรือแม้แต่เชื้อเพลิงเข้ามาในเขตสะกายเพื่อตอบโต้ฝ่ายต่อต้าน อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้กลับส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนในพื้นที่อย่างหนัก
ขณะที่ผู้ลี้ภัยที่ต้องตั้งที่พักพิงชั่วคราวอยู่ในป่ารายหนึ่งว่า เขาต้องอาศัยอยู่ในป่าเป็นเวลา 3 ปีแล้ว และทำการเพาะปลูกพืชตามฤดูกาล อย่างไรก็ตาม การดำรงชีวิตในป่าในช่วงหน้าฝนนั้นยากลำบากกว่าหน้าฤดูอื่นๆ เนื่องจากไม่สามารถทำงานได้เต็มที่
จากข้อมูลขององค์กร Myanmar Strategy and Policy Institute (ISP-Myanmar) พบว่า มีตัวเลขประชากรในเขตสะกายราว 5.3 ล้านคนโดยครึ่งหนึ่งของประชากรต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัย หลังกองทัพพม่ายึดอำนาจ และบ้านเมืองเข้าสู่สถานการณ์สงคราม
