เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568 นางอรนุช หล่อเพ็ญศรี รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ริมแม่น้ำกกบริเวณหาดเชียงราย จ.เชียงราย เพื่อตรวจสอบตะกอนดินจากการขุดลอกแม่น้ำ ภายหลังจากที่มีนักวิชาการทักท้วงว่าการขุดลอกดินในแม่น้ำกกและแม่น้ำสายขึ้นมาอาจเป็นการแพร่กระจายสารโลหะหนักที่ปนเปื้อนอยู่ในแม่น้ำ และยังมีการตรวจพบว่าดินที่ขุดลอกในแม่น้ำสายมีสารโลหะหนักปนเปื้อนจนไม่สามารถนำมาใช้ในบริเวณที่อยู่อาศัยได้
นางอรนุชกล่าวว่า ขณะนี้ทหารพัฒนากำลังขุดลอกดินตะกอนในแม่น้ำกกจากน้ำท่วมครั้งที่ผ่านมาซึ่งมีข้อกังวลว่าตะกอนเหล่านี้อาจมีการปนเปื้อนสารโลหะหนัก โดยกรมควบคุมมลพิษได้เตรียมทีมและเครื่องมือตรวจวัดให้ครบทุกพื้นที่เพื่อตรวจสอบว่าดินที่ขุดขึ้นมานี้มีปริมาณสารโลหะหนักเท่าไร และต้องปฎิบัติกับดินเหล่านี้อย่างไร ตลอดจนการให้คำแนะนำกับผู้ที่ใช้พื้นที่
นางอรนุชกล่าวว่า ได้นำเครื่องเอ็กซ์อาร์เอฟซึ่งสามารถตรวจวัดอย่างรวดเร็วโดยใช้เทคนิคของการเอ็กซเรย์ฉายบนผิวหน้าตะกอนซึ่งให้ผลภายใน 3-5 นาที แต่ไม่ได้ระบุชัดเรื่องปริมาณ อย่างไรก็ตามจากการตรวจวัดในเบื้องต้นพบว่าค่าสารโลหะหนักยังน้อยกว่าค่ามาตรฐาน แต่จะเก็บตัวอย่างไปตรวจสอบในแล็บอีกครั้ง อย่างไรก็ตามสามารถนำเครื่องนี้ชี้จุดที่ควรสนใจพิเศษซึ่งจะมีการวางแผนเก็บตัวอย่างดินร่วมกันอย่างเป็นระบบ
“เท่าที่ตรวจตอนนี้ยังสบายใจได้อยู่ แต่ถ้ามีค่าสูงขึ้นเราก็จะได้รู้ว่าต้องทำอย่างไรกับดินเหล่านี้ก่อนเพื่อให้ค่าลดลงถึงใช้งานได้ หรือค่าสูงต้องไม่ใช้ถาวรและต้องเก็บอย่างเดียว ข้อมูลการตรวจทำให้มีความชัดเจนว่าเราควรทำอย่างไร ที่สำคัญคือช่วยลดความกังวล เพราะการไม่มีข้อมูลชัดเจนทำให้สร้างความกังวลไปได้ไกลหลายเรื่อง ดังนั้นเอาวิทยาศาสตร์มาคุยกันดีกว่า”นางอรนุช กล่าว
ขณะที่ก่อนหน้านั้นศูนย์ข้อมูลกลางเพื่อการรับรู้และติดตามสถานการณ์น้ำเชียงราย(AIM) รายงานว่า
นายพัศพงศ์ ใจคล่องแคล่ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงราย เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อออนไลน์นำเสนอข่าวเกี่ยวกับความเสี่ยงของผู้ต้องขังในเรือนจำกลางเชียงราย จากการบริโภคน้ำที่อาจปนเปื้อนโลหะหนักว่า เรือนจำได้ตระหนักถึงข้อกังวลดังกล่าว และดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเรือนจำตั้งอยู่นอกเขตบริการของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาเชียงราย จึงจำเป็นต้องผลิตน้ำประปาใช้เอง และเมื่อมีการตั้งข้อสังเกตเรื่องคุณภาพน้ำ เรือนจำกลางเชียงราย จึงได้ประสานไปยังศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1/1 เชียงราย เพื่อตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำในห้องปฏิบัติการ
“ผลการตรวจพบสารตะกั่วปนเปื้อนเกินเกณฑ์มาตรฐานของกรมอนามัย คือ 0.011-0.015 mg./L ซึ่งค่าปกติของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข คือ 0.01 mg./L”นายพัศพงศ์ กล่าว
.
ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงรายกล่าวว่า ยังไม่พบผู้ต้องขังมีอาการป่วยจากการใช้น้ำดังกล่าวแต่อย่างใด โดยสถานพยาบาลของเรือนจำได้ส่งตัวอย่างเลือดไปตรวจที่เชียงรายแล็บคลินิก โดยเป็นการสุ่มตรวจเลือดผู้ต้องขัง 3 ราย ซึ่งมีระยะเวลาถูกควบคุมตัวในเรือนจำ 3 ปี, 5 ปี, 10 ปี และบริโภคน้ำจากแหล่งเดียวกัน ผลการตรวจเลือดยืนยันว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่พบสารตะกั่วหรือสารหนูตกค้างในร่างกาย
เรือนจำกลางเชียงราย
“เรายืนยันว่าได้ให้ความสำคัญกับสุขภาพและความปลอดภัยของผู้ต้องขังอย่างเต็มที่ และจะดำเนินมาตรการแก้ไขเรื่องคุณภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานด้านสาธารณสุขและความปลอดภัยในระยะยาว”นายพัศพงศ์ กล่าว