Search

หวั่นสารโลหะหนักลามลงแม่น้ำสาละวิน SHRF แฉทหารว้า UWSA มุ่งทำเหมืองแรร์เอิร์ธ-เจาะพรุนพื้นที่รัฐฉาน ชี้รัฐบาลทหารพม่ารู้เห็นเป็นใจเหมืองแร่ต้นแม่น้ำกก

เมื่อวันที่19 มิถุนายน 2568 มูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ (Shan Human Rights Foundation-SHRF) ได้ออกรายงานหัวข้อภาพถ่ายดาวเทียมเผยการขยายตัวของเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ ทางตอนเหนือของพื้นที่กองทัพว้าในเมืองป้อก รัฐฉาน ประเทศพม่าโดยระบุว่าภาพถ่ายดาวเทียมเปิดเผยให้เห็นที่ตั้งเหมืองแร่แรร์เอิร์ธหลายแห่ง ซึ่งเพิ่มจำนวนขึ้นถึง 8 เท่าตั้งแต่ปี 2558 ทางตอนเหนือของพื้นที่กองกำลังว้า (United Wa State Army – UWSA) ในเมืองป้อก ใกล้กับพรมแดนรัฐฉาน-ประเทศจีน ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุของการปนเปื้อนที่อันตรายต่อแหล่งน้ำในพื้นที่ โดยในปี 2558 มีเหมืองแร่แรร์เอิร์ธเพียง 3 แห่งในพื้นที่เมืองป้อก (Mong Bawk) แต่จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงที่ตั้งของเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ 26 แห่ง กระจายตัวอยู่ในเทือกเขาทางตอนใต้ของเมือง โดยเหมือง 3 แห่งตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 3-4 กิโลเมตร

รายงานระบุว่า แผนผังแหล่งทำเหมืองรอบเมืองป้อก ซึ่งประกอบด้วยบ่อแต่งแร่ที่กระจายตัวเป็นรูปวงกลม มีลักษณะคล้ายคลึงอย่างมากกับแผนผังการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธในรัฐคะฉิ่น โดยใช้วิธีชะละลาย (in situ leaching) เพื่อสกัดสินแร่แรร์เอิร์ธ ซึ่งมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่คนงานเหมืองในเมืองป้อกนำมาโพสต์ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการทำเหมืองด้วยวิธีชะละลาย ซึ่งในกระบวนการชะละลาย จะมีการเทสารเคมีผ่านท่อเข้าไปในภูเขา เพื่อสกัดแร่แรร์เอิร์ธออกจากดิน จากนั้นสารเคมีเหล่านี้จะถูกปล่อยทิ้งผ่านท่อไปยังสระน้ำและจะมีการเพิ่มสารเคมีชนิดอื่นเพื่อสกัดแร่แรร์เอิร์ธ

“กระบวนการทำเหมืองเช่นนี้ส่งผลร้ายแรงอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความปนเปื้อนต่อแหล่งน้ำบนผิวดินและใต้ดิน และคุกคามต่อสุขภาพและการประกอบอาชีพของชุมชนซึ่งอาศัยอยู่ด้านท้ายน้ำของเหมือง เหมืองแร่แรร์เอิร์ธแห่งหนึ่ง (ซึ่งเริ่มขุดเจาะตั้งแต่ปี 2565) ตั้งอยู่ด้านทิศใต้ห่างจากเมืองป้อกเพียง 3 กม. อยู่ริมลำน้ำปาย (รัฐฉาน) ซึ่งไหลผ่านสวนไร่นาและเมืองที่อยู่ตามริมฝั่ง จึงมีความเป็นไปได้อย่างมากที่แม่น้ำและแหล่งน้ำใต้ดินจะถูกปนเปื้อน คุกคามต่อสุขภาพของประชาชนในเมืองหลายพันคน” มูลนิธิไทใหญ่ระบุ

“ในช่วงที่ฝนตกหนักระหว่างเกิดพายุไต้ฝุ่นยางิ เมื่อเดือนกันยายนปี 2567 พื้นที่ตอนกลางทั้งหมดของเมืองป้อก ถูกน้ำท่วมอย่างหนัก เป็นผลมาจากน้ำที่ไหลลงมาจากภูเขาที่อยู่รอบเมือง น้ำที่ไหลเอ่อท่วมสูงถึง 3 ฟุตนี้น่าจะปนเปื้อนด้วยสารพิษ ซึ่งมาจากเหมืองแร่แรร์เอิร์ธที่อยู่ใกล้เคียง และน้ำเริ่มลดระดับลงหลังจากผ่านไป 3 วัน

“เหมืองแร่แรร์เอิร์ธในพื้นที่เมืองป้อก ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ำสายหลักสองสายในภาคตะวันออกของรัฐฉาน คือแม่น้ำสาละวิน (Salween) และแม่น้ำโขง (Mekong) น้ำจากเหมืองแร่ไหลลงทางทิศตะวันตกเข้าสู่แม่น้ำขา (Kha river) ที่ไหลไปบรรจบกับแม่น้ำสาละวินในรัฐฉาน ส่วนทางตะวันออกไหลลงสู่แม่น้ำหลวย (Lwe river) ซึ่งไหลไปบรรจบกับแม่น้ำโขงบริเวณพรมแดนรัฐฉาน-ประเทศลาว การปนเปื้อนของน้ำจากเหมืองแร่จึงไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศจีน” รายงานระบุ

รายงานของ SHRF ระบุอีกว่าในบัญชีรายชื่อเหมืองแร่ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการ (official mining permit) จากกรุงเนปิดอว์ โดยสภาบริหารแห่งรัฐ (State Administrative Council-SAC) หรือรัฐบาลทหารพม่า ในเดือนพฤศจิกายน 2564 (ซึ่งเป็นรายชื่อที่มีการเผยแพร่ล่าสุด) ไม่ปรากฏว่ามีการอนุญาตให้ประกอบการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธใกล้กับเมืองป้อก ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่าอาจมีความร่วมมือแบบทวิภาคีระหว่างกองกำลังว้ากับ

ประเทศจีน เพื่ออนุญาตให้บริษัทเหมืองแร่ที่ได้รับการสนับสนุนจากจีน สามารถขุดเจาะและจัดส่งแร่แรร์เอิร์ธ ข้ามพรมแดนจีน โดยไม่จำเป็นต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับหน่วยราชการของพม่าเลย ทั้งนี้มีความแตกต่างจากพื้นที่กองกำลังว้าทางตอนใต้ ที่มีแนวพรมแดนติดกับประเทศไทย ซึ่งยังเป็นพื้นที่ที่กองทัพ

พม่ามีบทบาทในการควบคุมพื้นที่ และการขนส่งสินแร่ต้องผ่านด่านตรวจต่างๆ ภายใต้การควบคุมของกองทัพพม่าก่อนที่จะสามารถส่งออกได้

“ด้วยเหตุดังกล่าว เหมืองแร่แรร์เอิร์ธที่ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำกกในเมืองยอน ด้านใต้ของเมืองสาด รัฐฉาน (ตรงข้าม ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่) ที่ถูกเปิดเผยเมื่อเดือนที่ผ่านนั้น จึงดำเนินการได้ภายใต้การได้รับอนุญาตและมีส่วนร่วมของรัฐบาลทหารพม่า (SAC) ด้วยอย่างชัดเจน” SHRF ระบุ

มูลนิธิไทใหญ่ระบุอีกว่าเมืองป้อก เป็นเมืองใหญ่อันดับสองตอนเหนือของกองกำลังว้า ซึ่งตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ห่างจากเมืองปางซาง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของว้าประมาณ 25 กม. เดิมเคยเป็นเพียงหมู่บ้านที่เป็นศูนย์กลางการค้าด้านเกษตรกรรมขนาดเล็ก ประชากรส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่และไทใหญ่ แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เมืองป้อกได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นแหล่งลงทุนของ คนจีน และกลายเป็น “พื้นที่พัฒนาพิเศษ” ซึ่งมีตึกสูงมากมาย ตามที่ระบุถึงในรายงานของมูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ (SHRF) ก่อนหน้านี้เรื่อง “ติดกับดักนรก: การค้ามนุษย์ การเอาคนเป็นทาสและการทรมารเยาวชน โดยแก๊งชาวจีนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐฉาน เมืองป้อก เป็นแหล่งปฏิบัติการของแก็งคอลเซ็นเตอร์ที่สำคัญในพื้นที่กองทัพว้า ก่อนที่ประเทศจีนจะเข้ามาปราบปรามอุตสาหกรรมสแกรมเมอร์บริเวณพรมแดนรัฐฉาน-ประเทศจีน ช่วงปลายปี 2566

ด้านนายพงษ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่าเห็นข่าวหลายเดือนที่ผ่านมาว่ามีมลพิษข้ามพรมแดนที่แม่น้ำกก สาย รวก โขง ก็รู้สึกกังวล เพราะที่แม่น้ำสาละวินซึ่งเป็นแม่น้ำพี่น้อง เราอาศัยอยู่ปลายน้ำก็กังวลเพราะไม่รู้ว่าที่ตอนบนของแม่น้ำสาละวินในพม่า ลำน้ำสาขาต่างๆ จะเป็นอย่างไร สถานการณ์ในพม่าเวลานี้มีการทำเหมืองแร่เยอะมาก โดยเฉพาะที่ลงทุนโดยคนจีนปัจจุบันที่แม่น้ำสาละวินชาวบ้านก็เริ่มสังเกตแม่น้ำ เพราะหลายครั้งเห็นว่ามีน้ำขุ่นลงไหลมาจากเหมืองแร่ในลำน้ำสาขาตอนยน ซึ่งเราไม่รู้ว่าคือเหมืองอะไร

“เราไม่สามารถจัดการพื้นที่ตอนบนได้เลย โดยเฉพาะในรัฐฉาน ถือว่าน่ากังวลมากๆ หากมีเหมืองแร่แรร์เอิร์ทยิ่งอันตรายต่อคุณภาพน้ำในแม่น้ำ จำเป็นต้องแก้ไขทันที” นายพงษ์พิพัฒน์ กล่าว

On Key

Related Posts