
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568 สื่อ Development Media Group ได้เปิดเผยตามรายงานขององค์กรสันนิบาตสตรีพม่า (Women’s League of Burma – WLB)ว่า มีผู้หญิงในพม่า 918 ราย ที่ถูกละเมิดใช้ความรุนแรงทางเพศ กระทำโดยทหารพม่า นับตั้งแต่มีการทำรัฐประหารในปี 2564 โดยมีการเก็บรวบรวมข้อมูลตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ถึงปลายเดือนพฤษภาคม 2568 โดยรัฐคะเรนนี ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของพม่า เป็นรัฐที่มีผู้หญิงถูกทหารพม่าใช้ความรุนแรงทางเพศมากที่สุด โดยมีตัวเลขผู้หญิงในรัฐคะเรนนีจำนวน 365 ราย ถูกทหารพม่าใช้ความรุนแรงทางเพศ รองลงมาคือเขตสะกาย จำนวน 349 ราย รัฐฉาน 102 ราย รัฐคะฉิ่น 40 ราย เขตตะนาวศรี 27 ราย รัฐชิน 23 ราย เขตย่างกุ้ง 6 ราย
นอกจากนี้ยังมีรายงานในรัฐอื่นๆอย่างรัฐกะเหรี่ยง รัฐอาระกัน เมืองเนปีดอว์ และเมืองมัณฑะเลย์ เขตมะโกย รวมทั้งสิ้น 918 ราย อย่างไรก็ตาม องค์กร WLB ระบุว่า ตัวเลขที่แท้จริงของผู้หญิงที่ถูกละเมิดทางเพศน่าจะสูงกว่าที่มีการออกมารายงาน
Lway Pakyoul Jar เลขาธิการขององค์กรสตรีชาวดาราอั้ง (Ta’ang Women’s Organisation (TWO) ซึ่งเป็นสมาชิกขององค์กร WLB เผยว่า เป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากมากที่จะหาสถานที่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิง
“มีหลายกรณีที่ผู้หญิงถูกข่มขืน ถูกฆ่า หรือแม้กระทั่งถูกฆ่าในบ้านของตัวเอง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้หญิงเหล่านั้นคิดว่าปลอดภัยที่สุดแล้ว” นักเคลื่อนไหวสตรีรายดังกล่าวยังเผยอีกว่า นับตั้งแต่รัฐประหาร ได้ทำให้เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งทั่วพม่า เช่นเดียวกัน ผู้หญิงทั่วประเทศก็กำลังเผชิญกับความเสี่ยงความรุนแรงทางเพศ นอกจากนี้ยังต้องทนอยู่ในสภาวะที่ไม่ปลอดภัยและมั่นคงทั้งทางด้านร่างกายและด้านจิตใจ
“ในภูมิภาคของเรา ผู้หญิงยิ่งต้องเผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายกว่านั้น ผู้หญิงถูกละเมิดทางเพศในระหว่างที่กำลังหลบหนีสงคราม” Lway Pakyoul Jar กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง ผู้ที่รอดชีวิตจากความรุนแรงทางเพศมักต้องเผชิญกับอุปสรรคสำคัญในการร้องเรียนผู้ก่อเหตุหรือไม่ได้รับความยุติธรรม
ด้านหน่อเซอเซอ หัวหน้าทีมสนับสนุนทางการเมืองขององค์กร WLB ระบุว่า องค์กรได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยเหลือเหยื่อของความรุนแรงทางเพศ แม้จะเผชิญกับความท้าทายและอุปสรรคหลายอย่าง ทั้งจากความขัดแย้งที่ยังคงดำเนินอยู่ในพม่า
“เนื่องจากไม่มีระบบที่เป็นรูปธรรม ในขณะที่สงครามก็ยังคงดำเนินต่อไป เรามักเผชิญกับความท้าทายมากมายเมื่อพยายามให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการสนับสนุนอื่นๆ แก่ผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงทางเพศ” หน่อเซอเซอ