Search

กรมประมงเผยผลตรวจปลาแม่น้ำกกพบเพียงพยาธิใบไม้-ไม่พบสารโลหะหนัก ผู้เชี่ยวชาญหวั่นไม่มีประโยชน์หากตรวจไม่ครบถ้วน

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2568 กรมประมงเผยผลการตรวจวินิจฉัยสัตว์น้ำจากแม่น้ำโขงและแม่น้ำกก จังหวัดเชียงราย โดยระบุว่าพบ “ปลาแค้” (Bagarius sp.) 2 ตัว มีอาการผิดปกติ เช่น มีตุ่มนูนบริเวณผิวหนัง หลังครีบ และบริเวณรอบปาก จึงส่งตรวจวินิจฉัยโรคอย่างละเอียด ผลจากห้องปฏิบัติการพบว่า ปลาทั้ง 2 มีพยาธิใบไม้ในกลุ่มไดจีน (Digenea) อยู่ในกล้ามเนื้อ ลักษณะอาการดังกล่าวเป็นอาการที่เกิดจากปรสิตในธรรมชาติ ซึ่งอาจพบได้ในปลาน้ำจืดทั่วไป

.

นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่าสำหรับการตรวจครั้งนี้ มีการสุ่มตัวอย่างสัตว์น้ำทั้งหมด 49 ตัว จาก 12 ชนิด เช่น ปลานวลจันทร์ ปลาตะเพียน ปลาบึก ปลากราย ปลาค้าว ปลาจีน ปลานิล ปลาชะโด ฯลฯ จาก 6 จุดในแม่น้ำโขง และแม่น้ำกก จังหวัดเชียงราย โดยตรวจสอบทั้งลักษณะภายนอกและทางห้องปฏิบัติการ เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันโรคในสัตว์น้ำธรรมชาติ กรมประมงได้ขยายจุดสุ่มตรวจเพิ่มจาก 4 จุด เป็น 22 จุด ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงใน จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย พร้อมกำหนดให้มีการสุ่มตรวจซ้ำทุก 2 สัปดาห์ เพื่อประเมินสุขภาพสัตว์น้ำ และสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้ประชาชน

นางฐิติพร กล่าวว่า พยาธิใบไม้ในปลาเป็นปรสิตธรรมชาติ ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคหากปรุงสุกก่อนรับประทาน และกรมประมงจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมรายงานผลให้ประชาชนทราบต่อเนื่อง

รศ.ดร. อภินันท์ สุวรรณรักษ์ อาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า การตรวจปลาของทางการไม่ได้ระบุเรื่องของสารเคมีหรือสารพิษในแหล่งน้ำ ไม่แตะเรื่องนี้เลย จึงแทบไม่มีประโยชน์อะไรทั้งสิ้น ซึ่งในการตรวจนั้นมีส่วนที่ไม่มีชีวิตคือคุณภาพน้ำ ตะกอนดิน สารเคมี และส่วนที่เกี่ยวข้องที่มีชีวิต เช่น พยาธิ ซึ่งหน่วยงานดูแค่ตรงนี้ แต่ไม่ได้ดูแร่ธาตุโลหะหนักมาวิเคราะห์ด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าการตรวจปลาในแม่น้ำที่ปนเปื้อนสารโลหะหนักควรทำอย่างไร รศ.ดร.อภินันทน์กล่าวว่า ขั้นต้นดูลักษณะตัวปลาว่าปกติหรือไม่ ดูภายนอกได้เลย และควรตรวจสอบอวัยวะภายในคือไตและตับ หากมีสารเคมีปริมาณมาก ตับก็เหลวและโครงสร้างเปลี่ยนสภาพ และในกล้ามเนื้อจะแสดงผลก็ต่อเมื่อหนักมากๆแล้ว เพราะตับมีหน้าที่ในการเก็บส่วนนี้ ดังนั้นการวิเคราะห์ต้องมีตับและไตด้วย ไม่ใช่แค่กล้ามเนื้อ สำหรับลักษณะภายนอกที่ผิดปกติ เหมือนกับเราเจอไวรัส มีอาการบวมหรืออักเสบ เมื่อผิดปกติดูว่าเป็นระยะเบื้องต้นหรือสะสม ระยะต้นก็ช้ำเลือดช้ำหนอง หากสะสมก็จะกลายเป็นเนื้อร้าย ซึ่งปลาและคนก็เหมือนกัน หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีสารพิษมากเกินไป เซลล์ต้องการขับออก เมื่อมากๆ ก็จะเห็นความผิดปกติ เป็นลักษณะทางกายภาพ

“สำหรับปลาแม่น้ำโขงที่ส่งมาจะมีการการตัดเนื้อเยื่อ คือเนื้อเยื่อที่มีการอักเสบ เพื่อตรวจว่าเซลล์ผิดปกติหรือไม่ เช่น เซลล์แตก ฉีก ก็จะทราบว่าผิดปกติ สำหรับการตรวจระดับที่สาม คือตรวจปริมาณสารเคมีที่สะสมในส่วนต่างๆ มีวิธีการที่ง่ายๆ เช่น ใช้รังสีส่องและอ่านแร่ธาตุต่างๆ เช่น มีแคมเมียม สารหนู เท่าไหร่ เป็นส่วนสำคัญที่จะทราบว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร อีกเทคนิคคือดูละเอียดทางเคมีเพื่อตรวจหาแร่ธาตุ” รศ.ดร.อภินันท์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าการตรวจของกรมประมงเป็นอย่างไร ดร.อภินันท์ตอบว่าเป็นข้อมูลตรวจหาพยาธิ ก็จะทราบว่ามีพยาธิอะไรที่เกาะตัวปลา หากตรวจอะไรก็เจอสิ่งนั้น เช่น หากตรวจหาสารพิษ ก็จะรู้ว่ามีหรือไม่มีสารพิษในปลา

สำหรับความกังวลของชาวบ้านว่าปลากินได้หรือไม่นั้น รศ.ดร.อภินันทน์กล่าวว่า ทางการได้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งขึ้นมาดูแลแล้ว ซึ่งคณะกรรมการฯชุดนี้ควรตอบคำถามประชาชนให้ได้ ซึ่งในเรื่องนี้ทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้ยินดีบริการให้ชาวบ้านเช่นเดียวกัน

———–

On Key

Related Posts

เร่งแก้ไขน้ำประปาปนเปื้อน 18 หมู่บ้าน นายก อบจ.เชียงรายเผยระบบไม่ได้มาตรฐาน-เตรียมปรับปรุงเพิ่ม-คพ.ส่งทีมตรวจลงพื้นที่ตรวจสอบทั้งหมด-เบื้องต้น 3 หมู่บ้านไม่พบสารโลหะหนัก-สำรวจหาแหล่งน้ำสะอาดแห่งใหม่