Search

เผยผลวิจัยเหมืองแรร์เอิร์ทในคะฉิ่นสุดเลวร้าย-ใช้สารเคมีรุนแรงกัดกร่อนหินไหลลงสู่ธรรมชาติทำป่าเขา-แม่น้ำหายนะ-ประชาชนเสียชีวิต นักวิจัยสตรีคะฉิ่นเตือนไทยระวัง แฉจีนตัวการใหญ่-ประเทศตะวันตกไม่สนใจที่มา

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักวิจัยสตรีชาวคะฉิ่นชื่อ Hkaw Lwi ที่ได้วิจัยเกี่ยวกับเหมืองแร่แรร์เอิร์ทในรัฐคะฉิ่น(Kachin state)  ได้ผลสรุปผลกระทบอันเลวร้ายจากการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ทไว้ว่า แม้แหล่งน้ำที่อยู่ต้นน้ำในรัฐคะฉิ่นยังปลอดภัย แต่เมื่อเก็บตัวอย่างน้ำที่อยู่ปลายน้ำจากเหมืองแร่แรร์เอิร์ทไปตรวจสอบพบโลหะหนักปนเปื้อน เช่น แคดเมียม สารหนู และพบธาตุกัมมันตรังสี เช่น ทอเรียม แม้กระทั่งในพื้นที่ที่หยุดทำเหมืองไปแล้วกว่า 10 ปีก็ยังคงปล่อยสารมลพิษอันตรายออกมา

นักวิจัยคะฉิ่น ระบุว่าผลกระทบต่อแรงงานในเหมืองนั้น ได้มีเหตุการณ์เหมืองถล่มหลายครั้ง และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก พบปัญหาผลกระทบต่อสุขภาพที่รุนแรง โดยบาทหลวงรายหนึ่งที่จัดงานศพให้คนงานหลายครั้งกล่าวว่า คนงานทำเหมืองเริ่มเจ็บป่วย หลังจากทำงานไปได้เพียงหนึ่งหรือสองปี ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยมากพบว่าคนงานมีปัญหาไตและทางเดินหายใจ ปวดหัว หนาวๆ ร้อนๆ เหมือนจะเป็นไข้ และยังพบว่ามีเด็กบางคนเสียชีวิตจากโรคที่เกิดจากทำงานในเหมือง และมีผู้หญิงจำนวนมากถูกแสวงหาประโยชน์ทางเพศ

“ประชาชนที่อาศัยรอบๆ เหมืองหรือท้ายน้ำ ไม่สามารถใช้น้ำจากแม่น้ำและลำธารได้ พวกเขาต้องสูญเสียแหล่งทำมาหากิน ที่ดินถูกทำลายจากมลพิษ พื้นที่ธรรมชาติพบการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ป่าไม้ถูกทำลายเป็นพื้นที่กว้าง”งานวิจัยระบุ

นักวิจัยยังชี้ว่า ประมาณ 60% ของแร่แรร์เอิร์ธสำคัญ 2 ชนิด คือดิสโพรเซียมและเทอร์เบียม ของโลกผลิตมาจากรัฐคะฉิ่น แร่เหล่านี้ถูกส่งไปแปรรูปที่ประเทศจีน แทบทั้งหมดถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมแม่เหล็กซึ่งผลิตโดยบริษัทจีน ช่วงปี 2020-2030 ความต้องการแม่เหล็กเหล่านี้ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า และภายในปี 2030 สองในสามของความต้องการจะมาจากรถยนต์ไฟฟ้าและกังหันลม

Hkaw Lwi สตรีนักวิจัยซึ่งปัจจุบันยังคงอาศัยอยู่ในรัฐคะฉิ่น ตอนเหนือของประเทศพม่า ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมทางออนไลน์กับ “สำนักข่าวชายขอบ”ว่า ปัจจุบันเกิดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนรุนแรงมาก โดยเหมืองเถื่อนเหล่านี้อยู่บนภูเขาสูงที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ และเคยเป็นป่าสมบูรณ์ แต่เมื่อคนจีนเข้ามาทำเหมือง สิ่งแรกที่เริ่มต้นคือตัดต้นไม้ออก และขุดหลุมบนภูเขาแล้วใส่กรดเคมีที่มีฤทธิ์รุนแรงเพื่อละลายเอาแร่ออกมา ทั้งหมดของกระบวนการนี้เพื่อสูบแร่ออกมาลงบ่อพักซึ่งมีความกว้าง 30-40 เมตร แต่ละเหมืองมี 9-10 บ่อ โดยในบ่อพวกนี้ใช้สารเคมีต่างๆ เพื่อแยกแร่ที่ต้องการ

Hkaw Lwi กล่าวว่า เหมืองของคนจีนทำลายป่าและเอาเคมีรุนแรงลงไปในดิน ทำให้ภูเขาปนเปื้อนทั้งหมด สัตว์ใหญ่สัตว์เล็กทุกชีวิตตายจนแทบไม่เหลือ บ่อเหมืองในรัฐคะฉิ่นอยู่บนภูเขาสูง พอถึงหน้าฝนเมื่อฝนตกมาก ทุกบ่อก็เต็มและน้ำล้นไหลลงแม่น้ำลำธาร ส่งผลกระทบเต็มๆ โดยเมื่อก่อนชาวบ้านเคยออกไปหาปูหาปลาได้ แต่เมื่อมีเหมืองแรร์เอิร์ทไม่มีปลาใดๆ เหลืออยู่เลย สารพิษยังลามไปถึงทุ่งนาและพื้นที่เกษตรกรรม

“คนงานที่ทำเหมืองแร่ นายจ้างชาวจีนก็ไม่ได้ดูแลใดๆ พวกเขาต้องทำงานกับสารเคมี ไม่มีเครื่องมือป้องกัน พวกเขาต้องทำงานด้วยมือเปล่า ตีนเปล่า ทำงานกับสารเคมีรุนแรงส่งผลกระทบร่างกายสุขภาพ โดยเฉพาะในกระบวนการทำแร่ให้แห้งเป็นผง จะมีกลิ่นระเหยออกมารุนแรงมาก มีควันพิษลอยแพร่กระจายไปไกล กลายเป็นมลพิษทางอากาศที่รุนแรงมาก” นักวิจัยชาวคะฉิ่น กล่าว

Hkaw Lwi  กล่าวว่า การทำเหมืองแรร์เอิร์ทในคะฉิ่นเริ่มราวปี 2016 โดยทุกๆ บริษัทเป็นของคนจีนและมีผู้จัดการเป็นคนจีน แต่ละเหมืองมีคนจีนราว 7-8 คนและคนงานท้องถิ่นประมาณ 60-70 คน คนจีนเริ่มเข้ามาที่รัฐคะฉิ่นเพื่อสำรวจตามป่าเขาต่างๆ ตรวจหาแร่ ขุดดูแร่บนดอย เก็บเอาตัวอย่างแร่ เพื่อดูว่าภูเขาลูกไหนมีแร่ แล้วก็มาทำเหมือง คนจีนรู้ทุกอย่าง ขณะที่คนงานเป็นคนพื้นที่ซึ่งในรัฐคะฉิ่นกำลังมีการสู้รบ ประชาชนต้องดิ้นรน เพื่อความอยู่รอดจึงต้องหางานทำงานในเหมืองแม้เสี่ยง แต่ก็ไม่มีทางเลือกเพราะต้องการรายได้

นักวิจัยคะฉิ่นกล่าวถึงสาเหตุที่คนจีนเข้ามาทำเหมืองแร่ในรัฐคะฉิ่นเพราะในประเทศจีนมีกฎหมายเหมืองแร่ที่เข้มงวดมาก หากจะทำให้ถูกต้องโดยจัดการสิ่งแวดล้อมตามกฏหมายก็จะเสียค่าใช้จ่ายที่สูงมาก แต่ในรัฐคะฉิ่นไม่มีกฎหมายแบบนั้น คนจีนจึงมาทำกันได้อย่างสบาย และค่าแรงก็ถูก แถมทำเลยังอยู่ใกล้ชายแดนจีนซึ่งเดินทางมาง่าย เมื่อขุดแร่ได้แล้วก็ส่งกลับไปจีนสะดวก โดยเหมืองแร่ทั้งหมดอยู่ในพื้นที่สู้รบ conflict areas ที่เหมือนไม่มีกฎหมายซึ่งบริษัทจีนได้อาศัยโอกาสแบบนี้ทำธุรกิจ

“เขาต้องขนแร่กลับไปจีน เพราะกระบวนการแต่งแร่ต้องใช้อุปกรณ์และเทคนิคสูง ยากที่จะมาสร้างโรงงานที่รัฐคะฉิ่นเพราะเป็นเขตสู้รบ ไม่มั่นคง มีความเสี่ยง ในคะฉิ่นมีแร่แรร์เอิร์ทหนัก heavy rare earth คือดิสโพรเซียมและเทอร์เบียม” นักวิจัยคะฉิ่น กล่าว

Hkaw Lwi  กล่าวว่าตอนรัฐบาลพม่ามาจากพลเรือนที่นำโดยพรรคสันนิบาติ NLD โดยนางอองซานซูจี ช่วงนั้นประชาชนสามารถพูดได้บ้าง โดยมีการประท้วงที่เมืองชิบเบว และส่งหนังสือร้องเรียนถึงรัฐบาลเนปีดอว์ ซึ่งรัฐบาลก็ส่งคนมาดูเหมืองแร่โดยมีการปิดเหมืองอยู่ระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตามคนจีนก็พยายามให้สินบนเจ้าหน้าที่โดยให้ของขวัญต่างๆ จึงไม่สามารถปิดเหมืองได้อย่างแท้จริง

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีคำแนะนำใดสำหรับชาวเชียงรายและท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ที่กำลังเผชิญชะตากรรมเช่นประชาชนคะฉิ่น นักวิจัยผู้นี้กล่าวว่า จากประสบการณ์ที่รัฐคะฉิ่น เราเคยมีลำธาร เราเคยมีแม่น้ำที่ไหลมาจากภูเขาหล่อเลี้ยงชุมชน แต่ต้องถูกทำลายเพราะเหมืองแร่จีน เช่นเดียวกับเหมืองแร่จีนที่กำลังเกิดขึ้นที่ต้นแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย ที่มีสารเคมีรุนแรงไหลลงแม่น้ำ และไหลสู่เมืองไทย ทำให้น้ำไม่ปลอดภัย จึงไม่ควรใช้น้ำอย่างเด็ดขาด อยากเตือนให้คนไทยระมัดระวัง

“ประชาชนคะฉิ่นอยู่ในพื้นที่สู้รบ เรามีเครื่องมือไม่พอที่จะตรวจโรคต่างๆ หรือสารปนเปื้อนในร่างกายของประชาชน เราไม่มีเหมือนประเทศไทย ในรัฐคะฉิ่นการลงพื้นที่ก็ยากมาก เสี่ยงตาย ฉันต้องแอบไปเพื่อเก็บตัวอย่างน้ำมาตรวจ” นักวิจัย กล่าว

สตรีชาวคะฉิ่นผู้นี้กล่าวด้วยว่า ได้สัมภาษณ์หญิงรายหนึ่งและลูกชายอายุ 15 ปี ที่ไปทำงานในเหมืองแร่ เพียงแค่ไม่กี่เดือนหญิงรายนี้ก็ป่วยจึงต้องกลับมาอยู่บ้าน ต่อมาอีกเพียง 3 เดือนลูกชายก็เสียชีวิตโดยแม่บอกว่าได้พาลูกไปโรงพยาบาล แต่โรงพยาบาลในเขตนั้นก็รักษาเท่าที่ทำได้ โดยแพทย์แจ้งว่าทางเดินอาหารและลำไส้เน่าหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่าเคยมีการนำความชั่วร้ายจากเหมืองแร่แรร์เอิร์ทแจ้งให้สังคมโลกรับรู้บ้างหรือไม่ นักวิจัยสตรีชาวคะฉิ่นกล่าวว่า ได้เคยนำเสนอในที่ประชุมกลุ่มประเทศ OECD (Organization for Economic Co-operation and Development -องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา ซึ่งสมาชิกมี 38 ประเทศ) เรื่องห่วงโซ่อุปทานแรร์เอิร์ทในพม่า แต่ยากมากที่จะกดดันได้จริง เพราะประเทศแถบยุโรปที่แม้กำลังพัฒนาไปสู่พลังงานสีเขียวแต่ก็ต้องใช้แรร์เอิร์ทจากจีนที่มาจากรัฐคะฉิ่น โดยบริษัทมักอ้างว่า ยากที่จะพิสูจน์ว่าเป็นแรร์เอิร์ทที่มาจากพม่า เพราะพวกเขาซื้อรวมๆ มาจากจีน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัจจุบันพื้นที่ทำเหมืองแรร์เอิร์ทถูกกองกำลังคะฉิ่น (Kachin Independent Army-KIA) ยึดได้แล้วมีการเปลี่ยนแปลงบ้างหรือไม่  Hkaw Lwi กล่าวว่ากองกำลังคะฉิ่นเองก็พยายามมาก พวกเขาต้องสู้รบกับกองทัพพม่ายาวนานหลายปี ซึ่งจำเป็นต้องมีรายได้ให้กองกำลัง แต่ก็ควรจัดการให้ดีขึ้น ซึ่งตนเห็นว่ากำลังพยายามกันอยู่ แต่ก็ยังช้า 

///////////////////////////////

On Key

Related Posts