ผศ.ดร.เสถียร ฉันทะ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย
สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 เชียงใหม่ รายงานผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำในแม่น้ำกกและลำน้ำสาขา รวมทั้งแม่น้ำสาย แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง ครั้งที่ 5 (9-13 มิถุนายน 2568) พบสารโลหะหนักไม่ใช่เพียงสารหนู แต่ยังมีตะกั่วและแมงกานีส
1.แม่น้ำกก
-สารหนู มีการตรวจพบค่าสูงเกินมาตรฐาน และผลการตรวจวัดครั้งที่ 4 พบว่า สารหนู มีค่าสูงเกินค่ามาตรฐานฯ ทุกจุด และผลการตรวจวัดครั้งที่ 5 ตั้งแต่บริเวณชายแดนไทย – พม่า อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ จนถึงบริเวณ อ.เมือง จ.เชียงราย พบว่า สารหนูเกินค่ามาตรฐานฯ ทุกจุดและบางจุดมีค่าสูงมากถึง 3-4 เท่าของค่ามาตรฐาน ได้แก่จุดบ้านจะเค้อ พบ 0.47 mg/L (ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 0.01 mg/L ) จุดสะพานมิตรภาพแม่ยาว-ดอยฮางพบ 0.36 mg/L จุดบ้านโป่งนาคำพบ 0.33 mg/L
จุดที่ผ่านฝายเชียงรายจนถึง ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน มีค่าเป็นไปตามมาตรฐานฯ ยกเว้น สะพานริมกก-เวียงเหนือรวมใจ พบ 0.011 mg/L สูงเกินค่ามาตรฐานฯ
-แมงกานิส มีการตรวจพบจุดบ้านจะเค้อ 1.6 mg/L (ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 1.0 mg/L) จุดสะพานมิตรภาพแม่ยาว-ดอยฮางพบ 1.6 mg/L จุดบ้านโป่งนาคำพบ 1.5 mg/L
–ตะกั่ว ตรวจพบสารตะกั่วในแม่น้ำกกนั้นครั้งที่ 1 พบเพียง 1 จุดที่เกินค่ามาตรฐานตรงชายแดนไทย-พม่าพบ 0.76 mg/L (ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 0.05 mg/L ) แต่การตรวจครั้งที่ 5 พบว่ามีการตรวจพบเพิ่มขึ้นใน 4 จุดคือ จุดบ้านจะเค้อ พบ 0.82 mg/L จุดสะพานมิตรภาพแม่ยาว-ดอยฮางพบ 0.78 mg/L จุดบ้านโป่งนาคำพบ 0.69 mg/L และจุดสะพานแม่ฟ้าหลวงพบ 0.64 mg/L
2.แม่น้ำสาย
-สารหนู ตรวจพบค่าสูงเกินมาตรฐานทั้ง 3 จุด และพบว่ามีค่าสูงเกินค่ามาตรฐาน 4 เท่าของค่ามาตรฐานกำหนด คือจุดบ้านหัวฝาย พบ 0.41 mg/L(ค่ามาตรฐาน 0.01 mg/L) สะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 2 พบ 0.44 mg/L และบ้านป่าซางงามพบ 0.29 mg/L
-แมงกานิส ตรวจพบจุดบ้านหัวฝาย พบ 1.2 mg/L (ค่ามาตฐาน 1.0 mg/L) และสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 2 พบ 1.2 mg/L
-ตะกั่ว ตรวจพบ 2 จุดคือบ้านหัวฝาย พบ 0.81 mg/L(ค่ามาตรฐาน 0.05 mg/L) และสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 2 พบ 0.83 mg/L ส่วนจุดบ้านป่าซางงามพบ 0.49 mg/L
3.แม่น้ำรวก แม้เริ่มมีการเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อตรวจคุณภาพในครั้งที่ 5 แต่พบว่ามีสารหนูเกินค่ามาตรฐานทุกจุด
4.แม่น้ำโขง พบค่าสารหนูสูงเกินมาตรฐานทุกจุดและมากกว่า 3-4 เท่าของค่ามาตรฐานที่กำหนด โดยจุดผ่านแดนสามเหลี่ยมทองคำพบ 0.45 mg/L จุดตำบลเวียงเชียงแสนพบ 0.44 mg/L และจุดบ้านสบรวกพบ 0.36 mg/L
จากผลการตรวจล่าสุด ทำให้เราทราบว่าสถานการณ์การปนเปื้อนสารโลหะหนักในแม่น้ำทั้ง 4 สายนั้นมีความเข้มข้นของปริมาณสารโลหะหนักที่สูงขึ้น และมีการตรวจพบเกือบจะทุกจุดที่ทำการเก็บตัวอย่างน้ำโดยเฉพาะสารหนู นอกจากนี้ยังมีการตรวจพบสารตะกั่วและแมงกานิสซึ่งเป็นสารที่มีความเป็นพิษสูงต่อสิ่งมีชีวิตเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นถึงผลกระทบดังนี้
1.การแพร่กระจายของสารโลหะหนัก โดยเฉพาะสารหนูนั้นได้แพร่กระจายแบบเต็มพื้นที่ของตัวระบบนิเวศแม่น้ำแล้ว ซึ่งยืนยันได้จากผลการตรวจคุณภาพน้ำตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงครั้งล่าสุด โดยแม่น้ำทุกสายทั้งกก สาย รวกและโขงมีการปนเปื้อนสารหนูทุกจุด
2.ความเข้มข้นของปริมาณสารหนูเพิ่มขึ้นเกือบทุกจุดที่เก็บตัวอย่างน้ำ มีเพียงสองจุดคือแม่น้ำกกตรงจุดสะพานริมกก-เวียงเหนือรวมใจที่ลดลงจาก 0.20 mg/L ในครั้งที่ 4 เป็น 0.11 mg/L และแม่น้ำสายตรงจุดบ้านป่าซางงามที่ลดลงจาก 0.31 mg/L เป็น 0.29 mg/L หมายความว่าปริมาณสารหนูที่ตรวจพบในแม่น้ำทั้ง 4 สายนั้นมีปริมาณความเข้มข้นที่พบมากขึ้น ย่อมจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ห่วงโซ่อาหาร และย่อมกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนหากสัมผัสน้ำจากแหล่งที่มีความเข้มข้นของสารหนูที่สูง
3.การปนเปื้อนสารโลหะหนักที่มีพิษสูงอย่างตะกั่ว และแมงกานิสในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย แสดงให้เห็นถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนที่อาจจะได้รับผลกระทบหากสัมผัสหรือใช้ประโยชน์จากน้ำแหล่งปนเปื้อนที่มีค่าสูงเกินค่ามาตรฐานในพื้นที่ที่ตรวจพบ โดยตะกั่วและแมงกานิสที่ตรวจพบนั้น ปรากฏอยู่ในพื้นที่เดียวกันของแม่น้ำกกคือ ตะกั่วพบจุดบ้านจะเค้อ พบ 0.82 mg/L จุดสะพานมิตรภาพแม่ยาว-ดอยฮางพบ 0.78 mg/L จุดบ้านโป่งนาคำพบ 0.69 mg/L และตะกั่วพบที่จุดสะพานแม่ฟ้าหลวงพบ 0.64 mg/L (ค่ามาตรฐาน 0.05 mg/L) จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐต้องออกประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่งดเง้นการใช้น้ำจากแหล่งน้ำดังกล่าวในการอุปโภคบริโภคและการใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ และสารพิษนี้ยังจะเข้าสู่ระบบนิเวศและห่วงโซ่อาหารและวนมาสู่มนุษย์ในท้ายที่สุด
4.ผลการตรวจครั้งแรกและครั้งล่าสุดเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญที่เป็นสิ่งที่บ่งชี้ถึงการปนเปื้อนของสารโลหะหนักในแม่น้ำทั้ง 4 สายที่รัฐต้องเร่งดำเนินการวิเคราะห์และสังเคราะห์เพื่อจัดทำฐานข้อมูลและเอกสารทางวิชาการบนการอ้างอิงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมในการนำไปใช้เป็นข้อเจรจากับการหยุดแหล่งกำเนิดคือเหมืองแร่ในรัฐฉานกับจีน เมียนมาและกองทัพว้า อย่างเร่งด่วน
5.ผลการตรวจครั้งแรกและครั้งล่าสุดเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญยิ่งที่รัฐต้องพิจารณาอย่างเร่งด่วนในการวางมาตรการเชิงรุกในการวางแผนการบริหารจัดการความเสี่ยงเพื่อรับมือกับที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ลุ่มน้ำทั้ง 4 แห่ง ทั้งภาคการบริการ ภาคการเกษตร และการใช้ประโยชน์จากน้ำของประชาชน
6.รัฐต้องเร่งดำเนินการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำทั้งสี่แห่งต่อสถานการณ์การปนเปื้อนของสารโลหะหนักในแม่น้ำที่อยู่บนพื้นฐานของความจริงและวางมาตรการแนวทางการในการช่วยเหลือดูแลและแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและเร่งด่วน
7.มีความจำเป็นที่ต้องแนะนำในการตรวจคุณภาพน้ำแม่น้ำโขงต่อจากพื้นที่เชียงแสนลงไป อย่างน้อยในเขตชายแดนไทยของจังหวัดเชียงรายทั้งอำเภอเชียงของและเวียงแก่นเพื่อดูการปนเปื้อนของสารโลหะหนักเหล่านี้ว่ามีผลอย่างไรบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลในการนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆต่อไป
8.สุดท้ายอย่าให้ประชาชนตายผ่อนส่งโดยมิรู้ว่าตนเองนั้นไม่ได้รับความจริงและการดูแลอย่างจริงใจจากรัฐเลย โดยเฉพาะข้อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งหาทางยุติการทำเหมืองแร่ที่ต้นแม่น้ำ