สำนักข่าวออนไลน์ รายงานว่า นายไซสมพอน พมวิหาน ประธานสภาแห่งชาติลาว ได้ลงนามในคำสั่งให้ยุติโครงการลงทุนการสำรวจ ขุดค้น แร่โปแตช เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา รวมถึงโครงการที่กำลังดำเนินการสำรวจอยู่ และโครงการที่ศึกษาสำรวจความเป็นไปได้ด้านเศรษฐกิจและเทคนิค ในเขตนครหลวงเวียงจันทน์ ส่วนโครงการที่ดำเนินการไปแล้ว ให้มีการตรวจสอบ ประเมินผลต่อโครงการสัมปทาน ที่ละเมิดกฎหมายและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือไม่มีการชดเชย โดยมอบให้รัฐบาล โดยกระทรวงอุตสาหกรรมการค้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติอย่างเข้มงวด เสนอให้คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องของสภาแห่งชาติ และคณะอื่นๆ นำไปปฏิบัติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุผลหลักของการออกคำสั่งฉบับนี้ เนื่องจาก สภาได้ผ่านการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนต่อหนังสือที่เสนอโดยสภาประชาชนนครหลวงเวียงจันทน์ เมื่อการประชุมสภาแห่งชาติ ประจำเดือนสิงหาคม 2024 โดยได้เกิดปรากฏการณ์รอยแยก และดินยุบสร้างความเสียหายแก่ชุมชน บ้านเรือนที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกินของประชาชนในเขตบ้านทุ่งมั่ง เมืองไซทานี นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งในอนาคตจะเกิดดินยุบ รอยแยกเป็นวงกว้าง จะสร้างความเสียหาย
อนึ่ง สปป.ลาว มีแร่โปแตชสำรองในประเทศประมาณ133 ล้านตัน ถือว่ามากเป็นอันดับสามของโลกรองจากรัสเซียและแคนาดา ปัจจุบันการทำเหมืองขนาดใหญ่อยู่ที่แขวงคำม่วน ตอนกลางของประเทศ และเหมืองที่นครหลวงเวียงจันทน์ ปัจจุบันมีสองบริษัทใหญ่จากจีนคือ คือบริษัท Asia-Potash International และ Sino-Agri Potash ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเดียวกันที่ได้รับอนุญาตในการสำรวจและทำเหมืองในลาว เมื่อปี 2024 รัฐบาลลาวมีแผนจะตั้งโรงงานผลิตปุ๋ยเคมี 3 แห่งคือ ในนครหลวงเวียงจันทน์ 1 แห่งและแขวงคำม่วน 2 แห่ง และได้ออกใบอนุญาตสำรวจ ขุดค้นเหมืองแร่กว่า 18 บริษัท ในพื้นที่ 162,260 เฮกตาร์ ในพื้นที่นครหลวงเวียงจันทน์ แขวงเวียงจันทน์ คำม่วนและสะหวันนะเขต แต่เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2024 ได้เกิดหลุมยุบขนาดใหญ่ในพื้นที่นาข้าวของชาวบ้าน ใกล้กับพื้นที่ทำเหมืองของบริษัทจีนแห่งหนึ่ง ในแขวงคำม่วน ทำให้รัฐบาลต้องชะลอการทำเหมืองและสำรวจความเสียหายจากแผ่นดินยุบดังกล่าว
