Search

ไทย-กะเหรี่ยงร่วมกันปลูกป่าริมแม่น้ำสาละวิน-จุดเริ่มต้นความร่วมมือหลากหลาย

เมื่อวันที่ 19 กรกรฎาคม 2568 นายพงษ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่าเมื่อวานนี้ (18 กรกฎาคม 2568) ได้มีการจัดกิจกรรมอนุรักษ์ปลูกต้นไม้ฟื้นฟูป่า ที่ฐานปฏิบัติการซอแลท่า ฝั่งรัฐกะเหรี่ยง ตรงข้ามท่าเรือบ้านแม่สามแลบ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดมือตรอ นายอำเภอปือโซ และมีบังคับการกองพลที่ 5 ของกองกำลังกะเหรี่ยง Karen National Liberation Army (KNLA) ของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union-KNU) ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สามแลบ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง โดยมีชาวบ้านจากบ้านแม่สามแลบพร้อมชาวบ้านฝั่งรัฐกะเหรี่ยงเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างคึกคักกว่า 200 คน

“กิจกรรมครั้งนี้เป็นการอนุรักษ์ร่วมกันของชาวบ้านสองฝั่งแม่น้ำสาละวิน เพื่อสร้างความร่วมมือกันฟื้นฟูและดูแลผืนป่าแม่น้ำสาละวิน สร้างความร่วมมือในการจัดการไฟป่าทั้งสองฝั่ง เนื่องจากสาละวินเป็นแม่น้ำใหญ่ที่หล่อเลี้ยงประชนจำนวนมาก มีระบบนิเวศเชื่อมโยงหากัน เช่นเดียวกับประชาชนสองฝั่งก็เป็นเครือญาติและในวันนี้เป็นพลังร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ”นายกอบต.แม่สามแลบ กล่าว

นายพงษ์พิพัฒน์กล่าวว่า กิจกรรมนี้ เป็นการสร้างความเข้าใจในการจัดการทรัพยากรร่วมกัน เพราะป่าไม้สำคัญสำหรับการดำรงชีพของประชาชนทั้งฝั่งไทยและกะเหรี่ยง เราปลูกต้นไม้ในวันนี้และร่วมกันรักษาเพื่อให้ลูกหลานได้ใช้ประโยชน์ต่อไป โดยมีเด็กนักเรียนนั่งเรือเดินทางมาร่วมกิจกรรมกันอย่างเต็มอกเต็มใจ ซึ่งการได้ร่วมมือกันให้วันนี้จะนำไปสู่การสานต่อความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ตามแนวชายแดนสองฝั่งแม่น้ำสาละวิน

“เราสามารถส่งเสริมการค้าชายแดน ร่วมกันการป้องกันยาเสพติดและปราบปรามสิ่งผิดกฎหมาย และยังมีปัญหาหมอกควันจากไฟป่า ซึ่งเป็นปัญหามลพิษข้ามพรมแดน การสร้างความเข้าใจในการจัดการไฟป่าสำคัญมาก ในฤดูแล้งที่มีปัญหาฝุ่นควันมลพิษ PM 2.5 เมื่อปีที่ผ่านมา ภาพถ่ายดาวเทียมชี้ให้เห็นชัดมากว่าฝั่งสาละวินรัฐกะเหรี่ยงแทบไม่มีจุดความร้อน hot spot เลยเพราะเขามีการจัดการไฟป่าที่ดีมากและมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างเต็มที่” นายกอบต.แม่สามแลบกล่าว

ขณะที่เพจของเครือข่ายสิ่งแวดล้อมและสังคมกะเหรี่ยง (Karen Environmental and Social Actions Network-KESAN) รายงานว่า เดือนกรกฎาคมเป็นเดือนที่ชาวกะเหรี่ยงร่วมใจกันอนุรักษ์ต้นไม้ ผืนป่า และทรัพยากรธรรมชาติ โดยมีส่วนร่วมจากประชาชนร่วมกันปลูกต้นไม้เป็นสัญลักษณ์ว่าจะร่วมกันดูแลปกป้องระบบนิเวศที่ทรงคุณค่า เป็นมีความสำคัญต่ออนาคต โดยมีกิจกรรมฟื้นฟูป่าไม้ลุ่มน้ำสาละวินในหลายตำบลในเขตพื้นที่ของกองกำลังกะเหรี่ยง KNU

ทั้งนี้ป่าสาละวินในฝั่งรัฐกะเหรี่ยง ได้รับการประกาศเป็นอุทยานสันติภาพสาละวิน (Salween Peace Park) ซึ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติ เพื่อรักษามรดกทางวัฒนธรรมของชาวกะเหรี่ยงและสัตว์ป่ารวมทั้งลุ่มแม่น้ำสาละวิน และแสดงให้เห็นถึงวิธีการที่ชาวกะเหรี่ยงสามารถจัดการที่ดินและป่าไม้ของตนได้อย่างยั่งยืนตลอดจนปกป้องสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ โดยมีพื้นที่ 5,400 ตารางกิโลเมตร อุทยานสันติภาพสาละวินได้รับการยกย่องจากนานาชาติ รวมทั้งสหประชาชาติ UNEP และได้รับรางวัลสิ่งแวดล้อม Goldman Environmental Prize

อนึ่ง “ซอแลท่า” ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสาละวินตรงข้ามบ้านแม่สามแลบ โดยเมื่อปี 2564 ได้มีกรณี “ข้าวสาร 700 กระสอบ” ที่มีการขนส่งเสบียงของทหารพม่าจากเมืองเมียวดี ตรงข้าม จ.ตาก ข้ามสะพานมิตรภาพผ่านถนนฝั่งไทย เพื่อส่งไปยังฐานทหารพม่าตามแนวชายแดนริมแม่น้ำสาละวินโดยนำมากองไว้ที่ท่าเรือแม่สามแลบ แต่เมื่อข้อมูลหลุดไปเป็นข่าว ทำให้ทางการไทยถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เนื่องจากใช้แผ่นดินไทยเป็นที่ลำเลียงเสบียงให้กับทหารพม่า ต่อมากองกำลังทหารกะเหรี่ยง KNU ได้ผลักดันฐานทหารพม่าออกไปจากริมแม่น้ำสาละวินทั้ง 14 แห่ง โดยเฉพาะบริเวณซอแลท่าเป็นฐานทหารพม่าแรกๆที่ถูกขับไล่ และต่อมา KNU ได้ติดอักษร Welcome to Kawhtoolei แปลว่า ยินดีต้อนรับสู่รัฐกะเหรี่ยง กลายเป็นจุดถ่ายภาพที่บรรดานักท่องเที่ยวต่างให้ความสนใจ