เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ชาวบ้านหมู่ 7 บ้านห้วยปลิง ต.ราชกรูด อ.เมือง จ.ระนอง ประกาศจะเดินเท้าคัดค้านโครงการแลนด์บริดจ์ และ SEC สืบเนื่องจากการเตรียมจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นในวันที่ 5 สิงหาคม นี้ ใน อ.เมือง จ.ระนอง และวันที่ 6 สิงหาคม ในพื้นที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร โดยชาวบ้านที่คัดค้านโครงการระบุว่า โครงการจะสร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อที่อยู่อาศัย ที่ทำมาหากินของชาวบ้านทุกพื้นที่ของโครงการ ตั้งแต่เกาะพยาม จ.ระนอง ไปจนถึง อ.หลังสวน จ.ชุมพร
ม๊ะทม สินสุวรรณ ชาวบ้านกล่าวว่า จะต้องเดือดร้อนมากๆ จากโครงการนี้ เพราะที่ตั้งของโครงการอยู่ใจกลางอ่าวอ่างโดยเฉพาะดอนตาแผ้วที่เป็นจุดที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก เป็นพื้นที่ทำกินของชาวบ้านมาจำนวนมาก หลายชั่วอายุคน
“ม๊ะทม ไม่รู้ว่าจะพึ่งใครแล้ว วันนี้เลยมาบอกกล่าวกับหลุมศพของโต๊ะหยีสิม ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะสน ใจกลางอ่าวอ่าง และเป็นที่ตั้งของท่าเรือ ในโครงการแลนด์บริดจ์ ที่เป็นที่เคารพของชาวบ้านให้ช่วยดูแลลูกหลาน ให้ประสบความสำเร็จ โดยให้โครงการนี้ยกเลิกไป เพราะพวกเราเดือดร้อนมาก ลูกหลานจะอยู่กันไม่ได้”ม๊ะทม กล่าว
ขณะที่ นางเบญจวรรณ ทับทิมทอง อดีตข้าราชการครู ตัวแทนของเครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ กล่าวว่า เมื่อทะเลถูกถม ชาวบ้านในพื้นที่ก็ได้รับผลกระทบหมดเลย ส่วนคนพะโต๊ะจะได้รับกระทบเรื่องการทำเกษตรกร ซึ่งในพื้นที่มีทั้งสวนปาล์ม ยางพารา ผลไม้เช่นทุเรียน มังคุด ลองกอง ลางสาด เงาะ และ พืชเศรษฐกิจอื่น ๆ เช่นกาแฟ ที่จะได้รับผลกระทบ
“หลายคนคิดว่าเกษตรกรยากจน แต่มันไม่ได้เสมอไป เพราะว่ารายได้จากทุเรียนปีที่แล้วหมื่นกว่าล้านที่เข้ากระเป๋าชุมชน พอโลกรวน รายได้ก็น้อยลง แต่เข้ากระเป๋าชาวบ้านหมด แต่ว่า แลนด์บริดจ์ รายได้ไม่ได้มาที่ชาวบ้าน เงินไปที่นายทุนต่างชาติ และจะเกิดการเข้ามาแย่งที่ดิน ทรัพยากรคนในพื้นที่ เราเห็นว่ามันไม่ยุติธรรมกับพวกเราชาวบ้าน เราเลยออกมาเดินพร้อมกับม๊ะทม” คุณเบญจวรรณ กล่าว
ในขณะที่ นายก้อย ทะเลลึก กล่าวว่าตนเป็นชาวมอแกนอยู่เกาะพยาม ก็จะได้รับผลกระทบเพราะชาวเลทำมาหากินที่อ่าวอ่างกันทั้งนั้น
“ที่ดอนตาแผ้ว เป็นพื้นที่ที่ไม่ลึกมากในทะเลระนอง ในบริเวณอ่าวอ่าง ทำให้การทำมาหากินทำได้ปลอดภัยกว่าการออกเรือไปทะเลเปิด ปัจจุบันชาวเลมีเพียงเรือลำเล็กๆ ที่ไม่สามารถสู้คลื่นลมแรงๆ ได้ จึงจำเป็นต้องหาพื้นที่ปลอดภัยในการทำประมง นี่เป็นแหล่งที่มั่นสุดท้ายของชาวเลแล้ว”นายก้อยกล่าว
นายก้อย กล่าวว่า ตนประมาณคร่าวๆ ว่าจะมีสัตว์น้ำ ประมาณ 200 ชนิดที่ได้รับผลกระทบ หลายอย่างหายาก เช่น เต่า พะยูน วาฬ ม้าน้ำ หอย หมึก ปลาจำนวนมาก
ทั้งนี้ชาวบ้านประกาศ เดินไปคัดค้านการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น โดยจะเริ่มเดินเท้าในวันที่ 2 – 5 สิงหาคม ระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร ซึ่งจะมีเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลความกังวลของประชาชนในช่วงพักการเดินตลอดเส้นทาง
—————–
