Search

เดินเท้าหยุดแลนด์บริดจ์วันแรกสุดอบอุ่น ชาวบ้านหลากหลายพื้นที่ร่วมขบวน นักวิชาการชี้ EHIA ไร้คุณภาพ แฉข้อมูลขัดแย้งข้อเท็จจริง

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 เวลา 8.00 น. ชาวบ้านระนองประกาศเจตนารมณ์เดินปกป้องแผ่นดินเกิด ก่อนเริ่มต้นเดินเพื่อหยุดเวทีรับฟังความคิดเห็น (ค 3) ที่จะจัดขึ้นวันที่ 5 สิงหาคมที่จะถึงนี้

นางทม สินสุวรรณ หรือม๊ะทม ผู้นำขบวนกล่าวว่า เรากำลังจะเดือดร้อนเพราะอาจไม่มีที่อยู่ที่ทำกินจึงจะเดินเท้าไปหยุดโครงการแลนด์บริดจ์ และ SEC

หลังจากนั้นม๊ะทมได้นำขบวนออกเดินในทันที โดยเริ่มต้นมีชาวบ้านในพื้นที่ และเครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ ร่วมเดินประมาณ 15 คน หลังจากนั้นมีคนจากหลากหลายพื้นที่เข้ามาร่วมเดินจำนวนมาก โดยในช่วงก่อนพักเที่ยง มีคนร่วมขบวนราว 50 คน

น.ส.ดารารัตน์ ชิดเอื้อ ตัวแทนเครือข่ายรักษ์ระนอง ได้อ่านแถลงการณ์ โดยตอนหนึ่งระบุว่า เครือข่ายรักษ์ระนอง เป็นเพียงประชาชนในพื้นที่กลุ่มเล็กๆ ที่มีทั้งชาวประมงพื้นบ้าน ชาวเลมอแกน ชาวสวน คนไทยพลัดถิ่น เรายืนยันมาตลอดว่า นโยบายการพัฒนาของรัฐบาล กำลังสร้างความเหลื่อมล้ำระหว่างประชาชนในพื้นที่กับนักลงทุนต่างชาติในประเทศนี้ให้มีช่วงว่างห่างออกไปยิ่งขึ้น

“พวกเราจึงจะยืนหยัดที่จะส่งเสียงเล็กๆนี้ ออกไป การเดินเพื่อปกป้องทะเล ผืนป่า ชุมชน คนสองฝั่ง ระหว่างวันที่ 2 – 5 สิงหาคมนี้ ก็จะเป็นการส่งเสียงของพวกเราและมิตรสหายทั้งหลาย ไปยังผู้มีอำนาจให้ได้รับรู้ถึงความไม่เป็นธรรมจากการพัฒนาที่กำลังสร้างความเหลื่อมล้ำ โดยไม่มีพวกเราอยู่ในสมการเหล่านั้นเลย เราจึงจะขอใช้ 2 ตีนที่พวกเรามี ย่ำย่างไปบนถนนจากอ่าวอ่างซึ่งเป็นจุดก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกฝั่งนี้ไปยังอำเภอเมืองจังหวัดระนองอย่างสงบ เพื่อเชื้อเชิญประชาชนผู้รักความเป็นธรรมทั้งหลายได้ออกมาส่งเสียงร่วมกับพวกเราไปพร้อมๆกัน”แถลงกานณ์ ระบุ

ทั้งนี้เมื่อประชาชนเริ่มออกเดิน ได้มีตำรวจทั้งในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบรวมถึงรถตำรวจมาติดตามดูแลความปลอดภัย ก่อนที่จะแยกตัวออกไปเมื่อเห็นว่าขบวนเดินไปตามปกติ โดยขบวนได้หยุดพักเป็นระยะ เนื่องจากนางทม สินสุวรรณ ซึ่งมีอายุ 66 ปี มีอาการเหนื่อยหอบ อย่างไรก็ตาม นางทม ยืนยันว่าจะเดินไปจนถึงปลายทาง เพื่อคัดค้านการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นที่ไม่เป็นธรรมนี้

ด้าน ดร.อาภา หวังเกียรติ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์และสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยรังสิตได้ร่วมในเวทีชำแหละ EHIA เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมาโดย ระบุว่า เจอข้อบกพร่องในรายงาน EHIAเยอะมาก มีทั้งลักษณะที่เชื่อว่าไม่ถูกหลักวิชาการ การคัดลอกข้อมูลมาวาง เช่น ในเอกสารรายงานหน้าเดียวกัน ระบุ ทั้งจังหวัดระนอง ระยอง ชลบุรีทั้งที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง

ภาพโดย ณัฐพล พันธ์พงษ์สานนท์

“การที่รายงานเลือกขอบเขตการศึกษาในรัศมี 5 กิโลเมตร กับโครงการใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีความถูกต้องเลย รัศมี 5 กิโลเมตร ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทางทะเล ในขณะเดียวกัน รายงานไม่ได้ระบุอย่างครบถ้วนถึงระบบนิเวศที่หลากหลายอย่างเช่น ไม่มีการพูดถึงดอนตาแผ้ว ซึ่งเป็นระบบนิเวศสันดอนทรายที่เป็นที่ทำมาหากินของชาวบ้านจำนวนมาก เพราะมีสัตว์ทะเลชุกชุม ในขณะที่เมื่อพูดถึงความอุดมสมบูรณ์รายงานการศึกษาก็ระบุว่า สำรวจพบสัตว์หน้าดิน เพียง 1 ชนิด จำนวน 7 ตัว ในพื้นที่ 1 ตารางเมตร ซึ่งขัดกับข้อมูลที่มีนักนิเวศวิทยาจำนวนมากเคยมาสำรวจวิจัยในพื้นที่เดียวกันนี้” ดร.อาภา กล่าว

นักวิชาการผู้นี้ยังระบุว่า ยังมีข้อสังเกตว่ารายงานฉบับนี้ ไม่มีการศึกษาผลกระทบหรือแนวทางรับมือในกรณีต่างๆ เช่น เรื่องการกัดเซาะชายฝั่ง ไม่มีการศึกษาเรื่องแผ่นดินไหว สึนามิ หรือแม้กระทั่งพายุ ทำให้ไม่มีแนวทางการป้องกัน หรือรับมือผลกระทบระบุไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่ารายงานฉบับนี้ ไม่มีคุณภาพ

“ส่วนตัวเคยมาได้ที่นี่ แล้วพบว่า จ.ระนองมีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ทั้งพื้นที่บนบก และในทะเลควรอย่างยิ่งที่จะรักษา และรู้สึกว่าเราต้องมีส่วนที่จะออกมารักษาสิ่งเหล่านี้ให้เป็นสมบัติ เป็นทรัพยากรของทุกคน” ดร.อาภา กล่าว

ทั้งนี้ในช่วงเย็นขบวนจะพักค้างที่สำนักสงฆ์บกต้อ และจะมีเวทีพูดคุยเรื่อง “ชาวประมงพื้นบ้าน มอแกน ไทยพลัดถิ่น ผู้ไม่อยู่ในสมการการพัฒนาของรัฐ”

On Key

Related Posts

เร่งแก้ไขน้ำประปาปนเปื้อน 18 หมู่บ้าน นายก อบจ.เชียงรายเผยระบบไม่ได้มาตรฐาน-เตรียมปรับปรุงเพิ่ม-คพ.ส่งทีมตรวจลงพื้นที่ตรวจสอบทั้งหมด-เบื้องต้น 3 หมู่บ้านไม่พบสารโลหะหนัก-สำรวจหาแหล่งน้ำสะอาดแห่งใหม่