Search

สภาอุตฯตากแนะส่งผู้ลี้ภัยในค่ายกลับรัฐกะเหรี่ยง-เผยปัจจุบันกองกำลังกะเหรี่ยงควบคุมพื้นที่แนวชายแดนได้หมดแล้ว-เชื่อมีศักยภาพรับคนของตัวเองกลับได้ ขณะที่จ.ตากจัดประชุมระดมความช่วยเหลือหลังถูกสหรัฐฯตัดงบประมาณ

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 นายชัยวัฒน์ วิทิตธรรมวงศ์ เป็นประธานอาวุโสสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่องค์กรสาธารณกุศลระหว่างประเทศคือ TBC (The Border Consortium) และ IRC (International Rescue Committee) ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในค่ายผู้ลี้ภัยต้องยุติความช่วยเหลือตั้งแต่สิ้นเดือนกรกฎาคม ส่งผลกระทบต่อผู้ลี้ภัยในศูนย์อพยพ 9 แห่งชายแดนไทย-พม่าไม่ต่ำกว่า 100,000 คนว่า ข้อเสนอที่ให้ผู้ลี้ภัยในค่ายออกมาทำงานด้านนอกได้นั้น ตนไม่เห็นด้วยและมีความพยายามเช่นนี้มาแล้วหลายปี และกระทรวงมหาดไทยก็ไม่ยอม

นายชัยวัฒน์กล่าวว่า ควรส่งผู้ลี้ภัยเหล่านี้กลับถิ่นฐานเดิมเพราะฝั่งพื้นที่ตามแนวชายแดนรัฐกะเหรี่ยงปัจจุบันควบคุมโดยกองกำลังชาวกะเหรี่ยงอยู่แล้ว ควรมีประสานกับผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยงให้มารับชาวกะเหรี่ยงในค่ายฯกลับไป ซึ่งเชื่อว่าพวกเขามีศักยภาพเพียงพอ

ผู้สื่อข่าวถามว่าควรนำผู้ลี้ภัยในค่ายออกมาทำงานเพื่อทดแทนแรงงานที่กำลังขาดแคลนหรือไม่ นายชัยวัฒน์กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยเพราะคนเหล่านี้ไม่มีบัตร และส่วนใหญ่เกิดในประเทศไทยซึ่งไม่มีการควบคุมดูแลอไรต่างๆเลย ที่สำคัญคือเมื่อออกมาแล้วนายจ้างจะรับผิดชอบหรือไม่ และเชื่อว่ากระทรวงมหาดไทยก็ไม่ยอม

ผู้สื่อข่าวถามว่าควรให้ความช่วยเหลือเฉพาะหน้าหรือไม่ นายชัยวัฒน์กล่าวว่า สิ่งที่เขาต้องการคืออาหารและยา ถามว่าเราจะเอาที่ไหนไปเลี้ยงเพราะจังหวัดก็ไม่มีงบประมาณซึ่งต้องเป็นงบจากส่วนกลางอย่างเดียว

“ผ่านมา 6 เดือนแล้ว รัฐบาลยังไม่ทำอะไรเลย จริงๆแล้วทางกะเหรี่ยงมีความผูกพันกับไทย ที่ผ่านมานโยบายของเรามันสุภาพบุรุษเกินไป ยึดหลักการมากเกินไป ทั้งๆที่ค่ายเหล่านี้อยู่มาหลายสิบปี แต่ไม่สามารถยุบได้เพราะมันเป็นเรื่องของผลประโยชน์ของบางฝ่าย ”นายชัยวัฒน์ กล่าว

ขณะที่ศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า การยุติความช่วยเหลือส่งผลกระทบต่อผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา (ผภร.) ในพื้นที่พักพิงชั่วคราว 3 แห่ง ของจังหวัดตากประกอบด้วย พื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ บ้านแม่หละ อ.ท่าสองยาง พื้นที่พักพิงชั่วคราวๆ บ้านอุ้มเปี้ยม อ.พบพระ และพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ บ้านนุโพ อ.อุ้มผาง โดยมีผภร. จำนวนกว่า 45,000 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568) ด้วยการระงับการให้ความช่วยเหลือของรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีความกะทันหัน ซึ่ง ผภร.ได้อาศัยในเขตพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2527

ศูนย์สั่งการฯระบุว่า จ.ตากได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาสถานการณ์ ผลกระทบ มาตรการและแนวทางการแก้ไขปัญหา เพื่อหาข้อเสนอในระดับนโยบาย พร้อมทั้งหารือร่วมกับองค์กรฯ ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือแนวทางการให้ความช่วยเหลือ ผภร.โดยกำหนดแผนการช่วยเหลือ ประกอบด้วย ด้านการแพทย์และสาธารณสุข หน่วยรับผิดชอบคือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตาก วางแผนจัดให้มีบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข ดำเนินการโดยอาสาสมัครสาธารณสุข (Medic) ร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ โดยจ้างอาสาสมัครสาธารณสุข ทำงานในอัตราเดือนละ 2,500 บาท จำนวน 80 คน รวมเป็นเงิน 200,000 บาท/เดือน มีบริการผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน หากพบผู้ป่วยมีอาการหนักเกินศักยภาพให้ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่

ด้านอาหารหน่วยประสานงานคือสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตาก ประสานงานกับมูลนิธิภาคเอกชน เพื่อขอรับบริจาคข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อแจกจ่ายให้กับ ผภร. ส่วนด้านการส่งเสริมอาชีพ ซึ่งหน่วยประสานงานคือแรงงานจังหวัดตาก ประสานงานกับผู้ประกอบการ เพื่อนำงานเข้าไปให้ผภร.ทำภายในพื้นที่พักพิงชั่วคราวๆ

ศูนย์สั่งการชายแดนฯระบุว่า ด้านการบริหารจัดการขยะ หน่วยประสานงานคือท้องถิ่นจังหวัดตาก ประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เป็นที่ตั้งของพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ เตรียมข้อมูลแผนงานการบริหารจัดการขยะร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตาก

ส่วนด้านน้ำอุปโภค-บริโภค หน่วยประสานงานคือที่ทำการปกครองอำเภอ ทั้ง 3 อำเภอซึ่งเป็นที่ตั้งพื้นที่พักพิงชั่วคราวๆ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบริหารจัดการน้ำอุปโภค บริโภค และขอรับการสนับสนุนจากการประปาส่วนภูมิภาค ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าแผนการช่วยเหลือดังกล่าวจะสามารถบรรเทาปัญหาไปได้จนถึงสิ้นเดือน ตุลาคม 2568 โดยการใช้งบประมาณและการให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับทางการไทยนั้น เป็นไปเพื่อความจำเป็นเร่งด่วนทางมนุษยธรรม ต่อผภร. และเพื่อควบคุม และจำกัดความเสี่ยงที่อาจกระทบต่อประชาชนคนไทย


On Key

Related Posts

เร่งแก้ไขน้ำประปาปนเปื้อน 18 หมู่บ้าน นายก อบจ.เชียงรายเผยระบบไม่ได้มาตรฐาน-เตรียมปรับปรุงเพิ่ม-คพ.ส่งทีมตรวจลงพื้นที่ตรวจสอบทั้งหมด-เบื้องต้น 3 หมู่บ้านไม่พบสารโลหะหนัก-สำรวจหาแหล่งน้ำสะอาดแห่งใหม่